One of the Best Premium Omakase in Bangkok
ชวนมาสัมผัสความพรีเมียมของคอร์สโอมากาเสะสุดพิเศษท่ามกลางบรรยากาศสุด Exclusive ที่ Tenko Omakase ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ของโรงแรม Pullman Bangkok King Power รังสรรค์ความอร่อยโดยเชฟ ‘โกจิ โคบายาชิ’ ผู้ออกเดินทางเรียนรู้วัฒนธรรมการทำอาหารที่อเมริกาและญี่ปุ่น จนสั่งสมประสบการณ์ในด้านอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว เมืองซานฟรานซิสโก ก่อนจะย้ายมาประจำการที่ Tenko Omakase พร้อมเสิร์ฟความอร่อยตามแบบฉบับญี่ปุ่น
Story of Tenko
Tenko ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ‘จิ้งจอกสวรรค์’ ซึ่งหลังจากที่จิ้งจอกมีอายุครบ 1,000 ปี จะกลายเป็นจิ้งจอกสีทองที่มีเก้าหาง เรียกว่า ‘Tenko’ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับเชฟของทางร้านที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านทักษะการทำอาหารและศิลปะมาเป็นเวลายาวนานจนกลายเป็น Ichinin Mae ที่หมายถึงพ่อครัวอิสระในภาษาญี่ปุ่น
Feel Like Japanese
อีกหนึ่งความพิเศษของ Tenko Omakase อยู่ที่บรรยากาศร้านแบบเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่กลางสวนของโรงแรมแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนสู่ความเงียบสงบเรียบง่ายสไตล์เซน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นหินและไม้ที่สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของการแต่งร้านที่เต็มไปด้วยเฉดสีไม้ สีครีมและสีเทาแบบนุ่มนวล พร้อมด้วยบริเวณมุมเคาน์เตอร์ไม้รอบครัวแบบเปิด ที่คุณจะได้เห็นรอยยิ้มของเชฟ พร้อมคอยส่งมอบความอร่อยผ่านการรังสรรค์เมนูแต่ละคำด้วยความตั้งใจ
Finest Ingredients Flown Fresh from Japan
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการทานอาหารสไตล์โอมากาเสะ คือคุณภาพของวัตถุดิบที่สะท้อนให้เห็นถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละ Seasonal ของทางประเทศญี่ปุ่น Tenko Omakase จึงเลือกใช้วัตถุดิบจากตลาดปลาโทโยสุ ที่พิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบสดใหม่อันเต็มไปด้วยคุณภาพ ซึ่งหาทานได้ยากและไม่ซ้ำกัน เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาทานได้ลิ้มรสชาติแบบคำต่อคำ
สัมผัสความอร่อยแบบพรีเมียมไปกับ Premium Omakase (7,000 บาท) จัดเต็มความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูที่มีมาให้ทานถึง 16 เมนู เริ่มที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Junsai Somen with Ikura เมนูยอดนิยมประจำฤดูกาลนี้ มีความพิเศษอยู่ที่ส่วนผสมของ ‘จุนไซ’ พืชตระกูลเดียวกับดอกบัว ที่ต้นอ่อนจะถูกปกคลุมด้วยวุ้นที่สร้างขึ้นตามธรรมชาติ เสิร์ฟให้ทานคู่กับเส้นโซเมน ท็อปด้านบนด้วยไข่ปลาแซลมอนจากฮอกไกโด ให้รสกลมกล่อม หอมกรุ่นเป็นอย่างดี
ถัดมาที่ Ika Sashimi with Uni and Tamago Sauce ปลาหมึกสดที่เชฟเสิร์ฟมาในรูปแบบ Sashimi ท็อปด้านบนด้วยอูนิจากฮอกไกโด ก่อนจะราดด้วย Tamago Sauce ซอสไข่หวานสูตรเฉพาะของทางเชฟ ให้รสกลมกล่อม หอมมันแบบพอดี ต่อกันที่ Ikageso Tempura with Ume หนวดปลาหมึกพันด้วยใบโอบะชุบแป้งทอด เสริมความหอมอร่อยด้วยบ๊วย ให้รสกลมกล่อม ผสมผสานรสเปรี้ยวนิด ๆ ที่ลงตัว
