The Japanese Home in Sukhumvit 42
อีกหนึ่งสาขาในย่านสุขุมวิท 42 ของร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมอย่าง Sousaku ที่พร้อมเนรมิตความอร่อยของสุกี้ยากี้สไตล์คันไซแท้ ๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินในบรรยากาศแสนอบอุ่นแบบบ้านหลังใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมพร้อม ชมวิวสวนสไตล์เซนภายใต้ความเงียบสงบที่แอบซ่อนเอาไว้เหมือนได้เข้าไปในอีกโลกหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
Japanese Traditional Vibes
ตัวร้านได้ดัดแปลงบ้านหลังใหญ่ในสุขุมวิทมาดีไซน์ ตกแต่งและปรับแต่งเพิ่มเติมให้ได้กลิ่นอายของความเป็นบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมให้มากที่สุด ด้วยการเลือกใช้วัสดุไม้สีอ่อนและเข้ม ผนังหิน ก่อนจะประดับประดาด้วยของตกแต่งต่าง ๆ ตามโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนไพรเวทที่สามารถปิดแบบเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนและเสื่อทาทามิ หรือใครมาแบบเป็นคู่ก็สามารถนั่งชมวิวสวนสไตล์เซนสุดชิลล์ได้ในโซนด้านหน้าเช่นกัน
Sukiyaki in Kansai Style
มาเริ่มต้นความอร่อยกันที่ซิกเนเจอร์ของสาขาอย่าง Kansai Style Sukiyaki Set สำหรับ 1 - 2 ท่าน (1,550 บาท++) เซ็ตสุกี้ยากี้สไตล์คันไซที่จะผัดสไตล์น้ำน้อย โดยจะเริ่มด้วยการผัดผักกับสาเกก่อนจะเติมซุปสุกี้รสเข้มข้นด้วยสูตรของทางร้านเอง ได้รสและกลิ่นของเนื้ออย่างชัดเจน
ซึ่งภายในเซ็ตประกอบไปด้วยเซ็ตผัก, Japanese Pure Blood Wagyu A4 220 g. และไข่ไก่ 2 รูปแบบที่ต่างกันอย่าง ไข่ออร์แกนิกจาก ตงศิริฟาร์ม ที่เลี้ยงด้วยผักผลไม้ที่ผลูกเองในฟาร์ม ทำให้ไข่มีสีเหลืองนวล รสชาติอ่อน หวานติดปลายลิ้นไม่คาว และไข่ Mori Tama จาก ISE ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นที่หนึ่งของไข่สำหรับสุกี้ยากี้ ให้สีส้มจัดรสชาติมันเข้มข้น เหมาะสำหรับจิ้มทานกับเนื้อสุกี้
ส่วนเมนูรองท้องทางร้านมาแบบจัดเต็ม สำหรับสายสุขภาพลองสั่งเป็น Zuwaigani-Miso Salada (690 บาท) เมนูสลัดที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Midori Sushi โดยทางร้านเสิร์ฟผักสลัดสด ๆ ท็อปด้านบนด้วยเนื้อปู Zuwaigani จากญี่ปุ่น ราดด้วยมันปูผสมสูตรเฉพาะของ Sousaku เสิร์ฟแบบดั้งเดิมให้ได้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
หรือจะลองเป็นเมนู Shime Saba on Bamboo (490 บาท) เมนูอาหารทานเล่นที่ทางร้านเลือกใช้ซาบะญี่ปุ่นมากหมักกับน้ำส้มชั้นดีในสูตรของทางร้าน ทำให้เนื้อปลายังคงความมันไม่แห้ง ไม่เปรี้ยวหรือเค็มจัดเหมือนซาบะทั่วไป เสิร์ฟมาบนไผ่ ก่อนจะมาเบิร์นไฟกันให้สด ๆ ถึงโต๊ะอาหาร เสิร์ฟมาพร้อมกันกับเลมอน ไชเท้าขูดและดอกเกลือช่วยเพิ่มรสชาติ
นอกจากนี้ยังมี Kanimiso Kamameshi (490 บาท) เมนูข้าวอบหม้อดินที่ผสานกับเทคนิคการปรุงแบบเกาหลีมาร่วมด้วย โดยทางร้านนำข้าวญี่ปุ่นราดด้วยมันปูผสมสูตรเฉพาะของทางร้านและไข่กุ้ง ท็อปหน้าด้านบนด้วยเนื้อปูหิมะและไข่แซลมอน ก่อนจะนำไปอบในหม้อด้วยไฟกลางแบบไม่ปิดฝา ให้ข้าวร้อนระอุแบบไม่ปิดฝา ทำให้ข้าวไม่เปียกและได้กลิ่นหอมไหม้นิด ๆ แนะนำให้คลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว
ปิดท้ายด้วย Sashimi Ice Dome (1,999 บาท) เซ็ตซาซิมิเสิร์ฟในโดมน้ำแข็งเพื่อคงความสดใหม่ ภายในจัดเต็มซาซิมิสดใหม่มากมาย อาทิ โอโทโร, ชูโทโร, ฮอนอากามิ, แซลมอนโทโร, หอยโฮตาเตะ, ไข่ปลาแซลมอน และปลาเนื้อขาวชิมะ, อาจิและปลาเมได ส่วนใครที่เป็นสายซูชิทางร้านยังมีหลากหลายเมนูซูชิสุดพรีเมียมให้เลือกสรรกันได้ตามใจชอบเช่นกัน