The Perfect Pairing: To-kyo Rolls x Coffee
ชวนสายอีทย้อนวัยไปชิม ‘ขนมโตเกียว x กาแฟ’ การจับคู่เมนูคลาสสิกที่ลงตัวของ Roller Cofster คาเฟ่สุดโฮมมี่ในย่านลาดพร้าวที่อยากเสิร์ฟความเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดา ให้เหล่า Cafe Hopper ได้แวะมาเอ็นจอยความอร่อยทุกวัน
จากความชอบกิน ‘ขนมโตเกียว’ เมนูสุดโปรดในวัยเด็กของ ‘อัญชัน-ปวีนรัตน์ ทรัพย์อนันต์กุล’ และ ‘นัท-พรรวินท์ ทรัพย์อนันต์กุล’ สองพี่น้องฝาแฝดผู้มีความฝันในการเปิดคาเฟ่ของตัวเองสักครั้ง บวกกับแพสชั่นในการเป็นบาริสต้าของคุณอัญชันที่ผ่านการฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์ในวงการกาแฟระดับมืออาชีพมาเป็นระยะเวลาหลายปี นำมาสู่การเปิดหน้าร้านร่วมกับแฟนหนุ่ม ‘ภีม-ภีมร์ภัทร บุญชูจิตต์’ โดยใช้ชื่อร้านว่า ‘Roller Cofster’ เพื่อสื่อถึง ‘ขนมโตเกียว x กาแฟ’ การจับคู่ความอร่อยที่ดูเรียบง่าย หลายคนอาจคุ้นเคย แต่เลือกนำเสนอออกมาได้น่าสนใจ
สำหรับจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านขนมโตเกียว คุณอัญชันได้เล่าว่า แต่เดิมเธอเคยอยู่อาศัยในย่านโชคชัยสี่ ซึ่งเป็นย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีของกินเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นเป็นอาหารจานหลักที่กินกันแบบจริงจังมากกว่า จึงเกิดไอเดียอยากลองทำเมนูอาหารกินเล่นที่เป็นได้ทั้งของคาวและของหวาน เมนูที่นึกออกทันทีในตอนนั้นคือ ขนมโตเกียว ที่เธอรู้สึกว่าสามารถพัฒนาเป็นเมนู Snack ที่รับประทานแล้วอิ่มท้อง หรือจะเป็นของกินเล่นในยามหิวได้ทุกเวลา เลยตัดสินใจเปิดให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรีที่ใช้ชื่อร้านว่า ‘ปีนเกียว โตเกียว โชคชัยสี่’ จนเมื่อกระแสตอบรับดี จึงต่อยอดมาเปิดให้บริการหน้าร้านอย่างจริงจัง พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘Roller Cofster’ ให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ซึ่งคำว่า ‘Roller’ คือขนมโตเกียว ส่วน ‘Cofster’ เป็นการเล่นคำให้คล้องกับ Roller Coaster แต่ปรับใหม่ให้สื่อความหมายถึง Coffee หรือกาแฟ เมื่อรวมกันแล้วจึงกลายเป็นชื่อของคาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งขนมโตเกียวและกาแฟในแห่งเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่พิสูจน์แล้วว่าสองอย่างนี้เป็น Combination ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
“สิ่งหนึ่งที่อัญรู้สึกว่ามันไปด้วยกันได้อย่างดีคือ ร้านกาแฟเป็นเหมือนพื้นที่ที่ให้คนมาเจอกัน เป็นที่ที่แวะมาแล้วทำให้รู้สึกแฮปปี้ มีแรงทำงาน ส่วนโตเกียวก็เป็นเมนูขนมทานเล่นที่แชร์กับเพื่อนได้ สองอย่างนี้ทำหน้าที่บางอย่างคล้าย ๆ กัน เลยรู้สึกว่าทั้งกาแฟและโตเกียว เป็นคู่ความอร่อยที่เข้ากันได้ค่ะ”
Bring your furry friends and enjoy the homey vibes!
