In The Mood For TAMP
TAMP kāfēi & bar คาเฟ่สุดเก๋สไตล์จีนร่วมสมัยเปิดใหม่ในซอยสุขุมวิท 31 พร้อมเสิร์ฟ Specialty Coffee, ม็อกเทลและค็อกเทลสูตรพิเศษ และเมนูอาหารทานง่าย ให้ได้แวะเวียนกันมานั่งชิลล์ท่ามกลางความคลาสสิกแบบยุค 60’s และสัมผัสความเงียบสงบผ่อนคลายที่แอบซ่อนอยู่กลางเมืองวุ่นวายได้ง่าย ๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
Modern Chinese with 60’s Twist
ตัวร้านอยู่บริเวณหน้าอาคาร Avora 31 Residence โดยทางร้านได้นำคอนเซ็ปต์ "Modern Chinese with 60’s Twist” มาเป็นหัวใจหลัก และผสมผสานกับมู้ดโทนจากหนังชื่อดัง In the mood for love ของผู้กำกับ Wong Kar-Wai ที่มีเอกลักษณ์เป็นแสงไฟนีออนสลัว ๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านแห่งนี้ ถ่ายทอดผ่านรายละเอียดการตกแต่งต่าง ๆ ตั้งแต่ บานประตู หน้าต่าง กระเบื้อง ลวดลายประตู และผนังที่ประดับด้วยประโยคสุดฮิตจากหนังดัง รวมถึงบริเวณบาร์เครื่องดื่มที่ประดับด้วยไพ่นกกระจอก ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี
Chinese Comfort Food with Modern Twist
เมนูต่าง ๆ ของทางร้านอิงมาจากความทรงจำในวันวานของ คุณบูม - เจ้าของร้าน ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ตั้งใจหยิบยกหลากหลายเมนูสุดพิเศษที่ปัจจุบันอาจมีให้เห็นไม่มากนัก โดยเฉพาะเมนูที่มีเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญหรืออาหารสูตรเด็ดของครอบครัวมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง นำเสนอรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยในรูปแบบสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นกันที่ Old-Fashioned (120 บาท) กาแฟโบราณที่ชวนให้ทุกคนคิดถึงโกปี๊ร้อน ๆ ยามเช้าที่สภากาแฟ แต่ทางร้านปรับเปลี่ยนมาใช้ชาสูตรเฉพาะของทางร้าน และ TAMP BLEND เมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษจากโรงคั่ว TAMP LAB ซึ่งเลือกใช้เมล็ดกาแฟจากบราซิลและลาวแบบคั่วกลาง - เข้ม ทำให้ได้รสของกาแฟที่ชัดเจน สามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็นชวนให้คิดถึงวันเก่า ๆ หรือใครอยากจะดื่มเป็น Cappuccino (ร้อน 120 บาท) ชิลล์ ๆ ตอนเช้าก็สดชื่นไม่แพ้กัน
ถัดมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่หยิบวัตถุดิบที่หลายคนคุ้นเคยมานำเสนอในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Frozen Black Tan (140 บาท) น้ำลำไยแช่แข็งไสจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งหวานหอม ผสมผสานกับน้ำสมุนไพรหล่อฮังก้วยต้มสไตล์โบราณ หรือจะลองเป็น Longan Shaved Iced with Sweet Barley and Ginkgo Nut (140 บาท) น้ำลำไยและเนื้อลำไยแช่แข็งไสจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยแปะก๊วยเชื่อมและลูกเดือย ให้ดื่มเพลิน ๆ ดับร้อนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมี Iced LGBTea (140 บาท) ชาข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านการคั่วจนได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวให้ความหอมละมุนก่อนจะเติมความสดชื่นด้วยน้ำขิงต้มสดผสมน้ำมะนาว หรือใครที่กำลังมองหาเมนูดับกระหายอีกสักแก้ว ลองเป็น G-H-L-Fizz (140 บาท) น้ำขิงผสมโซดาที่เติมความหอมละมุนด้วยเลมอนสดและน้ำผึ้ง ให้รสชาติกลมกล่อมโดดเด่นด้วยน้ำขิงที่เป็นพระเอกของแก้วนี้
หลังจากดื่มเครื่องดื่มเรียกความสดชื่นกันแล้ว มาลิ้มลองเมนูแนะนำอย่าง Traditional Chinese Chive Cake (95 บาท) หรือ 'อั่งถ่อก้วย' ขนมโบราณสีแดงลักษณะคล้ายกุยช่าย เป็นหนึ่งในของว่างที่ชาวจีนทำขึ้นเฉพาะช่วงพิธีสำคัญเพื่อเสริมความสิริมงคล ทำจากแป้งข้าวสอดไส้ต่าง ๆ ซึ่งคำว่า 'อั่ง' หมายถึง สีแดง, 'ถ่อ' หมายถึง ลูกท้อ (ผลไม้จากสวรรค์ที่ชาวจีนเชื่อว่ามีฤทธิ์เพิ่มอายุวัฒนะ) และ 'ก้วย' หมายถึง แป้งข้าว วัตถุดิบหลักในการทำขนมของคนจีน
หรือจะลองเป็น Homemade Shrimp Balls (75 บาท) ลูกชิ้นกุ้งสูตรลับของอาม่า ที่ทำจากเนื้อกุ้งแท้ ๆ ให้ความหนึบหนับ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ รวมไปถึงอาหารเช้าอย่าง Pan Fried Eggs with Toppings (120 บาท) ไข่กระทะท็อปปิ้งเน้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาวเสิร์ฟในกระทะร้อน ๆ หมูสับ กุนเชียงและหมูยอ ส่วนใครที่อยากสั่งมื้อหนัก สามารถสั่งอาหารจาก ครัวบรรเลง 33 ร้านอาหารไทยที่อยู่ข้าง ๆ มาทานที่ร้านได้เช่นกัน
Drinks After Six
ที่ TAMP kāfēi & bar นอกจากจะตั้งใจคัดสรร Specialty Coffee และอาหารว่างมากมายให้ได้ลิ้มลองในรูปแบบของคาเฟ่แล้ว ทางร้านยังพร้อมนำเสนออีกมุมของคลาสสิกบาร์ด้วยหลากหลายเมนูค็อกเทล ที่ครีเอตมาจากคอนเซ็ปต์เดียวกันกับร้าน อาทิ Chungking Express (280 บาท) ค็อกเทลดื่มง่ายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Chungking Express ที่ดำเนินด้วยเรื่องราวของชายหนุ่ม หญิงสาว และสับปะรดกระป๋อง ทำให้แก้วนี้มีเบสเป็นสับปะรดผสานกับเหล้ารัม มะนาวและแอปริคอตบรั่นดี
หรือจะลองเป็นเครื่องดื่มแซ่บ ๆ อย่าง Spiced Longan Sour (280 บาท) ที่โดดเด่นด้วยรสชาติของขิงและลำไย ผสมผสานกับเบอร์เบิ้นชั้นดี ได้ความซาบซ่าจากโซดา ท็อปด้านบนด้วยลำไย ก่อนจะปิดท้ายด้วย MakhaRita (280 บาท) เมนูที่คุ้นเคยให้ความหวานหอมจากเตกีลาและมะขามผสานกับความสดชื่นจากมะนาว เลมอนและความเผ็ดร้อนจากพริกเกลือที่ขอบแก้ว แนะนำให้ยกดื่มพร้อมกันจะได้รสชาติที่กลมกล่อม