PQRS The Cafe & Restaurant From MasterChef Thailand
PQRS คาเฟ่ที่ครบเครื่องไปด้วยความอร่อยจากฝีมือของ 2 เจ้าของร้านอย่างเชฟเป่าเป้ เจสสิก้า หวัง แชมป์ MasterChef All Stars Thailand และเชฟเควส ชานิน จีมะ รองชนะเลิศ MasterChef All Stars Thailand ที่หลายคนคงเคยเห็นฝีไม้ลายมือของทั้งคู่กันมาแล้วผ่านรายการ และในวันนี้สำหรับแฟน ๆ ก็ถึงเวลาที่จะได้มาชิมกันจริง ๆ สักที ซึ่งชื่อ PQRS นี้มาจากคำว่า Paope Quest Recipe Studio สตูดิโอที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้ชิมรสชาติอาหารตำรับแชมป์ในทุก ๆ วัน
Combination of Contrastable Style
เพราะเชฟทั้งสองมีคาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน สไตล์การทำอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นที่ PQRS นี้จึงเป็นการสะท้อนสไตล์ของทั้งสองคนเอาไว้ในคอนเซ็ปต์แบบ ‘Combination Of Contrastable’ ความแตกต่างที่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว โดยตัวร้านเป็นอาคารขนาด 4 ชั้นในซอยทองหล่อ 19 ที่ด้านหน้าโดดเด่นด้วยความเรียบหรูผสานความโมเดิร์นเอาไว้ เมื่อก้าวเข้ามาด้านในจะพบกับเคาน์เตอร์สั่งอาหารและตู้โชว์เบเกอรีแนะนำที่จะสลับสับความอร่อยมาให้คุณได้ลองในทุก ๆ วัน
ก่อนจะขึ้นไปนั่งชิลล์กันบนชั้น 2 ที่จะแบ่งเป็น 2 โซนที่ดีไซน์ออกมาแบบสะท้อนตัวตนความเป็นผู้หญิงหวาน ๆ แต่แฝงไปด้วยความเรียบหรูผ่านเฟอร์นิเจอร์สีขาว ทองและชมพู หรือจะเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นมินิมัลแบบเชฟเควสต์ในฝั่งริมหน้าต่าง หรือถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว เดินขึ้นมาบนชั้น 3 ที่เป็นส่วนของชั้นลอย มีเคาน์เตอร์บาร์น่ารัก ๆ ให้นั่งเล่นกันแบบชิลล์ ๆ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยโซน Private Chef’s Table ที่ชั้น 4 ที่โซนนี้เปิดให้บริการมาสักพักกับคอร์สเมนูอาหารแบบ Chef’s Table จากเชฟเป่าเป้และเชฟเควสต์ ที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้ทุกคนอย่างเอ็กซ์คลูซีฟและเป็นส่วนตัวที่สุด
The Treat of Taste
ที่นี่เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารที่หลากหลายแบบธรรมดาเข้าถึงง่ายแต่แฝงความไม่ธรรมดาเอาไว้ด้วยกรรมวิธีการทำแบบเฉพาะตัวของเชฟทั้งสองคนภายใต้สโลแกน The Treat of Taste ที่จะบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ของทั้งสองเชฟ ผ่านรสชาติความอร่อยในทุก ๆ จาน
เริ่มต้นกันที่ Signature Tofu Miso Sesame Salad (280 บาท) สลัดซิกเนเจอร์ หนึ่งในเมนูขายดีของทางร้าน โดยจานนี้เป็นสลัดสไตล์ญี่ปุ่นที่ทางเชฟคิดเบส Miso Sesame Dressings ขึ้นมาเอง จนได้น้ำสลัดที่รสชาติไม่เหมือนใคร จากนั้นนำเต้าหู้ไปหมักในซีอิ๊วช่วยเพิ่มความหอม เมื่อทานรวมกันในทุก ๆ เท็กซ์เจอร์ตั้งแต่เต้าหู้ ผักสลัดสดและน้ำสลัด จะให้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่หนักจนเกินไป สามารถทานได้เพลิน ๆ
ถัดมาเป็น Mushroom and Asparagus Pesto (320 บาท) จานที่โฮมเมดในทุก ๆ ขั้นตอนตั้งแต่การทำเส้น Pappardelle พาสต้าเส้นสดที่เชฟรีดเส้นทำใหม่ในทุก ๆ วันโดยจะมีเส้นที่กว้างและแบน ให้ความหนึบหนับคลุกเคล้าเข้ากันกับซอสเพสโต้โฮมเมดที่กลิ่นหอมของโหระพาอย่างชัดเจน โดยมีเบสของเป็นมะม่วงหิมพานต์ เคียงด้วยเห็ดและหน่อไม้ฝรั่ง
นอกจากนี้ทางร้านยังมี Rice Bowl แนะนำให้เลือกถึง 6 แบบและ D.I.Y Bowl ที่สามารถเลือก Topping เองได้ สำหรับวันนี้ทางร้านแนะนำให้ลอง Bowl Ma Nuer (280 บาท) เมนูพิเศษที่ไฮไลต์อยู่ที่การเลือกใช้ข้าวกั้นจิ้น อาหารพื้นเมืองของชาวไทใหญ่หนึ่งในอาหารล้านนาที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเมือง ซึ่งเมนูข้าวกั้นจิ้นนี้เป็นเมนูที่ทำให้เชฟเป่าเป้คว้าแชมป์ MasterChef All Stars Thailand อีกด้วย โดยจานนี้เสิร์ฟข้าวกั้นจิ้นเคียงมากับกะเพรารสแซ่บแบบไทย ๆ และไข่ดาว ซึ่งจานนี้จะเป็นการยกระดับการกินกะเพราแบบเดิม ๆ ให้ไม่ธรรมดาอีกต่อไป
เมื่อทานอาหารกันจนอิ่มท้องแล้วทางร้านยังมีเมนูเบเกอรีแนะนำอย่าง Chocolate Nutella Wafer Croissant (130 บาท) ครัวซองต์โฮมเมดช็อกโกแลตนูเทลลาที่ให้ความกรอบนอกนุ่มในของแป้งครัวซองต์โฮมเมดผสานกับความหวานแบบพอดีของช็อกโกแลต สามารถสั่งคู่กันกับ Orange Espresso (125 บาท) น้ำส้มท็อปด้วยเอสเพรสโซช็อตให้ความเฟรชช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี
หรือจะลองเป็น PQRS Signature Soda (160 บาท) เมนูโซดาหอมหวานซาบซ่าที่แนะนำให้สั่งคู่กันกับ Strawberry and Cream Croffle (145 บาท) แป้งครัวซองต์ที่อบในเครื่องวาฟเฟิล ออกมาเป็นครอฟเฟิลร้อน ๆ เนื้อนุ่ม ท็อปด้วยครีมสดและสตรอเบอร์รี
ปิดท้ายด้วย Strawberry Latte (130 บาท) ซอสสตรอเบอร์รีหวานอมเปรี้ยวจากสตรอเบอร์รีสดท็อปด้วยนมสดและครีมเนื้อเนียน