Seoul Zaap Recipe!
Seoul Ju Pu Dong ร้านอาหารเปิดใหม่โครงการ J-Avenue ที่พัฒนาจากแบรนด์ปูดองอันยอง ร้านเดลิเวอรีชื่อดังในโลกโซเชียล สู่การสร้างสรรค์พื้นที่ความแซ่บสไตล์ฟิวชั่นเกาหลี-อีสานในแบบเฉพาะตัวของร้าน ร่วมสร้างสรรค์ความแซ่บแบบมีสไตล์โดยฝีมือของ 4 หุ้นส่วนหลักอย่างคุณเนย พชิราภาฐิย์ ยุวสกุลไพร คุณเนียร์ พิมพ์นารา พงษ์พยอม คุณจุ๋ย จรสพรรณ สวัสดิวัตถ์ ณ อยุธยา และคุณเบน พฤทธิทัศนก์ สิริวุทธิเวคิน
Fun Vibes
คอนเซ็ปต์ของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากบาร์สไตล์เกาหลี เน้นตกแต่งแบบสดใสด้วยสีม่วงและสีชมพูนีออน ให้ดูสนุกสนานช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ของปูดองให้ดูเข้าถึงง่าย ดูดีและเฟรนด์ลียิ่งขึ้น โดยสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองจากร้านอาหารสุดชิคในตอนกลางวันกลายเป็นบาร์สุดชิลล์ในยามค่ำคืน
Taste of Korean - Isaan
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าเมนูของที่ร้านนี้เป็นอาหารฟิวชั่นสไตล์อีสาน - เกาหลี เมนูส่วนใหญ่ของที่นี่จึงจะรสจัด รสแซ่บแบบภาคอีสานของไทยผสมผสานกับเอกลักษณ์อาหารเกาหลี เริ่มต้นที่เมนูแรกอันเป็นจุดกำเนิดของร้าน ได้แก่ ปูม้าไข่ดองโซจู (1 ตัว 495 บาท) ที่คัดสรรปูทะเลของไทยตัวใหญ่เนื้อแน่นนำมาดองด้วยโซจู เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับใครที่ไม่ต้องการโซเดียมในการกินปูดอง ซึ่งทางร้านจะเน้นความสดของเนื้อปูเป็นหลัก อย่าลืมเพิ่มเมนูที่หนักท้องขึ้นมาหน่อยอย่าง ข้าวผัดกิมจิกระทะร้อน หมูส้มคุโรบุตะ (245 บาท) ที่ทางร้านนำหมูคุโรบุตะไปทำเป็นหมูส้ม เสิร์ฟบนข้าวผัดกิมจิ พร้อมกับไข่และสาหร่าย ใช้วิธีการทานแบบบิบิมบัมโดยการคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน
แต่หากใครไม่ถนัดทานอาหารดอง ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่น ๆ ไว้รองรับ ใครที่ชอบซีฟู้ดลองสั่ง Set สเต๊กกุ้งแม่น้ำราดซอสโคชูบัตเตอร์ (895 บาท) เมนูที่ชูความเผ็ดร้อนของซอสพริกโคชูจังเกาหลี ให้รสชาติตัดกับสเต๊กกุ้งแม่น้ำไทยตัวใหญ่ เนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมกับโฮมเมดกิมจิ ข้าวนึ่งเกาหลี สลัดต้นหอมญี่ปุ่นและสลัดมันเกาหลี
ต่อกันที่ความแซ่บแบบที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ส้มตำกิมจิปูทะเลไข่ดอง (645 บาท) ที่เลือกเมนูส้มตำยอดฮิตของคนไทยมาผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นเกาหลีด้วยการนำมะละกอและแครอทตำกับกิมจิเกาหลี ซึ่งให้รสชาติเปรี้ยวและสามารถใช้แทนมะนาวได้ เสิร์ฟมาพร้อมกับปูทะเลไข่ดองน้ำปลา ที่ดองด้วยสูตรต้นตำรับจากประเทศเกาหลี
หากใครที่สนใจอยากนั่งยาว ๆ แฮงก์เอาท์กับเพื่อนฝูงทางร้านก็ยังมีเมนูค็อกเทลในสูตรพิเศษที่ทางร้านครีเอทขึ้นมารองรับสายปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ซึ่งค็อกเทลของที่นี่นั้นจะใช้เบสเป็นโซจูทั้งหมด มาเริ่มต้นกันที่เครื่องดื่มแบบเบา ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนั่งเรื่อย ๆ หรือไม่ถนัดดื่มค็อกเทลอย่าง Soju Yakult Jelly (315 บาท) โซจูผสมกับเจลลี่ ให้รสชาติหวาน ๆ และกลิ่นหอมของเจลลี่ ดื่มง่าย
หรือจะลองแก้วที่ให้รสชาติที่หนักขึ้นมาหน่อยอย่าง Seoul Good To Be Bad (315 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมเข้มข้นของโซจู จิน เติมรสชาติด้วยน้ำส้มยูสุ และความหอมหวานของชามะม่วงเกาหลี
