Artisanal Thai Cuisine
หากพูดถึงอาหารไทย คนจำนวนไม่น้อยคงยกให้เป็นอาหารอันดับหนึ่งในดวงใจ อาจเพราะความคุ้นชินหรือเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่อาจหาได้จากอาหารชาติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติไปจนถึงรูปแบบการนำเสนอ อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเอง การที่จะหาร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับจริง ๆ เป็นเรื่องค่อนข้างยาก สำหรับ Paste ร้านอาหารไทยสไตล์ Innovative แห่งนี้ ยังคงยึดคอนเซ็ปต์การปรุงอาหารแบบไทยดั้งเดิม และนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย
The Chefs & Inspiration
ร้านนี้เกิดจากเชฟสามีภรรยา Jason Bailey และ คุณบี - บงกช สระทองอุ่น ที่ริเริ่มร้านอาหารตั้งแต่ปี 2013 จากสาขาทองหล่อ และได้ย้ายมาที่ราชประสงค์เมื่อปี 2015 เชฟทั้งสองนำเสนออาหารไทยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำรับชาววังและสูตรอาหารไทยโบราณในช่วงศตวรรษที่ 19 - 20 และนำมาประยุกต์เข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งในประเทศและทั่วโลกเพื่อให้ได้อาหารไทยที่รสชาติถูกปากทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือฝรั่ง
Sense of Space, Natural Lights & Expansive Formal Dining Area
ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 3 Gaysorn Village ภายในร้านให้ความโปร่งจากเพดานสูง มีแสงสว่างจากแสงธรรมชาติส่องทั่วถึง ที่นั่งจัดแบ่งเป็นโซนชัดเจน ทั้งโต๊ะยาว โต๊ะเดี่ยว โต๊ะคู่ หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีโต๊ะกลมริมกระจกเช่นกัน เน้นใช้สีโทนสว่าง และเพิ่มรายละเอียดตามมุมต่าง ๆ ไม่ว่างจะเป็นหมอนอิงสีฟ้าเข้ม หรือของประดับตกแต่งสไตล์ไทย ๆ บนชั้นวาง
Comprehensive Dining Experience
สำหรับอาหารทุกจาน ล้วนแต่เกิดขึ้นจากส่วนผสมกว่า 30 ชนิด ทั้งสมุนไพร เครื่องเทศ และวัตถุดิบหายากที่เชฟบีเดินทางไปค้นหาด้วยตัวเอง เพื่อให้อาหารทุกจาน ไม่ว่าจะเป็นของทานเล่น จานหลัก หรือแม้แต่ขนมหวาน มีเอกลักษณ์และสะท้อนความเป็นไทยให้มากที่สุด เริ่มด้วย Amuse-bouche ออเดิร์ฟสไตล์ไทยที่เสิร์ฟต้อนรับแขกทุกคน น้ำพริกสยาม ที่มีส่วนผสมหลักอย่างแคปหมูและเนื้อปูจักจั่น
มาถึงของว่างอย่าง สาคูไส้ปลา (400 บาท) เมนูทานเล่นที่นำเอาวัตถุดิบชั้นเยี่ยมมาเป็นส่วนผสม โดยใช้ปลาเทราต์โครงการหลวงมาทำไส้ คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรโบราณมากมาย เสิร์ฟแบบห่อใบบัวบก ท็อปด้วยงาขี้มอด แป้งเนียนเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับไส้ปลาเทราต์
อีกหนึ่งจานแนะนำ แตงโมปลาแห้ง (400 บาท) หนึ่งในเมนูที่เสิร์ฟในพระราชพิธีเปิดวัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อ พ.ศ. 2352 โดยดัดแปลงใช้วัตถุดิบอย่างปลาแซลมอนมาทำเป็นปลาแห้ง โรยข่าและหอมทอด ทานคู่กับแตงโมก้อนกลมรสหวานเย็นชื่นใจ และเพิ่มความกรุบกรอบจากไข่แซลมอนที่ตกแต่งด้านบน
ทางร้านแนะนำ ต้มยำเม็ดขนุนและขาหมูโบราณ (470 บาท) ซุปต้มยำรสเปรี้ยวเข้มข้นจัดจ้านที่ได้จากน้ำสต็อคไก่ผสมสมุนไพรและเครื่องต้มยำต่าง ๆ และขาหมูเนื้อนุ่มโรยหอมแดงเผา ทานกับน้ำซุปซดคล่องคอ
ลาบเหนือแบบล้านนา (750 บาท) ใส่เผือก แก้มหมูย่าง และดีปลี โรยสาหร่ายอบกรอบ รสชาติออกเผ็ด เข้มข้น ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันได้ดี
อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองก็คือ มัสมั่นแกะ (800 บาท) รสชาติแบบไทย ๆ พิเศษด้วยการใช้แกะเนื้อนุ่ม เพิ่มทุเรียนหมอนทองเพื่อให้มีความหอมมัน โรยหน้าด้วยจาวมะพร้าว
Delicacy Sweets
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Petit Four จาน Complimentary จากร้าน ดาร์กช็อคโกแลตทรัฟเฟิลสอดไส้รัมไทยและส้ม รสเข้มข้น
ส่วนใครที่มองหาขนมหวาน ทางร้านแนะนำ Mushrooms & Truffles (400 บาท) ขนมหวานหน้าตาสวยงามที่ประกอบด้วยขนมมากมาย เริ่มจากช็อคโกแลตพาร์เฟ่ต์รูปเห็ดชิตาเกะ เสิร์ฟคู่กับซอร์เบต์ลิ้นจี่ ช็อคโกแลตทรัฟเฟิล เคปกูสเบอร์รี่ และผลไม้สด ทั้งหมดนี้วางมาบนซอสไวท์ช็อคโกแลตใบเตย
