New Place for Meat Lover
ใครที่กำลังมองหาสเต๊กเฮาส์ดี ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเดินทางสะดวก Prime+ คงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ตัวร้านตั้งอยู่ด้านหลัง Emporium ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ และอยู่บนชั้น 7 ของโรงแรม Compass Skyview รวมถึงได้เชฟฝีมือดีเป็นผู้สร้างสรรค์เมนูสเต๊ก ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบสเต๊กได้อย่างดี
Industrial Style Steakhouse
ตัวร้านตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียล โดยเน้นโทนสีดำ - เทา ผนังปูด้วยอิฐและประดับด้วยภาพและโปสเตอร์แบบวินเทจ โต๊ะหินอ่อนให้ความรู้สึกเรียบหรู ห้องอาหารแบ่งพื้นที่เป็นสองโซน โซนแรกจะติดกระจก เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของย่านสุขุมวิท หากมาเร็วก็อาจทันชมพระอาทิตย์ตกพร้อมจิบไวน์ดี ๆ ซักแก้ว หรือถ้ามาตอนค่ำก็ได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ หากต้องการอากาศธรรมชาติ ก็สามารถเปิดประตูออกไปด้านนอก มีโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ทรงสูงให้เลือกนั่งได้เช่นกัน
คั่นกลางด้วยบาร์เหล้าสุดเท่ที่สามารถแวะมานั่งจิบเครื่องดื่มเพลิน ๆ ก่อนมื้ออาหาร หรือจะคุยทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่โซนที่สองจะอยู่อีกด้านหนึ่งของร้าน ในช่วงกลางวันโซนนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องอาหาร Prime โดดเด่นด้วยครัวเปิดที่สามารถมองเห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมฝีไม้ลายมือของเชฟ และยังมีตู้แช่ให้สเต๊กเลิฟเวอร์สามารถเลือกเนื้อแต่ละส่วนได้ตามใจชอบ
Mouthwatering Dishes
อาหารของที่นี่โดยได้เชฟฝีมือดีชาวอเมริกันผู้คร่ำหวอดในวงการสเต๊กมาหลายปีเป็นเชฟใหญ่ของร้านและออกแบบทุกเมนูให้มีรสชาติที่ค่อนข้างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์ของเนื้อที่ดีได้ครบถ้วน
เริ่มต้นมื้อเย็นด้วยเมนูสลัดอย่าง Caesar Salad (295 บาท) ผัก Romaine สด ๆ คลุกเคล้าซีซาร์เดรสซิ่งรสเบา ๆ โรยไข่ต้มขูดและพาร์เมซานชีสสไลซ์เพื่อเพิ่มรสชาติ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยขนมปังกรูตองอบสมุนไพรและเบคอนทอดกรอบ
ถัดมาเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย Tuna Carpaccio (395 บาท) ทูน่าเย็น ๆ จากญี่ปุ่น นำไปแล่บาง โรยพริกและต้นหอม เพิ่มรสชาติด้วยเกลือและพริกไทย หากชอบรสเปรี้ยวลองบีบเลมอนเพิ่มเล็กน้อย
มาถึงเมนูหลัก เริ่มจากอาหารทะเล Grilled Salmon Steak (650 บาท) แซลมอนจากสก็อตแลนด์ย่างจนสุก เสิร์ฟมาพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและเลมอน ทานกับ Garlic Butter Sauce รสชาติเค็มอมเปรี้ยว เพื่อให้ได้แซลมอนสเต๊กที่อร่อยยิ่งขึ้น
Sizzling on the Marble
สำหรับเมนูสเต๊ก จะมีเนื้อ 3 ประเภท คือ USDA Prime, Australian Angus Beef และ Wagyu ทางร้านแนะนำ USDA Prime Ribeye Steak (1,450 บาท) สเต๊กเนื้อริบอายจากอเมริกา 250 กรัม โดยเป็นเนื้อจากวัวที่เลี้ยงด้วยข้าวโพด และผ่านการ Dry-aged กว่า 150 วัน จนได้เนื้อที่ให้สัมผัสค่อนข้างนุ่มและมีรสชาติดีกว่าสเต๊กเนื้อประเภทเดียวกันที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอน Dry-aged นำเนื้อไปปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย จากนั้นย่างบนเตาหินอ่อนลาวาที่เก็บความร้อนได้ดี ทำให้เมื่อทานสเต๊กไปเรื่อย ๆ เนื้อก็ยังคงเก็บความร้อนได้อยู่และไม่สูญเสียรสชาติหรือความอร่อย แนะนำให้ทานคู่กับ Peppercorn Sauce (100 บาท) พร้อมเครื่องเคียงหลากหลายชนิดให้สั่งเพิ่มได้ตามใจชอบ (110 - 195 บาท)
ใครชอบทานเนื้อวากิว แนะนำให้ลอง Australian Wagyu Fillet Steak (2,450 บาท) สเต๊กเนื้อสันในออสเตรเลียสายพันธุ์วากิว น้ำหนัก 250 กรัม เสิร์ฟมาบนเตาหินอ่อนลาวาเช่นกัน จะทานคู่กับ Peppercorn Sauce (100 บาท) หรือ Red Wine and Shallot Sauce (100 บาท) ก็ดีไม่น้อย
Sunset Drinks
อย่าลืมสั่งไวน์ดื่มคู่กับสเต๊กดี ๆ ที่นี่มีไวน์ลิสต์จากทั่วทุกมุมโลกให้ลอง ตั้งแต่ House wine จากชิลีหรือจะเป็น Fleur de France Cabernet Sauvignon 2014 (250 บาท) ไวน์สีแดงทับทิมจากแคว้น Languedoc ในฝรั่งเศส หอมกลิ่นเรดฟรุ๊ตและสมุนไพรอโรมา ได้รสสัมผัสนุ่มลื่นของแทนนิน
นอกจากนี้ยังมี Tequila Sunrise (280 บาท) ค็อกเทลสีส้มสดใสที่ใช้เหล้าเตกีล่าเป็นเบส ผสมนำ้ส้มและมะนาว กับเกรนาดีน เขย่าให้เข้ากันก่อนนำไปเสิร์ฟ