A Time for T Break
ได้เวลาชวนเพื่อนสาวเหล่าฟู้ดดี้สาย Afternoon Tea Lover ไปสัมผัสประสบการณ์จิบชายามบ่ายในบรรยากาศสุดผ่อนคลายกันที่ T Break ทีรูมบรรยากาศดี ซึ่งตั้งอยู่ภายใน Baan Turtle สเปซที่รวบรวมหลากหลายร้านอาหารหลากสไตล์จากเชฟมากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น Keller by Chef Micro Keller ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสไตล์ยุโรป, Man Tables by Chef Man ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสัญชาติจีนจากเชฟแมน และ Lanyai Nusara ร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งสัญชาติไทยจากเชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร
สำหรับครั้งนี้เป็นการเสิร์ฟชุด Afternoon Tea ตามแบบสไตล์ตะวันตก รังสรรค์ความอร่อยนำทีมโดยเชฟ Mirco Keller แห่งร้านอาหาร Keller จัดเต็มทั้งความน่ารักและน่าทาน ด้วยสารพัดเมนูคาว-หวาน ที่ดีไซน์รูปลักษณ์เป็นสัตว์มงคล เช่น กระต่าย และเต่า ได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แถมยังโดดเด่นด้วยพรีเซนเทชันสุดอลังการ เสิร์ฟพร้อม Tea Selection ที่มีให้เลือกสรรทั้งชาเขียว ชาดำสุดคลาสสิก ชาเอิร์ลเกรย์ และชาผลไม้-ดอกไม้ ซึ่งเข้ากันกับเซ็ตของว่างและของหวานได้อย่างลงตัว
Beautiful Serene Space
ภายในโซน Afternoon Tea มีลักษณะเป็นห้องโถง โปร่งโล่งสบายตาด้วยเพดานสูง พร้อมเพิ่มความร่มรื่นสบายตาด้วยต้นไม้ประดับตามมุมต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกไพรเวทเหมือนมานั่งเล่น จิบชาชิล ๆ ที่บ้านเพื่อน ด้วยจำนวนโต๊ะที่มีเพียง 5 โต๊ะเท่านั้น แต่ละโต๊ะถูกตกแต่งด้วยโซฟาผ้าเนื้อสัมผัสนุ่ม เพิ่มความสดใสด้วยด้วยหมอนอิงและไม้ประดับ ให้ลุคเฟมินีนน่าประทับใจ ประกอบกับกระจกใสบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ เพิ่มมู้ดอบอุ่นและนุ่มนวล ถูกใจสายถ่ายภาพแน่นอน!
Western Afternoon Tea by Chef Mirco Keller
การเสิร์ฟเซ็ต Western Afternoon Tea (1,199++ บาท ต่อ 1 ท่าน) ในครั้งนี้ เป็นการเสิร์ฟชุดน้ำชายามบ่ายในสไตล์ตะวันตก ประกอบไปด้วยหลากหลายเมนูของว่าง ขนมหวาน ที่สร้างสรรค์อย่างประณีตโดยเชฟ Mirco Keller เสิร์ฟคู่กับ Tea Selection ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด แนะนำเป็น Classic Darjeeling ชาดำที่เบลนด์รสชาติเข้ากับ Autumnal Tea หลากหลายสายพันธุ์จากไร่ชาที่ดีที่สุด เป็นชาใสที่ให้กลิ่นหอมอโรมา ดื่มแล้วผ่อนคลาย หรือจะเป็น Yellow & Blue ชาดอกไม้ที่ปราศจากคาเฟอีน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดื่มชา โดยเป็นการเบลนด์ส่วนผสมระหว่างชาคาโมมายล์ ลาเวนเดอร์ และคอร์นฟลาเวอร์ ที่ล้วนดื่มง่าย ให้ความรื่นรมย์ผ่อนคลายเป็นอย่างดี
ในส่วนของเมนูอาหาร เริ่มต้นกันที่เซ็ตของว่างอาหารคาว ได้แก่ Shokupan, Egg Cream, Chives, Oscietra Caviar โชกุปังนุ่ม ๆ ที่ท็อปด้วย Egg Cream สีเหลืองนวล พร้อมเพิ่มความพรีเมียมด้วย Oscietra Caviar เติมรสชาติด้วยเลมอน และประดับตกแต่งด้วยดอก Chives สวยงามน่ารับประทาน
ตามด้วย Toast “Hawaii” Ham and Cheese Sandwich, Pineapple, Cherry Hawaii Toast ที่ด้านในประกอบไปด้วยแฮม ชีส และสับปะรด ท็อปด้วยแยมเชอร์รีที่มาช่วยตัดรสเลี่ยน