ในส่วนของบรรยากาศร้าน ผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสาม มีความตั้งใจให้คาเฟ่แห่งนี้เต็มไปด้วยมู้ดของความอบอุ่น ผ่อนคลาย ตอนที่ทำร้านจึงพยายามหาคีย์เวิร์ดของที่นี่ ซึ่งทุกคนต่างลงความเห็นว่าอยากให้ร้าน Roller Cofster เป็นพื้นที่ที่ ‘Warmth in every serve.’ พร้อมเสิร์ฟความอบอุ่นในทุกอณู
โดยการเสิร์ฟที่ว่านี้เป็นทั้งพาร์ทของการให้บริการ บรรยากาศร้าน กาแฟและขนมโตเกียว ผ่านการออกแบบในลักษณะของ Open Bar เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาได้เห็นเบื้องหลังการทำขนมโตเกียว การชงกาแฟหรือครีเอตเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองมากที่สุด มีจุดเชื่อมโยงเป็นขนมโตเกียวที่หลายคนคุ้นเคย รวมถึงกาแฟแก้วโปรดของ Coffee Lover ที่อาจมีความชอบดื่มที่เหมือนหรือต่างกันออกไป แต่สามารถแลกเปลี่ยน แนะนำกันได้ เป็น Vibes ที่อยากให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์นี้กลับไปเมื่อได้แวะมาที่นี่
นอกจากนี้ ยังเป็นคาเฟ่ Pet-Friendly ที่มีน้อง ‘ชูก้า’ แมวส้มเจ้า(ของ)บ้าน คอยต้อนรับ อ้อนแฟนคลับอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์กาแฟ ให้ชาวทาสแมวทั้งหลาย ได้มีโมเมนต์ฮีลใจไปพร้อม ๆ กับเอ็นจอยความอร่อยในคราวเดียว
Warmth in every serve
แน่นอนว่าที่นี่เลือกเสิร์ฟความอร่อยด้วย ‘ขนมโตเกียว x กาแฟ’ การจับคู่ความอร่อยที่เรียบง่ายแต่ใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ เพิ่มกิมมิกด้วยส่วนผสมบางอย่างที่ผสานรสชาติกันลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Crafted with love and brings you the warmth in every serve’ พร้อมเสิร์ฟทุกเมนูอย่างพิถีพิถัน โดยขนมโตเกียวของทางร้านนั้นทำสดใหม่จากเตา ผ่านการคิดค้นสูตรแป้งและส่วนผสมไส้เบสิกคาว-หวาน แบบโฮมเมด เสิร์ฟโรลชิ้นใหญ่ (ทั้งแบบเซ็ตและแยกชิ้น ไซส์เล็ก (Regular) และไซส์ใหญ่ (Large)) อร่อยเต็มคำ
“ขนมโตเกียวของอัญ อยากทำให้มันเป็นขนมโตเกียวธรรมดาที่มีความพิเศษซ่อนอยู่ ไม่แฟนซีจนเกินไป เป็นขนมโตเกียวที่กินได้ทุกวัน ใครได้กินก็มีความสุข เลยเริ่มต้นจากพวกไส้เบสิกก่อน เพราะเราอยากทำให้ไส้ธรรมดามันอร่อย อยากทำให้ตัวไส้มีรสชาติพิเศษกว่าที่เคยกินทั่วไปค่ะ”
ใครที่ตั้งหน้าตั้งตามาลิ้มลองความอร่อยของขนมโตเกียวแบบจัดเต็ม แนะนำให้สั่งแบบเป็นเซ็ต เพราะจะได้แชร์ความอร่อยทั้งไส้คาวและหวานกันแบบครบถ้วน อย่าง OG Set (60 บาท) เซ็ตรวมไส้คลาสสิก 5 รสชาติ ได้แก่ ครีมคัสตาร์ด, หมูสับ, ไข่, ไข่+ไส้กรอก, หมูสับ+ไข่ และหมูสับ+ไส้กรอก (รวมไส้ออริจินัล 5 ชิ้น)
หรือจะเป็น Sweet Lord Set (เริ่มต้น 60 บาท) เซ็ตรวมไส้หวาน 5 รสชาติ ที่ประกอบด้วย ครีมคัสตาร์ด, สังขยาน้ำตาลมะพร้าว, คัสตาร์ดไข่เค็ม หรือคัสตาร์ดนูเทลล่า, นูเทลล่า+สตรอเบอร์รี และพีนัท+สตรอเบอร์รี
