Hidden Bar in Soi Nana
สัมผัสความเป็นไทยที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน เทพบาร์ บาร์ลับเล็ก ๆ ใจกลางซอยนานา-เยาวราช แห่งย่านเจริญกรุง ยากที่จะมีใครเหมือน สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมานักต่อนัก ด้วยการนำเอาความสามารถและวัฒนธรรมของคนไทยในอดีต สิ่งที่ควรนำมาสืบทอดต่อและเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่รวมถึงชาวต่างชาติได้เข้าใจและซึมซับวัฒนธรรมของไทยมากขึ้น
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเทพบาร์ คือการได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบาร์ที่ร่วมแคมเปญ Mekhong Thai Spirit Cocktails 2018 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดค็อกเทลสัญชาติไทยที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นและสุราไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 8 ทศวรรษอย่าง Mekhong อีกด้วย
Thai-style Cultural Bar
หากจะเท้าความถึงความเป็นมาของบาร์แห่งนี้ หลังจากที่ คุณแอนท์-อัศวิน โรจน์เมธาทวี เจ้าของร้านได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์หลายปี ก็รู้สึกคิดถึงความเป็นไทย จึงตั้งใจถ่ายทอดความเป็นไทยให้ทุกคนรับรู้ผ่านบาร์คอนเซ็ปต์ยุคทองของไทย ที่ออกแบบมาให้เป็นในลักษณะของ Cultural Bar ซึ่งไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สัมผัสได้ถึงความเป็นไทยอันเป็นเอกลักษณ์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือเครื่องดื่ม เหมือนทรัพย์ในดิน สินในน้ำที่หาได้ทุกที่
คุณแอนท์ตั้งใจหาโลเคชั่นที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ไทยจนได้โลเคชั่นสุดลึกลับแถววงเวียน 22 กรกฎาคม ที่มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับการสิ้นสุดของสงครามโลก และยังเลือกตึกเก่าแก่ที่มีอายุร่วมร้อยปีมารีโนเวทใหม่ ให้มีความเป็นไทยตั้งแต่หน้าประตู เมื่อเปิดเข้ามาก็จะพบกับโต๊ะไม้ กลองยาว และบาร์ที่เลือกใช้กระจกสีทองมาตกแต่งแทนกระเบื้องโมเสก บนผนังปูนด้านหลังบาร์ก็มีการทาสีทองและปิดด้วยทองคำเปลว ส่วนบนชั้นสองมีโต๊ะกลมตัวเตี้ยและหมอนอิงแบบไทย ๆ ให้นั่งพิงกันได้สบาย ๆ
นอกจากการตกแต่งแบบไทย ๆ แล้ว ดนตรีไทยก็กลายเป็นส่วนสำคัญของเทพบาร์ ใครที่แวะเข้ามาในวันศุกร์-อาทิตย์จะได้ฟังเพลงไทยหลากหลายวงมาร่วมบรรเลงเพลงแบบโหมโรงให้ฟังกันตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไปอีกด้วย
Mystic Drinks Made in Thailand
และเมื่อพูดถึงบาร์แบบไทย ๆ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือการนำเสนอค็อกเทลไทยที่ส่วนใหญ่ทำมาจากสมุนไพรหลากหลายชนิดที่นำมาดองกับสุราไทย หรือครีเอทมาจากรัมไทยอย่าง Mekhong เป็นหลัก สำหรับเมนูค็อกเทลที่ทางร้านแนะนำ ได้แก่ นวล-Nuan (350 บาท) ที่มาในธีมของข้าว นำเสนอความเป็นไทยผ่านเรื่องราวของข้าว ธัญพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมายาวนาน
มีส่วนผสมของน้ำข้าวขาวดอกมะลิ พันธุ์ 105 พันธุ์พระราชทาน เป็นสายพันธุ์ทีมีกลิ่นหอม เข้ากันได้ดีกับสุราไทย ให้รสสัมผัสนุ่มละมุน มีความหวานนิด ๆ จากน้ำหญ้าหวาน รสเปรี้ยวบาง ๆ จากน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหอมมะลิ และความหอมอร่อยของข้าวเกรียบว่าว ข้าวตังสูตรชาววัง ที่เคลือบบนปากแก้ว ให้ได้สัมผัสรสของข้าวทุกส่วน
Paring with Thai Appetizers
หรือจะลองดื่มจับคู่กับอาหารว่างที่ช่วยตัดรสชาติ เสริมรสชาติให้กับตัวค็อกเทลก็ได้เช่นกัน อย่าง สามแช่ (350 บาท) ค็อกเทลที่เบสด้วย Mekhong พร้อมดองเข้ากับสมุนไพรของดีของไทย 3 ชนิด คือ มะขามป้อม ใบมะกรูด กานพลู เติมความหวานด้วยอินทผาลัม แล้วผสมด้วยโทนิคชั้นดีที่เพิ่มความซ่ากับเครื่องดื่มแก้วนี้
แนะนำให้สั่ง ข้อไก่กระบอก (200 บาท) ข้อไก่ทอดกรุบกรอบที่หมักด้วยเครื่องเทศไทยรสเข้มข้นมาทานแกล้มกัน จะช่วยตัดรสชาติความเข้มขมและกลิ่นดองของสมุนไพรได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่ชอบกลิ่นหอม ๆ ของผลไม้ อีกหนึ่งแก้วไฮไลท์ที่ทางบาร์นำเสนอคือ Mekhong Tanee (350 บาท) ค็อกเทลที่เบสด้วย Mekhong อีกเช่นเดียวกัน หมักกับกล้วยน้ำว้าไซรัป แล้วเพิ่มรสหวานด้วยน้ำผึ้ง เสิร์ฟในแก้วออนเดอะร็อคที่ท็อปด้านบนด้วยกล้วยตากและดอกไม้
ค็อกเทลแก้วนี้แนะนำให้ทานคู่กันกับ ปลาทะเลทอดกรอบ (180 บาท) ปลาทะเลตัวเล็ก ๆ ที่มาแบบเป็นแพ ให้ความกรุบกรอบ มีรสเค็ม ๆ มัน ๆ เสิร์ฟพร้อมซอสพริกศรีราชา จิ้มทานด้วยกันได้รสชาติที่ลงตัว