Where Arts Meet Coffee
Sometimes, I feel ร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่มาพร้อมลุคคูล ๆ ในซอยสุขุมวิท 31 ที่นำเสนอความสวยงามของศิลปะหลากหลายแขนง ผ่านการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มและการจัดแสดงงานศิลปะภายในร้าน โดยตัวร้านนั้นถูกแบ่งออกเป็นส่วนของคาเฟ่และส่วนของแกลอรีที่ทางร้านเปิดโอกาสให้ศิลปินเข้ามาจัดแสดงผลงานได้อย่างไม่จำกัด
Non - Style Fusion
เนื่องจากหุ้นส่วนของร้านทั้ง 4 คนต่างมีความชอบที่แตกต่างกันออกไปการออกแบบตัวร้านจึงนำความชอบของแต่ละคนมารวมกันไว้ที่นี่ในแบบ non-style fusion การตกแต่งแบบไร้รูปแบบ
โดยภายนอกนั้นจะดูดิบ ๆ ด้วยโครงของเรือนกระจกที่ใช้ทำกาแฟ ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ส่วนภายในร้านดูเรียบแต่มีสไตล์ด้วยการตกแต่งโดยใช้โทนสีครีม ดำ และน้ำเงิน เพิ่มกิมมิกด้วยรูปภาพจากศิลปินมากมายทั้งที่เป็นของสะสมของเจ้าของร้านเองและเป็นผลงานที่ศิลปินนำมาจัดแสดง
Enjoy Thai Blends
สำหรับเครื่องดื่มของทางร้านนั้นจะเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังคงมีกาแฟเบลนด์จากลาวและบราซิล รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์พิเศษต่าง ๆ ที่หมุนเวียนกันมาให้ลูกค้าได้ลองชิมกันในทุก ๆ เดือน ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรไทยและอยากที่จะนำเสนอรสชาติแบบไทยให้คนทั่วไปได้รู้จัก
ซึ่งทางร้านใช้กรรมวิธีในการทำแบบเฉพาะ เพื่อดึงคาแรกเตอร์ของเมล็ดกาแฟจากจังหวัดนั้น ๆ ออกมาให้ได้มากที่สุด เช่น เมล็ดกาแฟจากจังหวัดชุมพร ที่จะให้รสชาติของความเป็นถั่ว หรือจากเชียงรายที่ทางร้าน Cupping ออกมาจนได้รสชาติและกลิ่นที่คล้ายกับกล้วย
It's coffee Time!
มาเริ่มกับเมนู Stained (140 บาท) ลิ้มรสชาติที่ชัดเจนของกาแฟไทย ที่ใช้เมล็ดกาแฟจากผาฮี้ ส่งตรงจากภาคเหนือของไทย นำไปผสมกับ Ginger Syrup เล็กน้อยช่วยลดความเปรี้ยวของกาแฟลง ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว
ต่อกันด้วยเมนูสุดพิเศษอย่าง C.Salt Caramel Macchiato (110 บาท) ที่ทางร้านใช้กาแฟเบลนด์ผสมผสานกับซอสคาราเมลถึง 3 ชนิดด้วยกัน โดย 1 ในนั้นเป้นคาราเมลโฮมเมดของทางร้านเอง สำหรับแก้วนี้จะให้รสชาติที่เนียนนุ่มและส่งกลิ่นหอมหวานเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มแบบเข้มจนเกินไป
หรือจะลองเป็น Orangepresso (140 บาท) เมนูเอาใจสายกาแฟส้ม เจลลี่กับเนื้อส้มและน้ำส้มผสมสปาร์คกลิ้ง แยกเลเยอร์กันมากับเอสเพรสโซ่ช็อต หอมกลิ่นกาแฟและเปลือกส้ม เป็นแก้วที่ช่วยเติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
ต่อกันด้วยเมนูสำหรับสายหวาน Double Trouble Float (140 บาท) แก้วที่ดูเป็นขนมมากกว่าเครื่องดื่ม ด้วยการผสมผสานของกาแฟสกัดผ่านเนื้อมะนาว ผสมกับไซรัปวานิลลา และซอสญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มความหวาน มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นท็อปด้านบนด้วยฟองนมและไอศกรีมวานิลลา
ส่วนใครที่ต้องการรสสัมผัสดี ๆ ในการดื่มเครื่องดื่ม ทางร้านแนะนำให้ลอง Orange Mocha (140 บาท) กาแฟมอคค่าผสมน้ำส้มสด จากนั้นทำไปเชคให้เข้ากัน ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างและสนุกยิ่งขึ้นด้วยเนื้อส้ม ขูดผิวส้มผสมลงไปเพื่อให้ได้กลิ่นหอมของส้มที่ชัดขึ้น ดื่มง่าย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟที่เข้มจนเกินไปหนัก แต่หากใครต้องการความเข้มข้นของกาแฟ ก็สามารถสั่งกาแฟช็อตเติมได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยเมนูสำหรับคนไม่ถนนัดกาแฟ C.Salt Caramel Thai Tea (100 บาท) รสชาติของชาไทยที่คุ้นเคย แต่แตกต่างออกไปด้วยกรรมวิธีการชงของทางร้านที่บาริสต้าเลือกใช้คาราเมลโฮมเมดให้รสหวานของชาไทย ทำให้เวลาดื่มจะได้รสชาติที่นุ่มนวลและมีเลเยอร์ของคาราเมลและชาไทยมากขึ้น