Traditional Edomae Sushi Omakase Restaurant in Silom
สัมผัสประสบการณ์ทานอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะในแบบฉบับของ Sushi Saryu ร้านโอมากาเสะน้องใหม่ในย่านสาทร-สีลม ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยคอร์สโอมากาเสะแบบพรีเมียม ในบรรยากาศเป็นส่วนตัว โดยอาหารทุกจานได้รับการตระเตรียมและปรุงด้วยความประณีต ผ่านเทคนิคการทำซูชิแบบเฉพาะตัวของ ‘เชฟเซอิจิ ซูโด’ ผู้สั่งสมประสบการณ์ทำซูชิแบบดั้งเดิมที่เน้นให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศและใช้เวลาในการเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ด้วยตัวเองนานหลายชั่วโมง เพื่อดึงรสชาติอูมามิที่แท้จริงออกมาเสิร์ฟความอร่อยจำนวน 15 คอร์ส (ราคา 8,000++ บาท / คน) ได้อย่างประทับใจเหล่านักชิมมากที่สุด
ที่มาของชื่อร้าน ‘Sushi Saryu’ มาจากคำว่า ‘Saryu’ โดยซาริว หมายถึง ทรายที่ไหลจากที่สูงลงสู่กระเปาะด้านล่างของนาฬิกาทราย เสมือนเวลาอันมีค่าของการได้เข้ามาสัมผัสและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับประทานโอมากาเสะแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังสื่อถึงช่วงเวลาที่เชฟเซอิจินั้นได้ฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่น ซึ่งต้องใช้เวลาในการเสาะแสวงหาวัตถุดิบชั้นเลิศ และเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อเสิร์ฟอาหารที่ดีที่สุดให้กับผู้มาเยือน
All Served by Chef Seiji Sudo
เบื้องหลังความอร่อยหลากหลายเมนูของร้าน Sushi Saryu ล้วนผ่านมือเชฟเซอิจิมาแล้วทั้งสิ้น จากการเรียนรู้และหลงรักความหลากหลายของวัตถุดิบ รวมถึงความซับซ้อนของศิลปะการทำซูชิที่สั่งสมประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี ทำให้เชฟตัดสินใจเดินทางไปยังหลาย ๆ ประเทศ เพื่อเผยแพร่ศิลปะการทำซูชิแบบดั้งเดิมให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเขาเป็นที่รู้จักในฐานะเชฟที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศและมีทักษะในการเตรียมวัตถุดิบ เพื่อดึงรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบนั้น ๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี
Premium-Quality Ingredients
ร้านโอมากาเสะแห่งนี้ เลือกนำเสนอคอร์สโอมากาเสะแบบพรีเมียมในบรรยากาศเป็นส่วนตัว โดยอาหารทุกจานได้รับการปรุงอย่างประณีต พิถีพิถันตามแบบเทคนิคเฉพาะตัวของเชฟ
อีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ คือภาชนะเซรามิกที่ต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแต่ละใบมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ได้รับการออกแบบและผลิตโดยศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านเซรามิกจากหลากหลายท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเก่าแก่และถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
An Exclusive and Utterly Memorable Omakase Journey
วัตถุดิบอาหารทะเลส่วนใหญ่ของทางร้าน ถูกส่งตรงมาจากตลาดปลาโทโยสุในโตเกียว โดยมีความเชี่ยวชาญในอาหารทะเลแต่ละชนิด และได้รับความไว้วางใจจากเชฟเซอิจิมาอย่างยาวนาน ซึ่งวัตถุดิบที่ส่งมาถึงร้านจะผ่านการเตรียมและบ่ม (Aging) โดยเชฟเซอิจิ ไม่ว่าจะเป็น ‘ข้าวญี่ปุ่น’ หลากหลายสายพันธุ์ที่นำมาผสมกันให้ได้รสชาติและความชื้นที่พอเหมาะ พร้อมด้วยการใช้น้ำส้มสายชูหมักถึง 3 ชนิดผสมเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือน้ำส้มสายชูแดงที่หมักจากสาเกชนิดพรีเมียม ให้รสหวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับนำมาทำข้าวซูชิ ตามมาด้วย ‘เทคนิคการบ่มปลา’ ที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อประกอบกับข้าวที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำให้ซูชิของทางร้านนั้นมีรสชาติที่ลงตัว
สำหรับเมนูคาว-หวานที่ทางร้านเสิร์ฟความอร่อยภายในคอร์ส เริ่มต้นที่ Chutoro เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องที่มีไขมันแทรกอยู่ตามเนื้อ มีรสหวานและความนุ่มของไขมัน เสิร์ฟมาพร้อมกับสาหร่ายจากจังหวัดซากะ