ต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ประจำ Seasonal นี้ อย่าง Kamasu Nitsuke with Kabu and Matsutake Mushroom ปลากระบอกหางเหลืองญี่ปุ่น เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับหัวผักกาดคาบู และเห็ด Matsutake ที่ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น นำมาต้มแล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊ว ให้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตามมาด้วยเมนูในหมวดซูชิอย่าง Ebodai Sushi หนึ่งในปลาเนื้อนุ่มสีขาว ให้รสมันนิด ๆ ท็อปด้วยสาหร่ายคอมบุสีขาวใส เสริมความอร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งคำที่อร่อยไม่แพ้กัน ขอยกให้กับ Nodoguro Sushi ปลากะพงสีชมพู หรือปลาคอดำ ให้สัมผัสเนื้อนุ่มละมุนแบบเต็มคำ แถมยังปิดท้ายด้วยรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ของมะนาวญี่ปุ่นที่ท็อปมาด้านบนให้ทานคู่กัน
ตามมาด้วยเมนูสุดประทับใจอย่าง Tachiuo Yuan Yaki with Ossetra Caviar ปลาดาบเงินญี่ปุ่น ย่างมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับไข่ปลากระบอก หรือ ‘โบระ’ ก่อนจะท็อปด้วยยูซุซอสและ Ossetra Caviar ให้รสชาติกลมกล่อม พร้อมรสชาติหวานของเนื้อปลาแบบเต็มคำ ต่อด้วย Kegani Risotto ปูขนจากฮอกไกโด มีความพิเศษอยู่ที่กรรมวิธีการทำที่นำข้าวไปคลุกกับมันปู เสิร์ฟพร้อมเนื้อปู Kegani และไข่ปลาแซลมอน ให้รสสัมผัสหอมมัน อร่อยลงตัว
อีกหนึ่งไฮไลต์ของคอร์สนี้ขอยกให้กับ Botan Ebi Zuke Maguro Temaki with Uni กุ้งหวานญี่ปุ่น ผสานความหอมกรุ่นและรสชาติกลมกล่อมด้วยปลาทูน่าเนื้อแดงหมักซอส ท็อปด้านบนด้วยอูนิ ห่อด้วยสาหร่าย ที่จะสัมผัสได้ทั้งความหอมและความกรอบไปพร้อม ๆ กัน จากนั้นมาต่อกันที่ Awabi Sakamushi with Liver Sauce หอยเป๋าฮื้อจากฮอกไกโด ราดด้วยซอสตับสูตรเฉพาะของทางเชฟ ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม พร้อมเนื้อสัมผัสของหอยเป๋าฮื้อเหนียวนุ่มที่พอดี
อีกหนึ่งเมนูแนะนำ ต้องลอง Bafun Uni Sushi ไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติใด ๆ ท็อปมาบนข้าวญี่ปุ่นแล้วห่อด้วยสาหร่าย ให้รสเข้มข้น กลมกล่อม พร้อมเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนแบบเต็มคำ
ตามมาด้วย Toro Sushi ส่วนท้องของปลาทูน่า ที่ได้รับการยกย่องว่าอร่อยที่สุดในบรรดาเนื้อปลา พิเศษด้วยกรรมวิธีการทำที่ทางเชฟนำมาเบิร์นด้วยเตาถ่าน ให้สัมผัสถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน ๆ
อีกหนึ่งเมนูที่อร่อยไม่แพ้กัน แนะนำ Anago Sushi ปลาไหลทะเลจากนางาซากิ ที่ทางเชฟนำมาเบิร์นจนได้กลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมซอสโชยุสูตรพิเศษของทางร้าน จากนั้นตัดรสชาติระหว่างการเสิร์ฟคอร์สโอมากาเสะด้วยเมนูซุปร้อน ๆ ให้ซดคล่องคอกับเมนู Akadashi Soup ซุปมิโสะที่เสิร์ฟมาพร้อมปลาเนื้อขาว พร้อมเพิ่มความหอมหวานด้วยต้นหอมญี่ปุ่น
ปิดท้ายคอร์สสุดพิเศษด้วยเมนูของหวานน่าลิ้มลองอย่าง Tamago Yaki ไข่หวานญี่ปุ่นเนื้อนุ่มเบา และ Matcha Crepe Cake with Melon เครปเค้กมัทฉะ เสิร์ฟมาพร้อมมัทฉะมูสรสเข้มข้น ทานคู่กับเมลอน ได้ความหอมหวานละมุน ปิดท้ายคอร์สนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