ถัดมาที่ Potato Bread, Scottish Salmon, Honey-Mustard Dressing หนึ่งในเมนูไฮไลต์ที่เชฟเลือกใช้ขนมปังมันฝรั่งเนื้อนุ่ม ให้รสหวานนิด ๆ เข้ากันดีกับหลากหลายวัตถุดิบและส่วนผสมที่ท็อปมาบนขนมปัง ไม่ว่าจะเป็นเดรสซิ่งฮันนี่มัสตาร์ดรสหวานอมเปรี้ยวที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อแซลมอนวัตถุดิบเอกของเมนูนี้ได้อย่างลงตัว
แท็กทีมความอร่อยมากับ Fish Mousses, Hamachi, Trout Roe, Lemon Vinaigrette Scones Fish Mousses ที่ด้านในมีส่วนผสมของปลาฮามาจิ, ไข่ปลาเทราต์ และเดรสซิ่งเลมอน รับประทานแล้วสดชื่น จากนั้นเอาใจคนรักความกรุบกรอบด้วยเมนู Cracker, Smoked Eel, Foie Gras Terrine, Orange, Beetroot แครกเกอร์ที่มีส่วนผสมของฟัวกราส์ ปลาไหลรมควัน ก่อนจะท็อปความอร่อยด้วยส้ม บีทรูท และตกแต่งด้วยดอกไม้รับประทานได้ และ Beef Tartare, Charcoal Eggplant, Red Bell Pepper, Capers ทาร์ต Beef Tartar ที่สอดไส้เนื้อทาร์ทาร์อยู่ด้านในทาร์ต พร้อมด้วยส่วนผสมของ Charcoal Eggplant แล้วตกแต่งด้านบนด้วยลูกเคเปอร์
นอกจากนี้ ภายในเซ็ตยังพร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วย Raisin Scone Served with Clotted Cream & Seasonal Jams เมนูสโคนรสออริจินัล (Original Scone) ที่เคียงคู่มากับ Clotted Cream และแยมตระกูลเชอร์รี (ซึ่งทางร้านเลือกเสิร์ฟเป็น Tomato Jam) มาเสริมทัพให้มื้อของว่างยามบ่ายนี้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
หลังจากรับประทานเซ็ตของว่างอาหารคาวกันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อเนื่องความอร่อยกันด้วยเซ็ตขนมหวาน โดยใช้สัญลักษณ์ของสัตว์มงคลมาดีไซน์เป็นตัวขนม พรีเซนต์ออกได้อย่างน่ารักและมีกิมมิกในแบบฉบับของ T Break ประกอบด้วย Rabbit ขนมหวานรูปทรงกระต่ายน้อย ซึ่งตัวกระต่ายจะมีส่วนผสมของครีมกับ Elderflower ดอกไม้ที่รับประทานได้ มีกลิ่นหอมละมุน ช่วงท้องจะเป็นแยมสตรอเบอร์รีที่มีเนื้อสัมผัสของผลสตรอเบอร์รีสดแบบเข้มข้น ส่วนบริเวณฐานด้านล่างนั้นจะเป็นทาร์ต ที่ให้เนื้อสัมผัสของ Lemon Madeleine หรือขนมไข่ของฝรั่งเศส
ตามมาด้วยอีกหนึ่งตัวละครเอกอย่าง Tortoise เจ้าเต่าน้อย ซึ่งผิวด้านนอกจะเป็น Speculoos Cream หรือคุกกี้รสเครื่องเทศที่ผสมเข้ากับครีม สอดไส้ช็อกโกแลตกานาชและแครกเกอร์ดาร์กช็อกโกแลต แล้วพ่นเคลือบด้วยสีเขียวสังเคราะห์จากธรรมชาติที่สามารถรับประทานได้
ถัดมาที่น้องเห็ด หนึ่งในพร็อพความอร่อยสุดน่ารักที่ใช้ชื่อเมนูว่า Lemon Meringue Mushroom เมอแรงก์รูปทรงเห็ด โดยด้านล่างเป็นตัวทาร์ต สอดไส้คัสตาร์ดเลมอน ร่วมด้วยน้องเกาลัดกับเมนู Chestnut ผิวด้านนอกจะเป็นการนำเอาเกาลัดมาผสมกับครีม เคลือบด้วยช็อกโกแลตเพื่อตกแต่งให้ดูสมจริง ส่วนไส้ด้านในขนมจะมีส่วนผสมของเกาลัดหั่นเต๋าแบบเน้น ๆ
ปิดท้ายด้วย Matcha Yomogi Bush ไอศกรีมชาเขียว ท็อปด้วยโมจิ พร้อมโรยหน้าด้วยครัมเบิ้ลชาเขียวเพื่อเพิ่มความเข้มข้นแบบเต็มคำ เป็นการจบคอร์ส Western Afternoon Tea ได้อย่างน่าประทับใจ
Must Read!
- การให้บริการของ T Break ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสประสบการณ์จิบชายามบ่าย ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน