The Original Taste from Yanagiya
นับเป็นข่าวดีของนักชิมชาวไทยเมื่อ Yanagiya ร้านอาหารชื่อดังอายุกว่า 73 ปี จากเมือง Mizunami ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่คนทานต้องได้รับเชิญเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปทานอาหารภายในร้านได้ส่งตรงความอร่อยมาสู่เมืองไทย โดยครั้งนี้ทาง Yanagiya พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้คุณได้ลิ้มลองสารพัดเมนูปิ้งย่างสไตล์โอมากาเสะ ซึ่งพ่วงมาด้วยหลากหลายวัตถุดิบชั้นดี เสิร์ฟจากมือเชฟแบบคำต่อคำ ภายใต้ชื่อ Shun by Yanagiya ที่ศูนย์การค้า DONKI Mall Thonglor
A Burning Coals Grill Atop
บรรยากาศสุดส่วนตัวที่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คุณจะสัมผัสได้ทันทีที่เปิดประตูไม้บานใหญ่เข้าไปภายในร้าน ก่อนจะเพิ่มความตื่นตาตื่นใจด้วยโซนครัวเปิดแบบเคาน์เตอร์บาร์ครึ่งวงกลม สำหรับ 15 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยแสงสลัวจากโคมไฟบนเพดานที่ถูกดีไซน์ออกมาในรูปแบบของ Kuro-Zumi และ Shori-Zumi หรือถ่านสีขาวและสีดำอันเป็นหัวใจสำคัญของการทำอาหารโดยใช้เตาอิโรริของที่นี่
Charcoal-Grilled Chef’s Selection
สำหรับคอนเซ็ปต์และจุดเด่นของที่นี่คือประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการคัดสรรและนำเอาวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียมที่หมุนเวียนตามฤดูกาลตลอดทั้งปีมาให้ได้ลองทานกัน รวมไปถึงเหล่าเชฟมากฝีมือที่ถูกเทรนมาโดยตรงจาก Masashi Yamada ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 จากร้าน Yanagiya และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของทางร้านที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความสมบูรณ์แบบของถ่านที่ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงอาหารหน้าเคาน์เตอร์โดยเฉพาะ
Traditional Yanagiya Style
เริ่มต้นลิ้มลองความอร่อยกันด้วยเมนูเย็น ๆ อย่าง Maguro Cornet หรือส่วนของ Agami ที่ท็อปมาด้วยคาร์เวียร์จากฝรั่งเศส พร้อมสาหร่ายจากเกาะคิวชู ที่เสิร์ฟเคียงมากับ Wasabi Chantilly และ Yuzu ก่อนจะแต่งด้วยดอกโอบะที่สามารถทานได้ ตามด้วยเมนู Salad ที่ทางร้านเลือกใช้ผักสดปลอดสารพิษหลากหลายชนิดจากจังหวัดเชียงใหม่ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัด Shiokombu Dressing ที่ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น
ต่อมาเป็นเมนูปิ้งย่างอย่าง Ocean Trout หรือปลาเทราต์ย่างซอสเทริยากิสูตรของทางร้าน หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของถ่าน หรือจะเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบซึ่งเป็นที่โปรดของใครหลายคนอย่าง Carabinero หรือกุ้งแดงจากสเปนที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อสีแดงสวยและรสหวานตามธรรมชาติ โดยเมื่อนำไปย่างบนเตาถ่านและปรุงรสตามด้วยเกลือเล็กน้อยจะได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
ต่อด้วยไฮไลต์ของทางร้านกับหลากหลายเมนูไก่ที่ถูกเลี้ยงมาเป็นพิเศษจากเขายายเที่ยง โดยทางฟาร์มเลี้ยงไก่ด้วยจิ้งหรีด ให้วิ่งเล่นตามธรรมชาติพร้อมเปิดเพลงให้ฟัง ในส่วนของเนื้อไก่ที่นำมาใช้ ทางร้านจะเลือกเฉพาะไก่ที่มีอายุ 120 วัน เพื่อให้ได้เนื้อไก่ที่นุ่มและมีรสหวานตามธรรมชาติ เริ่มจากเมนู Kata หรือส่วนของหัวไหล่ไก่ที่นำมาย่างกับเกลือ ตามด้วย Koshiwa หรือส่วนสะโพกไก่ เนื้อนุ่ม ๆ ที่ย่างมาร้อน ๆ และ Tebasaki หรือปีกไก่สไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานรสสัมผัสที่กรุบกรอบของส่วนหนังและความนุ่มละมุนของเนื้อไก่เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ได้รสชาติแบบดั้งเดิมของทางญี่ปุ่น
ในส่วนของผักย่างที่เสิร์ฟเคียงมาด้วยกันก็มีทั้ง Zucchini ที่ย่างมากับ Kampot Red Pepper และ Tosa Joyu รวมไปถึง Asparagus ที่เต็มไปด้วยรสชาติของ Nori Butter, Yuzu Vinegar และ Tosa Joyu นอกจากนี้ ยังมี Uzura หรือไข่นกกระทารมควันบนถ่านไม้โอ๊คญี่ปุ่นและหมักในซอสเมนสึยุนานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อให้คนทานได้สัมผัสกับรสชาติของไข่แดงที่นวลเนียนละลายในปาก
อีกซิกเนเจอร์ที่พลาดไม่ได้คือ Temaki ข้าวห่อสาหร่ายจานนี้เป็นการรวมตัวของวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ข้าวญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของนํ้าส้มสายชูแดง Akazu ไข่หอยเม่น โอโทโร่และไข่ปลาแซลมอนที่ตักมาพูนช้อน ซึ่งได้ทั้งความมันและความอูมามิจากไข่ปลาและไข่หอยเม่น ก่อนที่จะถูกนํามาห่อด้วยสาหร่ายจากอ่าว Ariake บนเกาะคิวชู
ส่วนเมนูเนื้อนั้นก็มีวากิวที่ชื่อว่า Yakiniku Meets Shun by Yanagiya เนื้อวากิว Miyazaki Kuroge A4 สไลซ์บาง เสิร์ฟพร้อมกับไข่แดงสดและซอส Momidare ซึ่งมีส่วนผสมของไวน์ Pinot Noir ต่อด้วย Wild Boar เนื้อหมูป่าจากธรรมชาติจากแคว้น Picardy ในฝรั่งเศสที่ย่างมากับซอส Tare Sauce หรือจะเป็นวัตถุดิบชั้นดีอย่าง Foie Gras ที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เสิร์ฟพร้อมกับ Shallot Confit ซึ่งให้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว
ไฮไลต์สุดท้ายคือ Unadon Unagi ปลาไหลที่คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี ทาด้วยซอส Spacial Tare นำไปย่างจนหอม เสิร์ฟมาพร้อมกับ Yumepirika Rice ก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Campfire Marshmallows มาร์ชเมลโลว์ย่างหอม ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Moccha & Yuzu Cream
Must Read!
- ควรจองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน