Omakase-Style Sushi Restaurant in Silom
Sushi Misaki Nobu ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ ได้ฤกษ์ขยับขยายความอร่อยจากสาขาแรกที่ Rain Hill มายังชั้น 2 ของโรงแรมบัญดารา สวีท ซอยศาลาแดง 1 โดยสำหรับสาขานี้จะให้ความรู้สึกแบบเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ก่อนจะเพิ่มความสนุกสนานเข้าไปให้ได้บรรยากาศเดียวกันกับย่านสีลม พร้อมผสานมู้ดแอนด์โทนความอบอุ่นแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ เข้าไป ผ่านการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ส่วนการบริการด้านอาหารนั้นจะเน้นเสิร์ฟความอร่อยแต่ละวันด้วยเมนูสุดพิเศษในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน และรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทานได้ถึง 12 ที่นั่งด้วยกัน
Well Preserved for Tradition and Quality
ทางร้านนำเสนอโอมากาเสะแบบไคเซกิ หรือการเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบคอร์ส ทีละจานตามลำดับ ตามธรรมเนียมญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งค่อนข้างพิถีพิถัน นับตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดตามฤดูกาล ผ่านกรรมวิธีการปรุงและเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวของเชฟแต่ละท่าน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับ Haute Cuisine อาหารยุโรปชั้นสูงของฝั่งตะวันตก
A Taste of Special Course
เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง Sushi Misaki Nobu ได้เลือกหัวเรือใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นแท้ ๆ มาเสิร์ฟความอร่อยแบบถึงมือ นำทีมโดย เชฟ Nobu Nagasaki และเสริมทัพด้วย เชฟ Shogen Takahashi สองเชฟผู้มากด้วยประสบการณ์ พร้อมนำเสนอเมนูสุดพิเศษแบบตามใจเชฟ แต่ถูกใจเรา ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
ทางร้านแบ่งออกเป็น 2 คอร์สให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ 4,000 บาท และ 6,000 บาท เริ่มต้นกันที่เมนูเด็ดน่าลองจากคอร์สใหญ่ 6,000 บาท อย่าง Awabi with Two Different Way of Serving อาวาบิหรือหอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นแบบสด ๆ ที่เสิร์ฟให้ลิ้มลอง 2 แบบ ได้แก่ อาวาบิสดทาน้ำเลมอนบาง ๆ ทานคู่กันกับวาซาบิสด และอาวาบิราดซอสสีเขียวสูตรพิเศษ ที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพดี
หรือจะลองเป็นจานพิเศษจากคอร์ส 4,000 บาท ประเดิมด้วยเมนูทานง่ายอย่าง Corn Hotate Satsumaase หอยโฮตาเตะและข้าวโพดหวานญี่ปุ่นทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน ก่อนจะราดตามด้วยซอสหวาน และท็อปด้านบนด้วยหัวไชเท้า
ต่อกันที่เมนูที่ไม่ควรพลาด Ankimo Rissoto ที่เชฟนำเสนอความอร่อยของ Ankimo หรือตับปลา Monkfish ที่ได้รับการยอมรับเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดประจำฤดูหนาวของญี่ปุ่น และติด 1 ใน 50 ของอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก (CNN Go ปี 2011) โดยท็อปมาบนรีซอตโต้ที่ให้ความครีมมี่ แฝงไปด้วยความหอมมัน อีกทั้งยังได้รสชาติโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำสต็อกไก่และมิโสะซุป ที่ช่วยชูรสชาติของ Ankimo ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเติมเต็มความกลมกล่อมให้มากขึ้นด้วยไข่ปลาแซลมอน
ต่อด้วยความนุ่มละมุนลิ้นของ Chutoro with Truffle ซูชิชูโทโร่หรือเนื้อท้องส่วนหลังของปลาทูน่า (Maguro) เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันแทรกในปริมาณที่พอเหมาะ ให้ความหวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่มรองลงมาจากโอโทโร่ โดยเชฟจะนำเอาถ่านมาจี่ให้ส่วนนี้สุกกำลังดีและมีกลิ่นหอม ก่อนจะเสิร์ฟมาบนข้าวปั้นผสมซอสสูตรพิเศษของทางร้าน แซมด้วยไข่เค็ม และท็อปด้วยคาเวียร์ที่มาช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น จากนั้นจึงห่อด้วยสาหร่ายและท็อปด้วยเห็ดทรัฟเฟิลตามไปอีกครั้ง เป็นหนึ่งคำภายในคอร์สที่ต้องถูกใจใครหลายคนแน่นอน
ถัดมาอีกหนึ่งจานกับเมนู Grilled Tachiuo ปลาดาบญี่ปุ่นย่าง ที่เชฟใช้ความพิถีพิถันในการทำ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีกว่าปลาดาบทั่วไป แม้จะใช้เวลานานกว่าแต่ให้ความอร่อยที่มากกว่า ด้วยกลิ่นหอมเตาถ่าน เป็นอีกหนึ่งคำที่ทานง่ายและให้รสหวานของเนื้อปลา
ปิดท้ายกันด้วยของหวานอย่าง Kuromitsu Bavaroa with Tea Jelly เมนูที่คล้ายกับพุดดิ้งนม ให้เนื้อเนียนละเอียด พร้อมกลิ่นหอมของบราวน์ชูการ์แบบกำลังดี แล้วท็อปด้านบนด้วยเจลลี่รสชา สูตรเฉพาะของทางร้าน
