Exciting Dining on The Chao Phraya River
ชวนมาสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์อย่างเหนือระดับท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยากับ Sirimahannop เรือสิริมหรรณพที่จะพาคุณย้อนเวลากลับเข้าสู่ยุคสมัยของการค้าขายและมรดกอันรุ่งเรืองของไทยในอดีต ซึมซับบรรยากาศผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเรือลำนี้ พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตา
Sirimahannop อยู่ภายใต้การดูแลของโรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen's Park มีต้นแบบมาจากเรือสำเภาสามเสาของราชนาวีไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีบทบาทสำคัญในการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปสู่ทวีปยุโรป อีกทั้งยังนำพาความเจริญรุ่งเรืองจากฝั่งตะวันตกมาสู่ดินแดนไทย เรือสิริมหรรณพลำนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างประณีต เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสความอลังการและเรื่องราวอันยาวนานของเรือแห่งตำนานลำนี้ไปพร้อม ๆ กัน
Inspired by Three Masted Sailing Ship
แล้วคุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับเรือใบสามเสาลำใหญ่ที่ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหราสวยงามด้วยการประดับตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้สุดคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกแบบสมจริง เสมือนเป็นลูกเรือในสมัยก่อนเลยก็ว่าได้ ภายในถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ได้แก่ ชั้นบน ‘Upper Deck’ พร้อมต้อนรับด้วยพื้นที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกสบาย ๆ สุดผ่อนคลาย สามารถดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างเต็มตา ส่วนใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เรือลำนี้ยังมีชั้นล่างอย่าง ‘Lower Deck’ ที่ชวนสะดุดตาด้วยการตกแต่งในโทนสีน้ำตาลตัดกับทอง สะท้อนถึงความหรูหราออกมาได้เป็นอย่างดี
เติมเต็มค่ำคืนที่แสนพิเศษให้ Exclusive มากยิ่งขึ้นด้วยห้อง ‘The Bridge’ ห้องวีไอพีสุด Private ที่ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ห้องกัปตัน พร้อมเปิดประตูต้อนรับเข้าสู่บาร์รัมที่ซ่อนอยู่ในนั้น เพื่อมอบประสบการณ์สุดแปลกใหม่ให้ทุกคนได้มาลิ้มรสสัมผัสของเหล้ารัมที่เรียกว่า ‘Tots’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสูตรผสมส่วนตัวของ ‘ฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน’ กัปตันเรือลำนี้ในสมัยอดีต
Culinary Journey and Creative Drinks
คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับรสอันหลากหลายของเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเส้นทางการเดินเรือในอดีต ที่ถูกครีเอตออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Culinary Journey’ หยิบยกเอาวัตถุดิบแถบตะวันตกและตะวันออกที่พบเจอในระหว่างการเดินทาง มาผสมผสานความเป็นไทยออกมาได้อย่างลงตัว
เรียกน้ำย่อยกับเมนู Oysters อย่าง Signature Fine de Claire (France) (390 บาท) หอยนางรมนำเข้าจากฝรั่งเศส ที่พิเศษด้วย Dressing ที่ทางเชฟครีเอตออกมาไม่เหมือนใคร ด้วยส่วนผสมของน้ำส้มสายชูที่หมักจากสับปะรด ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เมื่อผสานเข้ากับหอยนางรมสดจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สำหรับใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน ทางร้านยังมี Dressing ซีฟู้ดเคียงมาให้ทานคู่กันอีกด้วย
ถัดมาที่เมนูเอาใจคนรักสุขภาพอย่าง Fresh Baby Greens (220 บาท) สลัดผักนำเข้า ที่ทางเชฟนำมาผสมผสานเข้ากับผักไทยหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โหระพา ผักชี และใบมินต์ แล้วเสริมมิติของรสชาติด้วยน้ำสลัด Dressing ที่ทำจากมะขามเปียก ก่อนจะท็อปด้วยหอมแดงและกระเทียมเจียวปิดท้าย ทานแล้วรู้สึกเฟรชและได้ความสดชื่นเต็ม ๆ คำ
ส่วนใครชอบทานเนื้อ แนะนำ Beef Flank Steak From Java (420 บาท) เนื้อแฟรงค์วากิวที่ทางเชฟนำไปหมักด้วยน้ำมันหอยและเครื่องเทศอย่าง พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ก่อนจะนำไปย่างแบบ Medium Rare จนได้ความหอมและความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อแบบพอดี เคียงมาคู่กับสลัดผัก เหมาะสำหรับทานคู่กับเครื่องดื่ม Signature Cocktail แก้วโปรดอย่าง Mango (380 บาท) ค็อกเทลรสชาติ Full Body ที่มีส่วนผสมของมะม่วงพระยา, ลูกกระวาน, มะนาว และคัมปารี ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวานแบบพอดี เสริมความอร่อยให้จานนี้พิเศษมากยิ่งขึ้น
ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตอย่าง Smoked Pepper Mackerel (270 บาท) ปลาแมคเคอเรลรมควัน ปรุงมาในรสชาติกลมกล่อม หอมมัน เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับขนมปังกะลาสี ที่นับเป็นอาหารหลักของลูกเรือในสมัยก่อน พร้อมเสริมความเข้มข้นด้วย Scandinavian Horseradish Sauce ทานพร้อมกันได้ความอร่อยที่ลงตัว แนะนำให้ทานคู่กับเครื่องดื่มสุดสดชื่นอย่าง I Am Farang (380 บาท) มีส่วนผสมของ Beefeater Gin, ชาเอิร์ลเกรย์, สตรอเบอร์รี, มะกรูด, มะนาว และฝรั่ง ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ดื่มง่าย และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายด้วยเมนูอิ่มท้องที่สื่อถึงความเป็นไทยอย่าง Gulf of Thailand Spicy Egg Plant Curry (320 บาท) เมนูแกงใต้รสกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศแบบชัดเจน พิเศษด้วยพริกแกงสูตรเฉพาะที่ให้รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนที่ไหน นำมาเสริมความอร่อยเข้ากับมันสำปะหลัง มะเขือเทศ และมะเขือยาวรมควัน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและแผ่นโรตีให้ทานคู่กัน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำว่าต้องลอง