The New Space for Fusion Japanese Food Lovers
Origami Fusion Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชันที่แอบซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูที่ครีเอตมาอย่างตั้งใจโดยเชฟมากฝีมือ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Savor the Taste of Endless Possibilities : รสชาติแห่งความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ’ เสน่ห์ของร้านอาหารฟิวชันที่เปรียบเสมือน Origami (折り紙) ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึง 'การพับกระดาษ' ความโดดเด่นจะอยู่ที่ผู้พับ ซึ่งเปรียบได้กับร้านอาหารและเชฟ ผู้สามารถใช้ความสร้างสรรค์และจินตนาการในการครีเอตรูปลักษณ์ หน้าตาอาหาร และรสชาติให้ออกมาเป็นแบบใดก็ได้โดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ทำให้ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร สนุก อร่อย และประทับใจทุกครั้งที่ได้มาเยือน
French Garden Design Decoration
เพราะหัวใจหลักของร้านคือแนวคิดที่อยู่บนความเป็นไปได้ไม่รู้จบ ทำให้ที่นี่เลือกดีไซน์ร้านแบบฉีกกฎเกณฑ์และภาพจำของร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ ด้วยการตกแต่งในสไตล์ French Garden ซึ่งโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ไม้สีอ่อน สีขาวตัดกับสีเขียวสบายตา เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศของความอบอุ่นและผ่อนคลาย
นอกจากนี้ยังผุดแนวคิด Origami Space ที่ตั้งใจเปรียบตัวเองเป็นกระดาษเปล่า ให้สามารถพับต่อเป็นรูปร่างได้ตามต้องการ โดยสามารถประยุกต์ใช้พื้นที่แบบใดก็ได้ผ่านการจัดเลี้ยงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะอยากจัด Event, Party หรือกิจกรรม Meeting ก็สามารถใช้พื้นที่ร้านเป็นในส่วนของ Private Zone ได้ตามความต้องการ เพื่อเป็นการจัดสรรพื้นที่ที่เป็นไปได้สำหรับทุกคนและทุกโอกาส เติมเต็มความสุขทุกครั้งที่ได้เข้ามายังร้านอาหารแห่งนี้
Savor the Taste of Endless Possibilities
รสชาติแห่งความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบ ของคุณคือแบบไหน?
สำหรับที่ Origami Fusion Japanese Restaurant ขอฉีกกฎอาหารญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ ด้วยการรวบรวมความเป็นไปได้ของรสชาตินานาชาติมาผสมผสานกับอาหารญี่ปุ่น จนกลายเป็นรสชาติใหม่ที่สายฟู้ดดี้ต้องหลงรัก เริ่มต้นกันที่ Quesadilla Shrimp with Spicy Mentiko Sauce (300 บาท) เมนู Quesadilla พิซซ่าสไตล์เม็กซิกันที่สอดไส้กุ้ง, หัวหอม, พริกยักษ์ 3 สี, ปาปริก้า, เชดด้าชีส และมอสซาเรลลาชีส เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสเมนไทโกะ ให้อิ่มอร่อยคู่กัน
ถัดมาเป็น 3 Ocean Roll and Dijon Mustard Seed (300 บาท) โรลสไตล์ญี่ปุ่นที่โรลด้วยหัวไชเท้าดองหมักกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน สอดไส้ด้วยปลาจาก 3 แหล่งน้ำ ทั้งปลาน้ำจืด ปลาน้ำกร่อย และปลาน้ำเค็มอย่าง ปลาทูน่า แซลมอน และฮามาจิ ผสานความอร่อยเข้ากับปลาหมึกและผักนานาชนิดที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะหั่นเสิร์ฟเป็นคำรับประทานง่าย เป็นอีกหนึ่งจานรองท้องที่ใคร ๆ ก็ห้ามพลาด!