ขนมโตเกียวแต่ละไส้ มาพร้อมความอร่อยที่แตกต่าง แต่ความพิเศษของตัวขนมจะอยู่ที่แป้งโตเกียวสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ให้ทั้งความกรอบเมื่อเสิร์ฟกรุ่น ๆ จากเตา ในขณะเดียวกันก็ให้สัมผัสเนื้อแป้งนุ่มเมื่อเย็นตัวลง เอ็นจอยความอร่อยได้ทุกช่วงเวลา หากเป็นไส้หวาน เมนูไฮไลต์ขายดีที่สุดคือ ไส้คัสตาร์ด โดยความลงตัวของรสชาติที่ไม่เหมือนที่ไหน เกิดจากความผิดพลาดที่ได้ลองผิดลองถูกของทางร้าน ซึ่งต้องการนำเสนอรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เกิดไอเดีย นำแรงบันดาลใจจากวิธีทำคาราเมลคัสตาร์ดมาปรับส่วนผสมเพิ่มเติม พร้อมกับแบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเคี่ยวเป็นคาราเมล อีกส่วนนำมากวนไส้ต่อให้เป็นคัสตาร์ดที่หอมหวาน และได้รสชาติที่มีมิติมากขึ้น จนกลายเป็นไส้หวานยอดนิยมของเหล่านักชิมไปโดยปริยาย หรือจะเป็นไส้คัสตาร์ดแบบผสานความแปลกใหม่ เช่น คัสตาร์ดไข่เค็ม สังขยาน้ำตาลมะพร้าว ที่หากินได้ยาก ทั้งยังครีเอตออกมาให้มีความเป็นไทยร่วมสมัยได้ดีทีเดียว ส่วนไส้คาวคลาสสิก ทางร้านเลือกใช้เป็นไส้กรอกแดง เพราะอยากให้ขนมโตเกียวมีความออริจินัล สื่อถึงเมนูความทรงจำในวัยเด็กที่หลายคนเคยกินมาก่อน
"เราทำโตเกียวในแบบที่เราชอบ ด้วยรสชาติที่คุ้นเคย ให้ขนมโตเกียวเป็นเหมือน Comfort Food ที่อบอุ่นหัวใจทุกครั้งเมื่อได้ทาน"
ถัดมาที่เมนูเครื่องดื่มของทางร้านกันบ้าง สำหรับบาร์กาแฟของที่นี่ เสิร์ฟทั้ง Basic Coffee และ Filter Coffee รวมถึง Signature Coffee ที่ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบโฮมเมดหรือส่วนผสมพิเศษ อย่างไซรัปมะลิสูตรเฉพาะ, ความหวานมันแบบ Thai Style ของน้ำตาลมะพร้าว ที่ทำให้เครื่องดื่มมีความหอม รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนที่ไหน และนอกจากนี้ ยังเสิร์ฟเครื่องดื่ม Non-Coffee และ Sparkling สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟอีกด้วย
เมล็ดกาแฟที่ทางร้านเลือกใช้ มาจากหลากหลายโรงคั่วกาแฟของเพื่อน ๆ คุณอัญ เพราะแต่ละแห่งมีคาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน สำหรับเบสหลักที่ใช้กับทุกเมนู จะเป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์บราซิล-กัวเตมาลา ซึ่งจะให้โทนรสชาติแบบ Chocolate Nutty โดยเน้นดื่มง่ายเป็นหลัก สามารถครีเอตเป็นได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟนม เลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ครอบคลุมกับทุกเมนู Basic Coffee, Filter Coffee และ Signature Coffee แต่หากมีใครที่ชอบดื่มโทนกาแฟรสชาติอื่น ๆ ทางร้านก็มีเมล็ดกาแฟที่หลากหลายให้เลือกดื่มตามความชอบ
“พออัญได้มาทำร้านของตัวเอง เราพยายามนำประสบการณ์ที่เคยได้รับ ได้ฝึกฝน มาครีเอตเป็นเครื่องดื่มแต่ละแก้วให้ดีที่สุด ถ้าเป็นเรื่องของการครีเอตเมนูเครื่องดื่ม อัญจะพยายามโยงเข้ากับเมนูขนมโตเกียว จะดูก่อนว่าที่ร้านเรามีโตเกียวไส้อะไรบ้าง แล้วเราสามารถแพริ่งออกมาแบบไหน เพื่อให้ควบคู่กันไปได้บ้าง เช่น ขนมโตเกียวน้ำตาลมะพร้าว อัญก็รู้สึกว่าน้ำตาลมะพร้าวเอามาใช้กับกาแฟได้ เป็นส่วนผสมที่เข้ากับกาแฟ อัญเลยทำเป็นนมมิกซ์สูตรพิเศษ มีส่วนผสมของนมกะทิ ครีม แล้วก็น้ำตาลมะพร้าว เอามาเคี่ยวด้วยกัน สำหรับใส่ลงไปในเครื่องดื่มที่ต้องการความหวานมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับเมนูเครื่องดื่มเอสฯ เย็น, เดอร์ตี้ และชาไทย เหมือนเป็นสูตรนมมิกซ์ของเราที่ใช้แทนนมมิกซ์ทั่วไป ให้ได้เอกลักษณ์เฉพาะตัว”
ประเดิม Coffee Time ครั้งนี้กันด้วยเมนูคลาสสิกอย่าง Hot Latte (85 บาท) ลาเต้ร้อน กาแฟนมรสกลมกล่อม หอมละมุน
ตามมาด้วย Sugar Mommy (120 บาท) กาแฟดำผสมน้ำตาลสด ท็อปด้วยครีมโฟมรสนุ่มนวล หอมละมุนด้วยกลิ่นของไซรัปมะลิสูตรโฮมเมดของทางร้าน
“ไอเดียเมนู Sugar Mommy อัญพยายามนึกถึงอะไรที่คนไทยน่าจะชอบ เป็นรสชาติที่หลายคนคุ้นเคยแต่ว่าหากินยากในคาเฟ่ทั่วไป เลยอยากเอารสชาติไทย ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยมาใส่ไว้ในเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของที่ร้าน เลยออกมาเป็นกาแฟน้ำตาลสด ซึ่งด้านบนจะเป็นโฟมครีมผสมไซรัปมะลิ เป็นไซรัปที่เราเคี่ยวเอง หน้าตาจะคล้ายกับ Irish Coffee ที่เราหยิบโครงของกาแฟนี้มาเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ไทยมากขึ้น แต่ก็จะพยายามไม่ให้ไทยจ๋าจนเกินไป เป็นเมนูที่มีความผสมผสานและทุกคนดื่มแล้วแฮปปี้”
หากใครที่เป็นคอกาแฟสายสโลว์บาร์ แนะนำให้ลอง Filter Coffee (เริ่มต้น 140 บาท) กาแฟดริปที่คนดื่มสามารถเลือกเมล็ดกาแฟโทน Flavor ได้ตามชอบ ไม่ว่าจะ Chocolate Nutty หรือ Fruity Coffee แบบไลท์ ๆ ก็มีให้เลือกดริป สำหรับคนไม่ถนัดดื่มกาแฟ ลองสั่ง Iced Thai Tea (75 บาท) ชาไทยสูตรพิเศษ ที่มีส่วนผสมของนมมิกซ์น้ำตาลมะพร้าว ก็เรียกความสดชื่นได้ดีไม่แพ้กัน
“เมนูชาไทย หนึ่งใน Non-Coffee เบสิกที่พวกเราเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าวมาในการเพิ่มความหวานมันแบบ Thai Style โดยการเคี่ยวนมกับน้ำตาลมะพร้าวเพื่อใช้แทนนมมิกซ์ (นมข้นหวานผสมนมข้นจืด) ทำให้ได้รสหวานแบบนุ่มนวล และมีกลิ่นหอมของน้ำตาลมะพร้าวแบบอ่อน ๆ”
มาถึงตรงนี้...ไม่ว่าคุณจะมองว่า Roller Cofster นั้น เป็นร้านกาแฟที่มีขนมโตเกียว ร้านโตเกียวที่มีกาแฟ หรือคาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งขนมโตเกียวและกาแฟก็ตาม เหนือสิ่งอื่นใดเพียงแค่ได้แวะมาที่ร้านนี้แล้วได้รับมวลความสุข ความอบอุ่นกลับไปจากพื้นที่แห่งนี้ ก็นับเป็นความยินดีที่ทางร้านได้ส่งต่อโมเมนต์เหล่านี้สำเร็จลุล่วงตามความตั้งใจ
Must Read!
- ร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.30-18.00 น. แต่ปิดให้บริการทุกวันหวยออก ! (ปิดทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน)
- สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้าน หรือซอยลาดพร้าว 35/2 (จอดฟรี 1 ชั่วโมง ชั่วโมงถัดไป คิดค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท)