The New Good Vibes Bar in Ari
ชวนคุณไปเช็กอินที่ Tempo Bar Ari บาร์น้องใหม่ไวบ์ดีในย่านอารีย์ที่จะพาคุณไปอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารสไตล์ Home Cooked เคล้าคลอบรรยากาศสบาย ๆ ให้ได้ทานคู่กันกับเครื่องดื่มแก้วโปรด พร้อมสนุกได้ตลอดค่ำคืนกับ Social Club แห่งใหม่ที่เปิดโอกาสให้คุณได้รวมตัวกับกลุ่มเพื่อนได้ในทุก ๆ วัน ออกแบบไวบ์แห่งความสนุกในทุกมิติของที่นี่โดยทีม Oh Vacoda!
Homey Vibes
ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนในซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ตกแต่งสบาย ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋ ประดับประดาด้วยผลงานศิลปะอยู่ตามมุมต่าง ๆ ที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นบาร์ แต่นิยามตัวเองว่าเป็น House of Tempo ด้วยโครงสร้างของอาคารที่มี 3 ชั้น ทำให้แบ่งชั้นต่าง ๆ ออกเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจได้อีกโดยที่ชั้น 1 เปิดเป็น Tempo Bar Ari ส่วนชั้น 3 เปิดเป็น KICH Ari Space หรือ KICH Gallery สาขาใหม่จากเพลินจิตมาเป็นครอบครัวเดียวกัน
Home Cooked Menu
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านเน้นเสิร์ฟความอร่อยในสไตล์ Home Cooked เน้นครีเอตเมนูทานง่ายจากวัตถุดิบที่ดีโดยสูตรของร้านเอง ซึ่งถ้าใครเป็นสายเนื้อ บอกเลยว่าพิเศษสุด ๆ ที่ร้านได้ ‘เชฟเจมส์ พงศกร บุญรักษา’ จาก Top Chef Thailand Season 3 มาช่วยดูแลให้ เริ่มต้นกันที่ไฮไลต์ของคนรักเนื้ออย่าง Surin Thai-Wagyu Striploin Steak with Onion Rings (888 บาท) เนื้อไทยวากิวจากจังหวัดสุรินทร์นำไปกริลล์จนสุกกำลังดี เสิร์ฟมาบนหัวหอมทอดและซอสสูตรพิเศษของร้านให้ได้ทานคู่กัน
หรือจะลองเป็น Thai-Wagyu Fat Fried Rice (228 บาท) เมนูข้าวร้อน ๆ ผัดมันเนื้อและเนื้อสับสูตรลับเฉพาะจากเชฟเจมส์ เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อสับทอดและมันเนื้อทอดกรุบกรอบเป็นท็อปปิ้งให้ได้ทานคู่กัน
ต่อกันด้วยเมนูอิ่ม ๆ อย่าง Deep-Fried Pork Tomahawk (588 บาท) สเต๊กเนื้อหมูโทมาฮอว์คเนื้อนุ่มนำไปชุบแป้งทอดกรอบ เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมให้ทานคู่กันกับซอสทาทาร์และซอสแจ่วมาโยสูตรเฉพาะของร้าน
ส่วนใครที่มองหาเมนูทานเล่น แนะนำให้ลองเป็น Fried Kaki (258 บาท) หอยนางรมชุบแป้งทอด เสิร์ฟร้อน ๆ มาพร้อมกับเลมอนและซอสสูตรพิเศษของทางร้าน หรือ Japanese Cucumber (98 บาท) แตงกวาญี่ปุ่นคลุกเคล้าน้ำมันงาและงาบด ทานคู่กับทุกเมนูได้แบบเพลิน ๆ
ในส่วนของบาร์เครื่องดื่มทางร้านก็จัดเต็มไม่แพ้กัน แนะนำให้ลองเป็น Smoke Apple Highball (200 บาท) เครื่องดื่มที่ทางร้านใช้เบสเป็นวิสกี้รสแอปเป้ิลผสานกับโซดาและไฮบอลก่อนจะกรานิชด้วยแอปเปิ้ลเขียว ท็อปด้วยแอปเปิ้ลเขียวสดด้านบน แก้วที่ดื่มได้เพลิน ๆ
ต่อกันด้วยแก้วซิกเนเจอร์น่าลองอย่าง Tempo So Hot (400 บาท) เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่มีเบสเป็น Gin Pink ผสานความเผ็ดร้อนของพริกทาบัสโก้ และความสดชื่นจากโซดา
ปิดท้ายกันด้วย Matcha Aperitif (380 บาท) แก้วที่รสชาติไลท์ ๆ ดื่มง่ายแต่ได้ความเข้มข้นจัดเต็มจาก White Wine และ Lillet ก่อนจะท็อปด้วยมัทฉะรสเข้มที่ตีกับจิน ดื่มได้เพลิน ๆ