สามารถสั่งมารับประทานคู่กันกับ Yuzu Josei (180 บาท) ม็อกเทลที่ให้รสสัมผัสนุ่มนวลและอ่อนหวานราวกับหญิงสาว ได้กลิ่นอายของส้มยูซุผลไม้ประจำชาติญี่ปุ่น ซึ่งแก้วนี้มีส่วนผสมของยูซุพูเร ผสานกลิ่นหอมเข้ากับ Orange Citrus และความซ่าเล็กน้อยจากโทนิคได้อย่างลงตัว
ส่วนใครมองหาเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยแน่ ลองเป็น Grilled Ginger Chicken Teriyaki with Asian Coleslaw Somtum Dressing (200 บาท) เมนูที่ให้กลิ่นอายสลัดแต่บอกเลยว่าแซ่บ กับผักสลัดนานาชนิดท็อปด้วยไก่เทอริยากิสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟมาพร้อมกันกับน้ำส้มตำรสแซ่บ ให้ความเปรี้ยวหวานเผ็ดเล็กน้อยอร่อยลงตัว
สำหรับใครที่ชอบกินเส้นต้องลอง Udon Khao Soi with Chashu (350 บาท) เมนูฟิวชันญี่ปุ่นและไทยที่หยิบเอกลักษณ์ของข้าวซอยไทย ซึ่งได้รับรางวัลว่าเป็นซุปที่ดีที่สุดในโลกจากนักรีวิวในปี 2022 และเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมจากทางภาคเหนือของไทย มาผสานกับเส้นอูด้งโฮมเมดเหนียวนุ่ม แล้วท็อปด้วยหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น
หรือจะลองเป็น Fried Rice with Basil and Grilled Pork Neck (275 บาท) เมนูแซ่บ ๆ ที่จะฉีกกฎกะเพราที่คุณรู้จักด้วยการนำข้าวญี่ปุ่นไปผัดกับซอสกะเพราสูตรพิเศษของทางร้าน ท็อปด้านบนด้วยไข่ออนเซ็น หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว กะเพราทอด และแตงกวา จานนี้โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความอร่อยแบบไทย ๆ และกิมมิกความเป็นญี่ปุ่นที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
สามารถสั่งคู่กันกับ Taki Shinsena (180 บาท) เมนูค็อกเทลแก้วนี้ ให้ความสดชื่นเหมือนได้พักผ่อนริมน้ำตก โดดเด่นด้วยส่วนผสมแสนสดชื่น อาทิ มะพร้าวน้ำหอม น้ำใบเตย ที่ให้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของใบโหระพาและชาคาโมมายล์ แล้วเติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้ง ก่อนจะออนท็อปด้วยโซดาสุดซาบซ่า
Linguine Truffle with Wagyu Beef Tataki (400 บาท) ทางร้านเลือกใช้สปาเก็ตตี้เส้น Linguine คลุกเคล้าเข้ากันกับซอสทรัฟเฟิลหอม ๆ ท็อปด้วยเนื้อย่างทาทากิ เป็นหนึ่งจานที่นำเสนอเอกลักษณ์ความอร่อยของอาหารอิตาเลียนและเอกลักษณ์ของกรรมวิธีการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
Lamb Shank Massaman with Tsukemono (650 บาท) ลืมภาพแกงมัสมั่นแบบเดิม ๆ ไปได้เลยเมื่อเจอจานนี้ โดยเชฟได้นำขาแกะไปเคี่ยวในแกงมัสมั่นแบบเป็นวันจนได้รสชาติที่เข้มข้นเข้าเนื้อ หอมกลิ่นเครื่องแกงไทย เมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักดองสไตล์ญี่ปุ่น หากได้รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน รับรองว่าอร่อยฟิน
!
ปิดท้ายด้วย Mizu Shingen Mochi (150 บาท) ขนมโมจิหยดน้ำเนื้อใส เสิร์ฟมาพร้อมกับครัมเบิ้ลถั่วตัดสไตล์ไทย ทานง่าย เป็นการปิดท้ายมื้อได้เป็นอย่างดี