The Drunken Room in Silom
ชวนชาวสีลมแวะมาเช็กอินบาร์ไม่ลับฉบับอเมริกันสไตล์กันที่ Pili Pala บาร์ค็อกเทลสุดเก๋ในย่านสีลมที่มาในคอนเซ็ปต์ Drunken Room โดย 3 ผู้ก่อตั้งอย่างคุณบิว ธนภร, คุณมิ้น สุภิสรา และคุณปอม ธนัชพร แก๊งเพื่อนที่ชื่นชอบในการแฮงก์เอาต์กันแบบสนุก ๆ จึงอยากริเริ่มบาร์สุดเก๋และเท่ ให้ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาไม่ต้องรู้สึกเกร็ง เอ็นจอยไปด้วยกันกับเครื่องดื่มแก้วพิเศษและเสียงดนตรีสนุก ๆ จากเหล่าดีเจตลอดค่ำคืน
The Underground Style
ตัวร้านเป็นอาคารขนาดกะทัดรัดตั้งอยู่ติดกันกับ La Ca Bra Bakery โดดเด่นตั้งแต่บรรยากาศด้านหน้าที่เป็นอาร์ตเวิร์ค ‘คุณโทมัส’ คาร์แร็กเตอร์อเมริกันบอยประจำร้านที่ชอบดื่ม Negroni เป็นชีวิตจิตใจ เชื้อเชิญให้คุณแวะเวียนเข้ามาดื่มด่ำกับรสชาติของค็อกเทลแก้วพิเศษโดยเฉพาะ
ด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัดบวกกับความชื่นชอบส่วนตัว ทำให้ที่นี่ออกมาเป็นบาร์ค็อกเทลสุดเก๋ที่ให้กลิ่นอายของอเมริกันสไตล์และความลึกลับใต้กินแบบ Underground ในอเมริกา มีมุมโซฟาและเคาน์เตอร์บาร์ให้คุณได้เลือกนังกันแบบชิลล์ ๆ ก่อนจะดิมแสงไฟสลัวให้คุณไม่เคอะเขินเมื่อยามที่เข้ามาเอ็นจอยภายในร้าน
สำหรับใครที่ต้องการเอนจอยกับเสียงดนตรีมันส์ ๆ ทางร้านมี DJ เปิดแผ่นทุกวันอังคาร - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 21.30 น. เป็นต้นไป
The Signature Cocktail
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ที่นี่เน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูค็อกเทลที่นำไป Infused กับผลไม้ ดื่มง่าย ได้กลิ่นหอมหวลชวนให้ลิ้มลอง โดยสามารถไล่ระดับเลเวลตั้งแต่แก้วเปิดไปจนถึงแก้วสุดท้ายก่อนภาพตัด โดยวัตถุดิบต่าง ๆ ของทางร้านเน้นวัตถุดิบที่พรีเมียม ผ่านกรรมวิธีการทำสไตล์โฮมเมดในสูตรของทางร้าน ให้แต่ละแก้วซิกเนเจอร์นั้นออกมามีเอกลักษณ์ รสชาติความอร่อยแบบเฉพาะตัว
เริ่มต้นกันที่แก้วแรกแบบเบา ๆ ดื่มง่าย อย่าง Strawberry Cup (420 บาท) เมนูค็อกเทลที่มีเบสเป็นความหอมหวานของ Tanqueray London Dry Gin และ Vermouth ที่บาร์เทนเดอร์นำไป Infused เข้ากันกับสตรอเบอร์รีสด ผสานด้วยความเปรี้ยวของเลมอนและความเฟรชของมินต์ ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยผลสตรอเบอร์รีสด เป็นหอมหวานที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี
ต่อกันที่อีกหนึ่งแก้วดื่มง่ายอย่าง Lychee Martini (420 บาท) แก้วที่มีเบสเป็น Tanqueray London Dry Gin และ Cocchi Americano สำหรับแก้วนี้นำไป Infused เข้ากันกับลิ้นจี่ จนได้รสชาติและกลิ่นที่ชัดเจน ก่อนจะเติมความสดชื่นด้วยเลมอนและยูซุ ท็อปด้านบนด้วยเชอร์รีสด
ส่วนใครกำลังมองหาค็อกเทลแก้วนุ่ม ๆ หอมหวานดื่มง่าย ลองเป็น Downtown Daisy (380 บาท) เครื่องดื่มที่มีเบสเป็น Gin นำไป Infused เข้ากันกับโรสแมรีและน้ำผึ้งจนได้ความหอมหวาน ก่อนจะนำไปเชคกับวิปครีมและไข่ขาวให้ได้เท็กซ์เจอร์สุดครีมมี เป็นแก้วนุ่ม ๆ ดื่มง่ายได้ความหวานหอมจากน้ำผึ้ง
ส่วนใครอยากได้ความเข้มข้นที่เข้มขึ้นอีกระดับแต่ยังคงความคลาสสิกของค็อกเทลสไตล์ Old Fashion อยู่ แนะนำให้ลองเป็น Broadway Old Fashion (490 บาท) เครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่มีส่วนผสมของ Flor De Cana พรีเมียมรัมจากนิการากัว และ Bulleit Rye ที่บาร์เทนเดอร์นำไป Infused เข้ากันกับโกโก้และกาแฟ ก่อนจะเติมน้ำตาลเพิ่มความหอมหวาน ท็อปด้านบนด้วยเมล็ดกาแฟช่วยเพิ่มอโรม่าให้แก้วนี้ได้เป็นอย่างดี
ต่อกันที่เมนู Seasonal ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คอค็อกเทลได้มาลิ้มลองกันเรื่อย ๆ สำหรับวันนี้เราได้ลองเป็น Drunken Mango Sticky Rice (420 บาท) เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจมากจากข้าวเหนียวมะม่วงของไทย ได้รสชาติของมะม่วงอย่างชัดเจน ก่อนจะเพิ่มความครีมมีให้แก้วนี้ด้วยกะทิ ท็อปด้านบนด้วยมะม่วงอบแห้งให้ได้ทานคู่กัน
ปิดท้ายกันด้วย Super Guava (380 บาท) เมนูซ่าบซ่าที่ครีเอตมาเพื่อดับร้อน ทางร้านจึงเลือกใช้ผลไม้อย่าง "ฝรั่ง" ผสานกันกับพริกเกลือและปาปริก้า ช่วยเพิ่มรสชาติให้แก้วนี้สดชื่นยิ่งขึ้น
