The Extraordinary Pad Kraprow
ฉีกกฎกะเพราแบบเดิม ๆ แล้วเพิ่มเติมความอร่อยแบบที่ไม่เคยมีเจ้าไหนทำมาก่อนจริง ๆ สำหรับร้าน เพรา หนึ่งในร้านอาหารไทยสไตล์ตามสั่งที่เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูยอดฮิต (ยามที่คิดไม่ออกว่ามื้อนี้จะทานอะไรดี!) อย่างกะเพราโดยเฉพาะ โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ท็อปปิ้ง วัตถุดิบต่าง ๆ ลงไปให้ได้รสชาติแปลกใหม่ ถูกปากและถูกใจคนทานมากยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของ ‘เพรา’ เกิดความชอบทานกะเพราเป็นพิเศษของ คุณอ้อ-นันทิยา เดชอมรธัญ ผู้เป็นเจ้าของร้าน ด้วยเหตุผลที่ว่ากะเพรานั้นเป็นเมนูง่าย ๆ ที่คนไทยหลาย ๆ คนชอบทาน และสังเกตได้ว่าร้านที่เสิร์ฟเฉพาะเมนูผัดกะเพรานั้นยังไม่มีใครเขาทำกัน จึงเกิดไอเดียเปิดร้านกะเพราเป็นของตัวเอง ที่สามารถครีเอทออกมาได้หลากหลายแบบ หลากหลายราคา เพิ่มมูลค่าให้เป็นมากกว่าอาหารตามสั่งทั่วไป
Spicy Theme
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านออฟฟิศ ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี และเพื่อให้เข้าถึงคนทานได้ง่ายขึ้น เพราจึงเลือกดีไซน์ร้านในแบบเรียบง่าย ดูสะอาดตาด้วยมู้ดแอนด์โทนสีขาว-ดำ แล้วเพิ่มความโมเดิร์นลงไปด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ ป้ายไฟโทนสีแดงที่สื่อถึงความเผ็ดร้อนของผัดกะเพรา ส่วนโซนนั่งมีทั้งแบบโต๊ะเดี่ยวและโต๊ะยาวแบบบาร์ติดริมกระจกใส ไม่ว่าจะคนเดียวหรือมากับเพื่อน ๆ ก็อิ่มอร่อยได้แบบสบาย ๆ
Create Your Own Favorite Flavour
อาจเพราะว่าเมนูข้าวและเนื้อสัตว์ดูจะเป็นสิ่งที่ทานง่าย ซึ่งหลาย ๆ ชาติมักนำมาจับคู่ความอร่อย ครีเอทเป็นเมนูต่าง ๆ ให้ได้ลิ้มลองมากมาย ในส่วนของอาหารไทยเอง กะเพราก็นับเป็นอีกหนึ่งเมนูประเภทข้าวและเนื้อที่ให้รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัวไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ส่วนความโดดเด่นในแบบของเพราที่ทางร้านเลือกนำเสนอคือเป็นเมนูกะเพราที่สร้างสรรค์ ไม่ได้จำกัดว่าผัดกะเพราที่แท้จริงต้องใส่อะไรบ้าง เปิดกว้างให้ทุกคนได้ลองทานในแบบที่ชอบ มิกซ์วัตถุดิบ รสชาติกะเพราสูตรใหม่ออกมาให้เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยไม่จำเป็นต้องใส่เพียงแค่ใบกะเพราเท่านั้น สามารถใส่หัวหอมใหญ่ ใส่พริกหยวก และอื่น ๆ อีกมากมายได้ทั้งสิ้น ผ่านการสำรวจว่าคนไทยส่วนใหญ่นิยมทานกะเพราแบบไหนบ้าง แล้วค่อย ๆ กลายมาเป็นไอเดียใส่ท็อปปิ้งที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเมนูกะเพราไปในตัว ผัดกะเพราหนึ่งจานสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของอาหารเบสิกไปสู่เมนูใหม่ ๆ ได้อย่างไม่รู้จบ เป็นร้านข้าวผัดกะเพราที่ให้ทุกคนได้เลือกท็อปปิ้ง วัตถุดิบ (แครอท ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน ฟักทอง หอมแดง หอมใหญ่ ไข่กุ้ง มันปู ชีส เต้าหู้ พริกเผา) และความเผ็ด ได้ตามความต้องการของแต่ละคนอย่างตรงใจที่สุด
นอกจากจะเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีหลายอย่างแล้ว ทางร้านยังใช้ข้าวหอมมะลิ ใบกะเพราก็ใส่แบบไม่อั้น แถมไข่ที่ทานคู่กันยังสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่ต้มยางมะตูม หรือไข่เจียวไขมันต่ำอีกด้วย
Prow Recommend
มาถึงเมนูไฮไลท์ที่มาทานร้านเพราแล้วพลาดไม่ได้กันบ้าง เริ่มต้นด้วย กะเพราหมูตุ๋นโรยหน้าด้วยหมูกรอบ (160 บาท) เมนูกะเพราขายดีที่หาทานได้ยาก เลือกใช้เนื้อหมูตุ๋นนุ่ม ๆ ชิ้นโตซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานเป็นพิเศษ หมักกับเครื่องเทศหลายชนิด แล้วโรยหน้าด้วยหมูกรอบที่ทางร้านทำเอง ความนุ่มของหมูตุ๋นชุ่มฉ่ำด้วยซอสกะเพราเข้มข้นผสานเข้ากันกับความกรุบกรอบของหมูกรอบได้เป็นอย่างดี
ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยของกะเพราแบบฟิวชั่น แนะนำ กะเพราสันในหมูเบคอนโรยชีส (165 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูสันในที่ให้ความมันที่น้อยกว่ามาเป็นวัตถุดิบหลัก เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพที่ไม่อยากทานเนื้อหมูติดมันมากนัก ก่อนจะโรยหน้าด้วยท็อปปิ้งชีสยืด ๆ ร้อน ๆ เป็นการทวิสต์รสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ ที่ตัดกับรสกลมกล่อมของชีสแบบตะวันตกอย่างเข้ากัน
แล้วอย่าลืมสั่งจานเด็ดมาลองอีกหนึ่งเมนูกับ กะเพราเนื้อกุ้งสับพริกเผา (175 บาท) กะเพราที่ให้รสชาติแปลกใหม่ เติมความหวานของพริกเผาลงไป ผสานเข้ากันกับกลิ่นหอม ๆ ของใบกะเพราได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยเมนูกะเพรากลิ่นอายตะวันตกอีกหนึ่งจานที่คนรักกะเพราต้องลองกับ ข้าวหน้าสเต๊กริบอายส์ราดกะเพรา (220 บาท) ที่ทำออกมาในลักษณะของข้าวหน้าเนื้อแบบเน้น ๆ ราดด้วยน้ำกะเพราเข้มข้น สูตรเฉพาะของทางร้าน พร้อมเครื่องกะเพราที่คลุกเคล้าลงไปให้ได้รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ใครทานเป็นต้องติดใจแน่นอน
Must Read!
- ร้านเพรารองรับคนได้ประมาณ 20 ที่นั่ง ดังนั้นช่วงเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ที่ชาวออฟฟิศพักทานอาหาร คนอาจจะเยอะและรอคิวนานสักหน่อย จึงแนะนำใ้ห้มาก่อนหรือหลังช่วงพักกลางวันเล็กน้อยเพื่อจะได้นั่งทานแบบสบาย ๆ
