Classy Vibes
'เจริญกรุง' อีกหนึ่งย่านของกรุงเทพฯ ที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ด้านรูปแบบสถาปัตยกรรม ความคลาสสิกของตึกรามบ้านช่อง ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบอาคารต่าง ๆ มากมาย รวมถึง Sarnies คาเฟ่แบรนด์ดังจากประเทศสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการมากว่า 5 ปี ก็ได้มีการขยายสาขามาเสิร์ฟความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกของย่านนี้เช่นกัน โดยหลังจากที่เริ่มทำโรงคั่วกาแฟที่ย่านสุขุมวิทมาก่อนหน้านี้ พาร์ทเนอร์คนสำคัญอย่าง คุณ Eric และ คุณ Ben ก็ได้เริ่มมองหาทำเลดี ๆ เพื่อเนรมิตให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอาหารและกาแฟคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรเป็นอย่างดีมาให้เหล่า Foodie และ Coffee Lover ได้อิ่มอร่อยกันทุก ๆ เดือน
Sarnies Bangkok เปิดให้บริการอยู่ภายในซอยเจริญกรุง 44 ภายใต้โครงสร้างของตึกเก่าที่ยังเหลือเค้าโครงแบบเดิมอยู่ เผยให้เห็นรายละเอียดของพื้นผิวสัมผัสทั้งร่องรอยของอิฐเก่าและโครงเหล็กที่ยังแข็งแรง
ส่วนเรื่องของเมนูอาหารนั้น ที่นี่เน้นเสิร์ฟด้วยเมนูสไตล์ Comfort Food ที่สามารถทานได้ทุกวัน มีหลากหลายเมนูที่ล้วนให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบก่อนจะรังสรรค์ความอร่อยออกมาให้บรรดานักชิมทั้งหลายได้เลือกสั่งมาทานกัน
Spacial Menus
เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ Tom Yum Eggs Benedict (320 บาท) จานนี้เป็น Poached Free-Range Eggs ที่มาพร้อมกับซอสต้มยำกุ้ง Hollandaise เคียงมาด้วย Smoked Salmon และ Baby Spinach
ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่คิดค้นมาเพื่อเอาใจคนไทยโดยเฉพาะก็เห็นจะเป็นพาสต้า Salted Egg (350 บาท) พาสต้าไข่เค็ม รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมด้วยซอสไข่เค็มและส่วนประกอบอื่น ๆ อย่าง Blue Swimmer Crab, Herb Crips และ Chilli Oil เป็นอีกหนึ่งจานขายดี ที่แนะนำให้ลองสั่งมาทานกันสองคน อิ่มอร่อยกำลังดี
ต่อด้วยเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ ที่นอกจากจะหน้าตาอาหารจะน่าทานแล้ว ยังเต็มไปด้วยอุดมไปด้วยวัตถุดิบโฮมเมดคุณภาพแสนอร่อยที่ใส่มาให้ทานอย่างจุใจอีกด้วยอย่าง Grain Bowl (350 บาท) เมนูสลัดที่เหมาะแก่ชาว Vegan อย่างมาก เสิร์ฟมาในชามโตที่ประกอบไปด้วย ควินัว มะเขือเทศเชอร์รีย่าง, Sauteed Mushrooms, ผักดองต่าง ๆ, Baby Spanich Seeds, รากบัวกรอบ แล้วโรยด้วย Tahini Dressing
Signature Sweet
ส่วนจานของหวานต้องยกให้กับเมนู Signature ของร้านอย่าง CB&J (280 บาท) ที่อยู่ในหมวดหมู่ของเมนูโทสต์ โดยทางร้านได้เลือกใช้ขนมปังที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ท็อปด้านบนด้วย Cashew Butter สูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งธรรมชาติ ก่อนจะท็อปอีกชั้นด้วย Roasted Grapes และ Thyme on Sourdogh ทานพร้อมกันจะได้รสชาติที่แปลกใหม่ หอมกลิ่นผลไม้ ได้รสเปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วรู้สึกสดชื่น
For Coffee Lovers
ในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม ไฮไลต์จะอยู่ที่ Orange Mocha (140 บาท) ซึ่งสามารถสั่งมาดื่มเป็นเมนูร้อนหรือเย็นก็ได้ในราคาที่เท่ากัน ด้วยความหอมของผลส้มสด ผสมกับรสเข้ม ๆ ของกาแฟสไตล์มอคค่า ทำให้เครื่องดื่มแก้วนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด
หากอยากสัมผัสความหอมกรุ่น กาแฟรสละมุนแล้วละก็ต้องสั่ง Latte (90 บาท) ลาเต้ร้อนที่มาพร้อมลายลาเต้อาร์ตสวย ๆ ให้รสนุ่มละมุน สามารถดื่มคู่กับเมนูขนมสุดโปรดได้ตามชอบ