ตามมาด้วย Uni Soup ซุปอูนิ (ไข่หอยเม่น) โดยมีความโดดเด่นของตัวซุปอยู่ที่การเลือกใช้น้ำสต๊อกสาหร่ายคอมบุและเนื้อสาหร่ายที่เข้ากันได้ดีกับบาฟุนอูนิซึ่งปรุงรสด้วยเกลือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว
คำถัดมาคือ Sanma ปลาซันมะ ซึ่งหาทานได้เฉพาะช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน เป็นปลาตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วง
Kawahagi ปลารสเลิศประจำฤดูหนาวที่เชฟนิยมนำมาทำเป็นซาชิมิหรือซูชิ โดยจะนิยมเสิร์ฟมาคู่กับตับปลาเพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นมากขึ้น
Nodoguro โนโดะคุโระ ปลาคอดำ หรือปลากะพงสีชมพู ปลาน้ำลึกที่มีไขมันดี ความอร่อยถูกจัดว่าเป็นราชาปลาเนื้อขาวของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ซูชิอีกหนึ่งคำที่ท็อปด้วยเนื้อปลาคือ Kinmedai คินเมไดหรือปลากะพงแดงที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อสัมผัสที่มีความนุ่มเด้ง เนื้อแน่นและชุ่มไปด้วยไขมัน
เอาใจคนชอบทานกุ้งด้วย Botan Ebi กุ้งโบตันสดหวานที่มีไข่กุ้งสีเขียวตามธรรมชาติ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันกุ้ง ไข่กุ้ง และท็อปด้วยอูนิ
ก่อนจะเพิ่มความอูมามิอย่างต่อเนื่องด้วย Ankimo ตับปลาอังโกะที่นำไปปรุงให้สุกด้วยซอสที่มีรสชาติหวานและเผ็ดเล็กน้อย เสิร์ฟมาพร้อมกับแตงโมดอง
ส่วนคำต่อมาคือ Akagai หอยแครงญี่ปุ่นที่เนื้อสัมผัสมีความกรุบและให้รสชาติหวานกลมกล่อมเป็นพิเศษตามช่วงฤดูกาล
ความอร่อยจากทะเลยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเมนูถัดมาคือ Yakisushi ข้าวซูชิผสมกับปูขนและอูนิ แล้วนำไปอบแห้งทำให้มีรสชาติที่เข้มข้น โดยด้านล่างจะเป็นเปลือกสนญี่ปุ่นที่นำไปอบเพื่อเพิ่มความหอม ท็อปด้วยชิราโกะ (สเปิร์มปลา) และทาจิอุโอะ (ปลาดาบญี่ปุ่น) และไข่ปลาคาราสุมิ (ไข่ปลากระบอก)
ท้าชิงความอร่อยด้วย Maze Gohan ข้าวซูชิผสมกับอูนิ สาหร่าย และซูจิโกะ (ไข่ปลาแซลมอน) โดยด้านบนท็อปด้วยปลาคินเมไดและปลาโนโดะคุโระอบซอส
เพิ่มรสชาติครีมมี่ ๆ กันต่อกับ Awabi ข้าวซูชิท็อปด้วยหอยเป๋าฮื้อ โดยที่มีซอสด้านล่างทำจากตับหอยเป๋าฮื้อเพิ่มความเข้มข้นลงตัว
ใครที่ยังไม่อิ่มหนำกับเมนูปู ต้องลองทาน Snow Crab ปูเซโกะคานิหรือปูหิมะเพศเมียที่มีขนาดตัวเล็ก โดยนิยมเสิร์ฟในฤดูหนาวเพราะเป็นฤดูที่ปูมีไข่เยอะที่สุด ให้รสชาติพิเศษเฉพาะตัว มีให้ได้ลิ้มลองเพียง 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น
ตามด้วยซาชิมิอีกหนึ่งคำอร่อยน่าลองที่ขอยกให้กับ Katsuo ปลาคัตสึโอะที่มีการเบิร์นหนัง เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของปลา ก่อนจะนำไปหมักด้วยซอสสูตรพิเศษ พร้อมตกแต่งจานด้วยก้างของปลาโอให้มีความสวยงามน่าทาน
ตัดรสชาติระหว่างคอร์สกันสักเล็กน้อยด้วย Pickle ซึ่งภายในจานมีการเสิร์ฟไชเท้าดองรมควัน, หัวไชเท้าดอง และรากไม้ญี่ปุ่นที่มีทั้งความหอมและรสหวานอมเปรี้ยว ดับคาว และตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
เบรกความหนักท้องด้วยการซดน้ำซุปอีกหนึ่งถ้วยด้วยเมนู Sushi Soup ซุปซูชิที่มีข้าวห่อสาหร่ายเนื้อปลาคินเมไดอยู่ภายในถ้วย พร้อมโรยหน้าด้วยข้าวพองหลากสี
ก่อนจะส่งท้ายความอร่อยสุดเซอร์ไพรส์ด้วย Maki ข้าวห่อสาหร่ายที่เสิร์ฟมาพร้อมกับวัตถุดิบพรีเมียมแบบเน้น ๆ ทั้งไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน เนื้อปลาทูน่าส่วนท้อง กุ้งชิมะเอบิ และไข่กุ้งถึง 2 ชนิด คือโบตันเอบิและชิมะเอบิ ที่อัดแน่นความอร่อยมาแบบเต็มคำ
ปิดท้ายคอร์สกันด้วยเมนูของหวานอย่าง Dessert พุดดิ้งมะพร้าวที่ราดด้วยซอสชาเขียว และท็อปด้วยเกาลัดเชื่อม
เรียกได้ว่าเป็น 15 คอร์สเมนูที่ร้อยเรียงหลากหลายวัตถุดิบพรีเมียมจากท้องทะเล ผ่านรสมือ เชฟเซอิจิ ซูโด ผู้รังสรรค์ความอร่อยคอร์สโอมากาเสะของร้าน Sushi Saryu ในครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Must Read!
- การรับประทานอาหารคอร์สโอมากาเสะ แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้า เพราะทางร้านจะเปิดให้บริการเพียงวันละรอบ รอบละ 6 ที่นั่ง เท่านั้น!