Peace of Mind
หลังจากได้กระแสตอบรับที่ดีมาก Peace - Oriental Teahouse ห้องน้ำชาสไตล์ตะวันออกย่านเอกมัยของ คุณธีรชัย ลิมป์ไพฑูรย์ ก็ขยับมาเปิดสาขาใหม่ที่ซอยสุขุมวิท 49 ฝั่งตรงข้าม The 49 Terrace ซึ่งมีพื้นที่สำหรับนั่งจิบชาที่กว้างกว่าเดิม โดยที่นี่นำเอาสิ่งที่เรียนรู้ทั้งหมดจากสาขาแรกมาปรับใช้
Tea Culture
คุณธีรชัย - เจ้าของร้าน เห็นว่าในประเทศไทยยังไม่มี Tea House ที่แท้จริง จึงทำให้คนไทยยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมชา ซึ่ง Peace - Oriental Teahouse ต้องการที่จะให้ความรู้ด้านชาตะวันออกให้กับผู้คนทั่วไป ในร้านจึงมีอินโฟกราฟฟิกแสดงประเภทของชาและประโยชน์ของชา เพื่อให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาที่ร้านจะได้เข้าใจง่ายขึ้น
Wooden & Minimal
Peace - Oriental Teahouse ห้องน้ำชาแบบตะวันออกที่โดดเด่นเรื่องการชงชาจีนและญี่ปุ่น ยังคงใช้แนวคิดมินิมอลและไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งร้าน ด้านในแบ่งพื้นที่เป็นสามส่วน โซนติดเคาน์เตอร์เป็นโต๊ะไม้ยาว พื้นยกระดับให้อยู่ในระนาบเดียวกับผู้ชงชา มีเก้าอี้หันเข้าหาเคาน์เตอร์เพื่อให้เห็นและใกล้ชิดวัฒนธรรมการชงชาแบบวิถี Zen แท้ ๆ ผนังด้านข้างทำเป็นดิสเพลย์เพื่อวางอุปกรณ์ชงชา
โซนริมกระจกเน้นแสงธรรมชาติ มีโต๊ะกลมและเบาะนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยความที่อยู่หัวมุมถนนจึงทำให้ร้านได้ทัศนียภาพแบบ 360 องศาจากกระจกโค้งใส
Perfect Collection of Tea
ชาของที่ร้านจะเปลี่ยนคอลเลคชั่นทุกสามเดือน ด้วยเหตุนี้จึงมีชาใหม่ ๆ ทั้งชาจีนและญี่ปุ่นหลายสิบชนิดไว้คอยต้อนรับลูกค้าเสมอ ซึ่งชาแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการชงแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับน้ำที่ใช้ชงชาที่มี 4 ประเภท จำแนกตามปริมาณแร่ธาตุที่ไม่เท่ากัน เริ่มจาก น้ำแร่ธรรมชาติที่มีแร่ธาตุในปริมาณที่สูง น้ำแร่ธรรมชาติแช่ถ่าน น้ำที่มีความกระด้างต่ำแช่ถ่าน และน้ำฝนแช่ถ่าน ซึ่งน้ำแต่ละประเภทส่งผลต่อรสชาติของชาในการเพิ่มจุดเด่นหรือกลบจุดด้อยได้ น้ำที่มีแร่ธาตุสูงจะดึงความนุ่ม ความหวาน และสีของชาให้เด่นชัดขึ้น แต่จะกลบคาแรกเตอร์ที่แท้จริงของใบชา ส่วนน้ำฝนแช่ถ่านจะนำเสนอคาแรกเตอร์ที่แท้จริงของใบชา แต่จะทำให้ชาไม่นุ่ม ไม่หวาน และไม่มีสีสันเท่าชาที่ชงด้วยน้ำที่มีแร่ธาตุสูง
King of Japanese Green Tea
