Feel Like Mediterranean
Roots Bangkok ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียน ในโครงการ K Village โดยฝีมือของคุณญ่า ธณัฐฐา ดีเกตุ ที่อยากสร้างสรรค์พื้นที่ดี ๆ ให้ชาวกรุงเทพฯ ได้แวะมาแฮงก์เอาท์ชิลล์ ๆ หลังเลิกงาน ท่ามกลางบรรยากาศในสวนสบาย ๆ ที่หาได้ค่อนข้างยากในย่านใจกลางเมือง
Greenery Vibes in the Middle of BKK
จากคอนเซ็ปต์ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และพื้นที่พักผ่อนดี ๆ ในบรรยากาศธรรมชาติให้กับชาวเมือง ดังนั้นภายในร้านเน้นตกแต่งด้วยงานไม้เป็นหลัก ดูเท่และลึกลับแบบคนสมัยใหม่ พร้อมเพิ่มเติมความสดชื่นให้กับบรรยากาศรอบ ๆ ด้วยต้นไม้และใบไม้ตกแต่งตามผนัง ส่วนด้านนอกเป็นโต๊ะทานข้าวในสวนเปิดโล่ง สามารถแวะมาจิบเครื่องดื่มทานอาหารกันได้ง่าย ๆ ในยามเย็น
Fusion Mediterranean Menus
สำหรับเมนูของทางร้านนั้นเน้นเสิร์ฟอาหารรสจัดจ้านสไตล์เมดิเตอเรเนียนและแบบฟิวชั่นครีเอทใหม่ให้ได้ลิ้มลองเริ่มต้นกันที่เมนู Salmon Mango Tartare (290 บาท++) เมนูพิเศษของทางร้านที่เสิร์ฟแซลมอนทาทาร์ในรสชาติแบบไทย ๆ ด้วยการใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ไทยเป็นตัวให้ความหวานผสมผสานกับความเค็มและเผ็ดเล็ก ๆ จากคิมูจิซอส ซอสญี่ปุ่นผสมพริกและท็อปด้วยไข่แซลมอน สามารถทานคู่กับค็อกเทลหวาน ๆ อย่าง Kiss Me (220 บาท) เครื่องดื่มสีแดงสวยที่มีเบสเป็นจิน ผสมกับ Triple sec
ต่อด้วยเมนูยอดนิยมของเหล่าชาวต่างชาติอย่าง Mushroom Truffle Resotto (300 บาท++) รีซอตโตเห็ดทรัฟเฟิล ที่ให้กลิ่นและรสชาติเข้มข้นของทรัฟเฟิล แนะนำให้ทานคู่กับเครื่องดื่ม Midori Jusmine (220 บาท++) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของเหล้ามิโดริ น้ำมะนาว น้ำส้ม และน้ำเชื่อมกลิ่นมะลิ ถือเป็นแก้วหนึ่งที่เหมาะสำหรับสาว ๆ และอย่าลืมสั่งเมนูทานเล่นที่นำเสนอรสชาติในแบบตุรกีแท้ ๆ อย่าง Turkish Hummus with Fresh Baked Bread (180 บาท++) โฮมเมดฮัมมูสที่เลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าอย่าง Chickpea ปรุงด้วยสูตรต้นตำรับจากตุรกี เสิร์ฟพร้อมกับแป้งตุรกีอบในเตาถ่านแบบดั้งเดิม
ใครที่อยากได้เมนูที่หนักขึ้นมาหน่อยแนะนำให้ลอง Spaghetti Agio E Olio (170 บาท++) สปาเก็ตตี้เส้นเเหนียวนุ่มผัดกับน้ำมันมะกอก พริกทอดและซีฟู้ด เป็นจานที่เหมาะสำหรับคนชอบรสเผ็ดเล็ก ๆ
สำหรับจุดเด่นของเมนูทางร้านนั้นจะเป็นสารพัดเมนูกริลล์และพิซซ่าอบเตาถ่าน ซึ่งทางร้านแนะนำให้ลองซิกเนเจอร์กริลล์อย่าง Jerk Chicken (320 บาท++) หรือไก่สะบัด เมนูพื้นเมืองชื่อดังสไตล์แคริบเบียน ที่ใช้วิธีการสะบัดอันเป็นรูปแบบการทำอาหารพื้นเมืองอย่างนึงของประเทศจาไมก้า ทำให้ได้ไก่ที่มีเนื้อแห้งและนำไปหมักกับเครื่องเทศชั้นดีที่ทางร้านนำเข้าจากฟลอริด้า ปานามา และพริกพื้นเมืองจากหลากหลายประเทศ จากนั้นหมักไว้ 1 วันเพื่อให้รสของเครื่องเทศเข้าเนื้อ จนทำให้ได้ไก่ที่รสชาติเข้มข้น เผ็ดเล็กน้อย เนื้อนุ่มและมีความแห้ง เสิร์ฟพร้อมกับ Red Bean Rice เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปและนักกีฬาที่อยากเพิ่มโปรตีน
ต่อกันด้วยโฮมเมดพิซซ่าสารพัดหน้า ที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกจาน และนำไปอบในเตาถ่านอบพิซซ่าขนาดใหญ่สไตล์ดั้งเดิมที่ทางร้านคัดสรรไม้ฟืนอย่างดีมาใช้ เพื่อช่วยให้กลิ่นของพิซซ่าหอมน่าลิ้มลองยิ่งขึ้น เริ่มต้นที่ Roots Pizza (370 บาท++) พิซซ่าโฮมเมดหน้า Jerk Chicken โรยหน้าด้วยผักและพริกชนิดต่าง ๆ ท็อปดวยมอสซาเรลลาชีส จากนั้นนำไปอบในเตาถ่านแบบดั้งเดิม ที่ช่วยให้กลิ่นหอมจากฟืน
หรือปิดท้ายด้วยเมนูเอาใจชีสเลิฟเวอร์จะลองสั่ง Margherita Pizza (240 บาท++) แป้งพิซซ่าโฮมเมด ราดด้วยซอสพิซซ่าสูตรของทางร้านโรยด้วยมอสซาเรลลาชีส