Modern-Thai Fine Dining
Osha ร้านอาหารมิชลินสตาร์และร้านอาหารไทยโมเดิร์นแบบ Fine-dining อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในร้านที่ร่วมแคมเปญ Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดค็อกเทลสัญชาติไทยที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นและสุราไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 8 ทศวรรษอย่าง Mekhong
ร้าน Osha นำทัพด้วย เชฟหนุ่ม ธนินทร จันทรวรรณ ผู้ที่มีประสบการณ์การทำอาหารมานานกว่า 20 ปี รวมไปถึงการร่วมงานสั้น ๆ กับเชฟระดับโลกอย่าง Heston Blumental จาก Fat Duck และ Dinner by Heston Blumental และเซเลบริตี้เชฟ Gordon Ramsey โดยเซ็ตเมนูของทางร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่าง ๆ ที่เชฟจะคัดสรรเอาวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ
A Touch of Thai
บรรยากาศโดยรวมของทางร้านเต็มไปด้วยความหรูหราที่มีเสน่ห์เเฝงความเป็นไทยไว้ในทุก ๆ รายละเอียด เช่น บาตรพระ ชฎา วอลเปเปอร์จากวรรณคดีไทย เเละลวดลายไทยตกเเต่งอยู่ทั่วร้าน
การตกแต่งด้วยโทนสีดำทองสร้างความขรึม เท่ เรียบหรูให้กับร้าน ในขณะที่สีชมพูสอดเเทรกความสนุก สนาน และความเป็นกันเอง สำหรับผู้ที่ต้องการมาดริงก์ สามารถนั่งดื่มที่บาร์ LED เปลี่ยนสีหรือโซนเอาท์ดอร์เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศได้แบบชิลล์ ๆ
Thai Signature Dishes with Perfect Presentation
ทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูอาหารหน้าตาโมเดิร์นแต่สอดแทรกความเป็นไทยไว้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยการตกแต่งและออกแบบอันสวยงามแต่ยังคงให้ความสำคัญกับรสชาติ วัตถุดิบและการสื่อสารแบบไทย ๆ ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมในทุก ๆ จาน เริ่มต้นกันที่ แสร้งว่ากุ้ง (380 บาท++) เมนูออเดิร์ฟแบบไทยโบราณที่นำมาดัดแปลงใหม่ในรสชาติแบบดั้งเดิม ด้วยการนำกุ้งชิ้นโตยำกับสมุนไพรผสมด้วยน้ำมะขามให้รสชาติคล้ายลาบแต่ไม่ใส่ข้าวคั่ว เสิร์ฟบนสาคูแครกเกอร์
หรือจะลองเป็นกะเพราเป็ดกรอบ (580 บาท++) เมนูฟิวชั่นไทย - ยุโรป ที่ทางร้านเลือกใช้เป็ดคุณภาพดีเนื้อแน่นนำไปตุ๋นกับน้ำมันเป็ด จากนั้นใช้เทคนิคการซูวีร์จนเปื่อยแล้วนำไปทอดให้หนังกรอบน่าลิ้มลอง เสิร์ฟคู่กับน้ำกะเพรารูปแบบใหม่สไตล์ของโอชา และยังคงเสน่ห์และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกะเพราไว้ในทุก ๆ คำ
หรือใครที่อยากจะซดน้ำซุปร้อน ๆ อย่าลืมสั่ง ปลาทูต้มมะดัน (350 บาท++) เมนูพิเศษในช่วงหน้าฝน ที่นำปลาทูแม่กลองมาแล่ส่วนเนื้อไปพันกับสมุนไพร จากนั้นนำส่วนหัวและก้างไปทอดจนเหลืองกรอบ เป็นเมนูที่สามารถทานได้ทั้งตัว เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ปลาแซลมอน และซุปต้มยำที่ให้ความเปรี้ยวจากมะดัน ให้รสชาติเปรี้ยวและแซ่บสไตล์ไทย ท็อปด้านบนด้วยดอกดาหลา ดอกไม้สวยงามที่หาได้ในช่วงฤดูฝน
แนะนำให้สั่งทานคู่กับข้าวสุดพิเศษที่ทางร้านรังสรรค์มาให้เลือกกันถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสวย (120 บาท++) ข้าวสวยร้อน ๆ ที่ใครหลายคนชื่นชอบ ข้าวกล้อง (150 บาท++) ข้าวที่ทางร้านนำไปหุงกับน้ำมะพร้าว จนได้รสหวานและกลิ่นหอมจากมะพร้าว เสิร์ฟในกะลามะพร้าวสวยงามหากลองทานคู่กับแกงกะทิก็ได้ช่วยทำให้รสกลมกล่อมยิ่งขึ้น หรือจะลองเป็น ข้าวอัญชัญ (150 บาท++) ข้าวคุณภาพดีหุงกับน้ำอัญชัญ จนกลายเป็นสีน้ำเงินสวย และช่วยเสริมรสชาติของอาหารได้เป็นอย่างดี
ตบท้ายกันด้วยของหวานสุดพิเศษจากทางร้านที่นำเสนอ มาการองมังคุด (100 บาท++/2 ชิ้น) อภินันทนาการดี ๆ สำหรับลูกค้าที่สั่งอาหารแบบเป็นเซ็ตทานที่ร้าน ที่เลือกใช้มาการองขนมขึ้นชื่อจากฝรั่งเศสมาดัดแปลงทำเป็นรสชาติแบบไทย ๆ ด้วยการใช้มังคุดกวนทำเป็นไส้ และนำเอาฝามาการองไปอบควันเทียนให้กลิ่นหอมแบบไทย ๆ น่าลิ้มลอง
From Thai Culture to Thai Creative Cocktail
อิ่มอร่อยกับอาหารสุดพิเศษในมื้อนี้กันไปแล้วอย่าลืมปิดท้ายด้วยค็อกเทลเก๋ ๆ ที่ทางร้านสร้างสรรค์จาก Mekhong มาให้ได้สัมผัสถึงเรื่องราวความเป็นไทยผ่านเครื่องดื่มที่ผ่านการครีเอทมาอย่างตั้งใจกับ มาลัย (450 บาท++) เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากการต้อนรับแบบไทย ๆ จากวัฒนธรรมการมอบมาลัยแทนความเคารพต่อผู้มาเยือน โดยทางร้านเลือกใช้น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ผสมกับน้ำมะพร้าวเผาและ Mekhong ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็ก ๆ เติมความหอมสดชื่นอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ไทยจากน้ำเชื่อมดอกจำปาและดอกจำปี เสิร์ฟมาในผอบเบญจรงค์ประดับด้วยมาลัยที่เรียงร้อยมาอย่างสวยงาม