เริ่มต้นด้วย Gyokuro (450 บาท / เซ็ต) ได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งชาเขียวญี่ปุ่น มีคุณภาพดีที่สุดและหายากที่สุด อีกทั้งเป็นชาที่มีคลอโรฟิลล์สูงเพราะนำเอาฟางไปคลุมต้นชาก่อนเก็บเกี่ยว 20 วัน เพื่อให้ใบผลิตคลอโรฟิลล์ออกมามากกว่าปกติ ซึ่งทำให้เกิดรสอูมามิ โดยจะเสิร์ฟ 2 คอร์ส คอร์สแรกเสิร์ฟแบบเย็น เทน้ำฝนแช่ถ่านอุณหภูมิห้องไปในกาที่อยู่ในอุณหภูมิห้องเช่นกัน ตามด้วยน้ำแข็งที่ทำจากน้ำฝน จากนั้นนำไปแช่ในตู้ควบคุมอุณภูมิที่ 2 องศาเซลเซียสไม่ขาดไม่เกิน เป็นเวลา 20 นาที
เมื่อดื่มชาคอร์สแรกเสร็จแล้ว คอร์สที่สองจะเสิร์ฟชาแบบอุ่น แกล้มด้วยใบชาให้เคี้ยวสัมผัสรสชาติอูมามิ
Tea Ceremony
ที่ร้านยังมีมัทฉะ ชาเขียวอีกตัวที่นิยมกันอย่างแพร่หลายซึ่งมีหลายเกรด แต่ที่ Peace - Oriental Teahouse ใช้มัทฉะเกรดเดียวกับที่ใช้ในพิธีชงชาแบบ Zen Ceremonial Grade Matcha (690 บาท / เซ็ต) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในใบชาที่ดีที่สุดในโลก โดยหนึ่งเซ็ตจะชงสองครั้ง การชงรอบแรกเรียกว่า Koicha ซึ่งหมายถึงชาที่มีความเข้มข้นและหนาแน่นสูง ส่วนการชงรอบสองเรียกว่า Usucha หมายถึงชารสอ่อน เพราะมีมัทฉะน้อยกว่าชารอบแรก และมีน้ำในปริมาณที่มากกว่า ซึ่ง Usucha จะมีความบางของรสชาติ และละมุนกว่า Koicha
Finest Chinese Tea
สำหรับผู้ที่ชอบชาจีน โดยเฉพาะอู่หลง ลองสั่ง Oolong Wudong Yashixiang (450 บาท / เซ็ต) มีคุณลักษณะพิเศษคือความสามารถในการเลียนแบบกลิ่นธรรมชาติได้เองโดยไม่ต้องนำไปเบลนด์กับดอกไม้หรือผลไม้ ทำให้ชาอู่หลงชนิดนี้มีกลิ่นอ่อน ๆ ของน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ และผลไม้แห้ง เสิร์ฟแบบร้อนโดยใช้น้ำความกระด้างต่ำผสมน้ำแร่แช่ถ่าน เทน้ำร้อนลงในชาแล้วรินใส่แก้วทันที
Softness & Sweet
Peace - Oriental Teahouse ไม่ได้มีเพียงเครื่องดื่มเท่านั้น ของหวานที่ใช้ชาเขียวเป็นส่วนประกอบก็มีให้ลองชิมเช่นกัน Houjicha Cream (235 บาท) ไอศกรีมออร์แกนิกรสชาเขียวคั่วเนื้อเนียนนุ่มที่ใช้เวลาเตรียมกว่า 4 วัน และในขั้นตอนการทำไอศกรีมนี้ใบชาเขียวไม่ถูกความร้อนแม้แต่น้อย โดยมาพร้อมข้าวเหนียวดำก้อนกลมให้ทานสลับกันไป และวิธีการทานจะใช้ตะเกียบเท่านั้น ส่วนใครที่ยังติดใจชาเขียวรสเข้มข้นอย่าง Koicha ก็อาจจะลองเป็น Koicha Cream (285 บาท) ชาเขียวเข้มข้นในถ้วย ท๊อปด้วยไอศกรีมนมโฮมเมด วิธีทานคือให้จุ่มไอศกรีมในชาเขียวให้ชุ่มก่อนจึงค่อยทาน และเมื่อทานไอศกรีมจนหมด ทางร้านจะรินนมเล็กน้อยเพิ่มในถ้วยเพื่อให้ดื่มชาที่เหลือจนหมด
Grab & Go
สำหรับผู้ที่เร่งรีบ สาขานี้ก็มีให้บริการในแบบ Grab & Go เช่นกัน โดยสามารถสั่งเป็นแบบ Iced Matcha (140 บาท) ชาเขียวเย็นรสเข้มข้น
