New Comfort Zone in Pathum Thani
หากใครที่กำลังมองหาร้านบรรยากาศดี ๆ สักที่หนึ่งซึ่งไว้สำหรับเป็น Comfort Zone ที่มอบความสบายตาสบายใจให้คุณได้ในระหว่างละก็ ลองแวะมาที่ Pareto Café ร้านกาแฟและคาเฟ่เก๋ ๆ ภายใต้บรรยากาศแสนสบายที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศ
Roman House Design
Pareto Café มาพร้อมบรรยากาศสุดร่มรื่นของต้นไม้และสวนสวยที่อยู่โดยรอบ ตัวบ้านถูกออกแบบในสไตล์โรมันที่ผสานผสานความเป็นโมเดิร์นผ่านการตกแต่งภายในร้าน ซึ่งทำให้ดูเรียบง่ายและอบอุ่น ก่อนจะเพิ่มกิมมิกให้โซนนั่งด้านนอกด้วยหน้าต่างบานใหญ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งพักอยู่ภายในเรือนกระจกสวย โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนสบายตา
สำหรับที่มาของคำว่า Pareto Café นั้น มาจากชื่อของ Vilfreso Pareto นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาเลียน เนื่องจาก คุณต้น-เจ้าของร้านและบาริสต้า เรียนจบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์และได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐศาสตร์สวัสดิการ ที่กล่าวถึงการเสียประโยชน์เพื่อให้ได้ประโยชน์ คุณต้นจึงนำมาเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า เมื่อลูกค้าเสียทรัพย์ก็ควรได้รับสิ่งดี ๆ กลับไปให้คุ้มกับสิ่งที่เสียมาเช่นกัน ทางร้านจึงเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดในการครีเอททุกเมนูภายในร้าน เพื่อเสิร์ฟขนมและเครื่องดื่มที่ดีให้กับทุกคนที่มาเยือน
Coffee and More
มาถึงไฮไลต์สำคัญอย่างเมนูแนะนำประจำคาเฟ่กันบ้าง เริ่มต้นกันที่ Cinnamon Latte (H 95 บาท) กาแฟลาเต้จากเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีที่ผสมผสานกับคาราเมลสูตรโฮมเมด ซึ่งทางลงมือเคี่ยวเอง ให้กาแฟถ้วยนี้มีความหอมหวานเป็นพิเศษ โดยเสิร์ฟมาพร้อมกับซินนามอนแท่งเคลือบน้ำตาลกรวด เวลาดื่มให้คนลงไปในแก้ว จะได้ความหวานและความหอมของซินนามอน ช่วยให้กาแฟแก้วนี้น่าดื่มยิ่งขึ้น เมื่อมีเครื่องดื่มแก้วโปรดกันแล้ว อย่าลืมสั่ง Croissant (90 บาท) บัตเตอร์ครัวซองต์อบร้อน ให้กลิ่นหอมของเนยสดจากนิวซีแลนด์
แต่ถ้าหากใครมองหาเครื่องดื่มที่ช่วยเติมสดชื่น ลองเป็น Premium Yuzu Shakerato (185 บาท) กาแฟคุณภาพดีผสมผสานกับน้ำส้มยูซุที่ให้ทั้งน้ำและเนื้อส้ม ได้ความหอมหวาน ดื่มแล้วรู้สึกคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
ทางร้านแนะนำให้ดื่มคู่กับขนมเค้กอย่าง Coconut Cake (105 บาท) เค้กมะพร้าวนมสด เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นมะพร้าว ใช้ความหวานตามธรรมชาติ ไม่มัน ใครชอบเค้กมะพร้าวต้องลอง
ปิดท้ายกันด้วย Pareto Mocktail (115 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่หยิบเอาเสน่ห์ของกลิ่นและรสชาติจากผลไม้มาเป็นตัวชูโรง สำหรับแก้วนี้มีส่วนผสมของสตรอเบอร์รี แอปเปิ้ล และวอดก้าเผา ก่อนจะเชคให้เข้ากันกับโรสแมรี่ที่มาเติมกลิ่นหอมอ่อน ๆ และท็อปมาด้วยซินนามอนเผา ที่ทำให้แก้วนี้มีรสชาติโดดเด่นที่สุดในร้าน
แล้วอย่าลืมนำมาจับคู่กันกับ Double Chocolate Mousse Cake (95 บาท) เค้กช็อกโกแลตเนื้อเนียน รสเข้มข้น ไม่หวานจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่ทานหวาน ซึ่งเบเกอรีประเภทต่าง ๆ จะทำสดใหม่ที่ครัวกลางชั้น 2 ของร้านอยู่เสมอ