Enter The World Of SIWILAI
ใครที่เป็นแฟน SIWILAI และคุ้นเคยกับ Rocket คาเฟ่ที่อยู่ติดกัน ตอนนี้ได้เวลากลับมาเช็คอินที่นี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้ทางร้านได้เปิด SIWILAI Café แทนที่ร้านเก่า ซึ่งที่นี่ยังคงความเป็นคาเฟ่นั่งสบายเช่นเดิม แต่ได้ปรับคอนเซ็ปต์เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์เอาใจขาช้อปทั้งหลายให้ได้มานั่งชิลล์กัน
Sit Back and Enjoy
รอบบริเวณร้านติดกระจกใสบานใหญ่เพื่อให้ร้านดูโปร่ง ส่วนภายในเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และติดกระเบื้องสีเอิร์ธโทนสลับเข้มกับอ่อนที่ผนัง ให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง บริเวณบาร์ด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์ที่ทำจากหินอ่อน วางด้วยวัตถุดิบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งยังมีเหล้าและไวน์หลากชนิดให้เลือกดื่มกัน ส่วนบริเวณด้านนอกมีไว้สำหรับคนที่อยากทานอาหารไปพร้อมกับสัมผัสอากาศธรรมชาติ ท่ามกลางวิวสวย ๆ ของสถานทูตอังกฤษ
Have A Good Breakfast
อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารไทยและฝรั่งปะปนกันไปและเป็นจานที่ทานได้ทั้งวัน ซึ่งทุกจานถูกคิดค้นโดย Executive Chef ชาวนิวซีแลนด์ Blair Mathieson ที่เคยมีประสบการณ์กับร้านอาหาร Quince โดยตั้งอยู่บนปรัชญาของการปรุงอาหารด้วยความจริงใจ และจะเลือกเฉพาะวัตถุดิบที่สดใหม่แบบ Local จากฟาร์ม เช่น ชีสจากฟาร์มนมจังหวัดนครสวรรค์ หมูจากฟาร์มสามพรานและ Sloane's รวมทั้งผักและผลไม้ตามฤดูกาล เริ่มต้นด้วยเมนูอาหารเช้าที่ทำจากไข่ Shakshuka (300 บาท) เมนูที่เต็มไปด้วยซอสมะเขือเทศสูตรเข้มข้น และไข่ไก่สองฟอง อบจนเกือบสุกแล้วนำออกมาปรุงด้วยพริกไทยและยี่หร่า รสชาติของซอสมะเขือเทศกับไข่ไก่เข้ากันได้ดี
อีกหนึ่งเมนูอาหารเช้าที่น่าสนใจ Chilbir (240 บาท) อาหารเช้าต้นตำรับจากประเทศตุรกี มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวซอสซึ่งมีส่วนผสมของ Dill Garlic Yogurt และ Chilli Butter ราดลงบน Poached Eggs ทานคู่กับใบบัวบกและขนมปังทาเนยอบกรอบ เป็นเมนูที่ผสมของร้อนกับของเย็นได้อย่างเข้ากัน
Time For Appetizer
มาถึงจานเรียกน้ำย่อยกันบ้าง ทางร้านแนะนำ Cured Salmon (350 บาท) เนื้อปลาแซลมอนสไลด์บาง หมักกับบีทรูทและทานกับซอส Dill Cream เนื้อจะออกสีชมพู ทานกับแอปเปิ้ลเขียวและบีทรูท รสชาติมัน ๆ ทานง่าย ไม่คาว
After Big Meal
หลังจากอิ่มอาหารคาวแล้ว ก็ถึงเวลาของขนมหวานที่หลายคนได้ลองติดใจ อย่าง Lemon Curd Tart (240 บาท) แป้งทาร์ตกรอบ ๆ สอดไส้ครีมเลมอน ท็อปด้วยเมอแรงก์เบิร์นไฟ ทานพร้อมกับน้ำผึ้งและผิวเลมอนหวานหอม ตบท้ายมื้อนี้ได้ดี
ด้านเครื่องดื่มของทางร้านได้ถูกคิดค้นและสร้างสรรค์โดยทีม Sugar Ray โดยมีการแทรกกลิ่นอายความเป็นไทยลงไปในทุกแก้ว อย่างเช่น การนำเสาวรสและมะนาวลงไปในเมนู Jungle Crush (170 บาท) หอมกลิ่นเสาวรส ได้รสชาติเปรี้ยวและไม่หวานมาก
