From Bang Khun Thian to Phra Arthit
หากพูดถึงคาเฟ่ดีไซน์สวยบรรยากาศดีที่อยู่ริมน้ำย่านบางขุนเทียน แน่นอนว่า ‘Pulse’ คือหนึ่งในลิสต์ร้านที่หลายคนต้องนึกถึง ด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่าย บวกกับการใช้วัสดุหวายและไม้ แถมยังมาพร้อมผ้าสีครีมพริ้วไหวที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำร้าน ครั้งนี้ได้ออกเดินทางขยับขยายมาสู่อีกหนึ่งสาขาบนตึกเก่าในถนนพระอาทิตย์ อบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่พร้อมให้คุณหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนในบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ รวมถึงดื่มด่ำการดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ Pulse ไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
Coffee / Scenery / Music
ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Coffee / Scenery / Music’ จากสาขาแรก ถูกต่อยอดมาสู่สาขาใหม่ที่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมได้อย่างน่าสนใจ ภายใต้ตึกเก่าที่แอบซ่อน ‘Scenery’ ธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้และดอกไม้ไว้รอบ ๆ อาคาร ที่คุณสามารถเหม่อมองวิวสวย ๆ ผ่านทางหน้าต่างบานใหญ่กันได้อย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะเติมสีสันในบางจุดเพื่อให้เข้ากับย่านพระอาทิตย์ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา แต่ก็ยังคงความเป็น Pulse ด้วยบรรยากาศอบอุ่นโฮมมี่ ที่ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋มากมาย เหมาะสำหรับมาปล่อยตัวปล่อยใจ จิบเครื่องดื่ม ฟังเพลง พักผ่อนในวันสบาย ๆ อีกหนึ่งบรรยากาศที่หาได้ยากในเมืองกรุง
แน่นอนว่าทางร้านมีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งชิลได้ตามชอบ นอกจากบริเวณชั้นสองที่เป็นในส่วนของเคาน์เตอร์บาร์กาแฟแล้ว ชั้นสามยังพร้อมเปิดต้อนรับให้ทุกคนได้ขึ้นมาซึมซับความเงียบสงบ ผ่อนคลาย ได้เช่นเดียวกัน และในอนาคตยังมีแพลนจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมถึง Workshop ทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย
Signature of Pulse
สำหรับเมล็ดกาแฟของทางร้านจะเน้นเสิร์ฟแบบคั่วกลาง มี 2 ตัวให้เลือก คือ 001 Medium Dark Roast เป็นเบลนด์ระหว่างเมล็ดกาแฟเวียดนามและบราซิล ให้รสชาติในโทน Dark Chocolate, Brown Sugar และ Nutty / 002 Medium Light Roast เบลนด์ระหว่างเมล็ดกาแฟโคลัมเบีย เอธิโอเปีย และจังหวัดเชียงราย ให้รสชาติดื่มง่ายในโทน Wind Berry, Honey และ Caramel
แน่นอนว่าเมนูซิกเนเจอร์ทั้งสองสาขาก็มีความแตกต่างกัน สาขาบางขุนเทียนจะขึ้นชื่อในเรื่องส่วนผสมของมะพร้าว ส่วนสาขาพระอาทิตย์ทางร้านก็ได้นำกิมมิกอย่าง ‘พระอาทิตย์ขึ้น’ และ ‘พระอาทิตย์ตก’ มาเป็นแรงบันดาลใจในการครีเอตเมนูออกมาได้อย่างน่าสนใจ
แนะนำเมนูไฮไลต์แก้วแรกอย่าง Sunbeam (130 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘พระอาทิตย์ขึ้น’ อันเต็มไปด้วยความสดใส มีส่วนผสมของน้ำสับปะรด, น้ำส้ม และเลมอน ท็อปด้วยครีมมัทฉะหอม ๆ มาพร้อมรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับการดื่มสดชื่น ๆ ในยามเช้า
ตามด้วย Sundown (140 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาความเงียบสงบของช่วงเวลา ‘พระอาทิตย์ตก’ ทำให้แก้วนี้มีส่วนผสมของช็อตเอสเพรสโซเข้มข้น ผสมผสานเข้ากับกลิ่นหอม ๆ และรสชาติกลมกล่อมจาก Cinnamon Sea Salt แล้วท็อปด้วยครีมคาราเมล เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับ Orange Crème Brûlée ตัวแทนของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก ให้รสชาติเข้มข้นอร่อยลงตัวสุด ๆ
ในส่วนของเมนูขนมหวานก็ดีงามไม่แพ้กัน แนะนำ Chocolate Caramel (130 บาท) เค้กช็อกโกแลตรสชาติเข้มข้น ราดด้วยซอสคาราเมลหอมหวาน ไม่ว่าจะทานคู่กับเครื่องดื่มแก้วไหนก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายกันที่ Hazelnut Praline Soft Cookie w/ Fresh Cream (140 บาท) ซอฟต์คุกกี้เนื้อนุ่ม หอมละมุนด้วยส่วนผสมของเฮเซลนัท เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับครีมสดโรยด้วยดาร์กช็อกโกแลตแบบทานเพลิน
