Published on February 21, 2022

A Thai Whiskey Bar with The Mysterious Black Cat

ชวนเหล่าทาสแมวสายดริงก์แวะมาเช็กอินกันที่ The Black Cat บาร์วิสกี้สุดชิคแห่งใหม่ในย่านหลังสวน ที่หยิบยกคาแร็กเตอร์สุดเท่ของแมวดำมาเป็นกิมมิกของร้าน ผ่านงานศิลปะหลากหลายแขนงที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของร้าน ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและเครื่องดื่มแก้วโปรดตลอดค่ำคืน 

 

The Black Cat

 

ภายในบาร์ถูกประดับตกแต่งด้วยงานศิลปะภาพวาดแมวน่ารัก ๆ มากมาย

Find The Big Cat On The Wall

บาร์ The Black Cat แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ของทาง โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ซึ่งบรรยากาศภายในบาร์จะเน้นตกแต่งด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีดำและขาวเป็นหลัก เพื่อให้รู้สึกถึงความลึกลับน่าค้นหา เฉกเช่นเดียวกับแมวดำที่เต็มไปด้วยปริศนาและตำนานความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชนชาติ โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่บานกระจกขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาให้มองเห็นเป็นลวดลายของแมวตัวใหญ่พาดผ่านกระจก ซึ่งจะปรากฏให้เห็นชัดเจนในยามค่ำคืน 

 

นั่งชิลล์ ๆ กันได้อย่างเป็นส่วนตัว

 

บรรยากาศสุดหรูหราภายในบาร์ ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากถึง 40 ที่นั่ง ท่ามกลางความเป็นส่วนตัว

Serving Signature Concoctions Inspired by The Tales of Cats Around The Globe

เพราะคำว่า The Black Cat ที่นำมาตั้งเป็นชื่อบาร์นั้นมาจาก 'Black Cat' แบรนด์วิสกี้แมวดำยอดนิยมในสมัยก่อน ซึ่งโด่งดังด้วยไวรัลโฆษณาที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างรู้จักกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง ประกอบกับแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนกิจการวิสกี้ไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ภายในบาร์จึงได้รวบรวมวิสกี้ของไทยมาครีเอตเป็นเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์รสเข้ม ที่มีชื่อเรียกตามแมวมงคลไทยและแมวยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี 



เริ่มต้นกันที่เมนู โกนจา (280 บาท) จากแรงบันดาลใจหนึ่งในแมวมงคลของไทยที่ปรากฏชื่อในสมุดข่อยโบราณ มีลักษณะเป็นแมวสีดำล้วน นัยย์ตาสีทอง ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมการงาน อำนาจวาสนา ถูกนำมาครีเอตเป็นคาแร็กเตอร์เครื่องดื่มที่ชัดเจนของบาร์แห่งนี้ โดยเมนูนี้ได้เลือกใช้วิสกี้แม่โขงเป็นเบส ผสานกับความสดชื่นของไซรัปขิง-โคล่าโฮมเมด ท็อปด้วยโซดาซาบซ่า พร้อมตกแต่งด้วยผงทองคำระยิบระยับในแก้วเครื่องดื่มสีเข้ม 


 

โกนจา (280 บาท)

แก้วถัดมาเป็น สีสวาท (280 บาท) แรงบันดาลใจของแก้วนี้คือ 'แมวสีสวาด' แมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่โคราช มีสีขนเหมือนเมล็ดของต้นสวาด โดยคนโบราณเชื่อกันว่าเป็นแมวนำโชคที่จะนำมาซึ่งความสุขและโชคลาภของผู้เลี้ยง สำหรับเครื่องดื่มแก้วนี้เบสรสชาติด้วยพระยารัมและเหล้าหวาน Bailey ผสานกับไซรัปคาราเมลที่ให้ความหวานละมุน 

 

สีสวาท (280 บาท)

ขาวมณี (280 บาท) อีกหนึ่งแก้วที่ได้แรงบันดาลใจจากแมวไทยที่ชื่อว่า 'แมวขาวมณี' สันนิษฐานว่าเกิดในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงไม่มีชื่อในสมุดข่อยโบราณ แต่พบเห็นอยู่บ้างตามจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่าง ๆ โดยแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่นิยมเลี้ยง ด้วยนิสัยที่เชื่องและเป็นมิตร เชื่อว่าเป็นตัวแทนแห่งความโชคดี เครื่องดื่มแก้วนี้จึงเลือกใช้ 'เสน่หาจิน' โดยมีเบสเป็นสับปะรดที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ผสานกับน้ำมะนาวและไซรัปน้ำผึ้ง แล้วท็อปตามด้วยโฟมและสับปะรดสด 

 

ขาวมณี (280 บาท)

วิเชียรมาศ (280 บาท) จากแมวโบราณที่ถือเป็นแมวนำโชคยอดนิยมมีมูลค่าสูงมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจวบจนปัจจุบัน นิยมเลี้ยงกันมากในต่างประเทศ กลายมาเป็นเครื่องดื่มแก้วพิเศษ สำหรับแก้วนี้ทางร้านเลือกใช้ Captain Morgan Spiced Rum มาเป็นเบสหลัก โดดเด่นด้วยพริกแกงกะหรี่สกัดและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเวอร์มุธหวาน พร้อมเติมความซาบซ่าด้วย Zardetto Prosecco Brut 

 

วิเชียรมาศ (280 บาท)

นอกจากเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแมวมงคลตามสมุดข่อยโบราณของไทยแล้ว ทางร้านยังมีเมนูม็อกเทลสนุก ๆ ในหมวด The Imaginary Cats ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากลักษณะของแมวยอดนิยมในเทพนิยายและความเชื่อที่ถึงแม้ไม่มีตัวตนอยู่จริงก็โด่งดังและครองใจคนทั่วโลกเช่นเดียวกัน

เริ่มต้นกันที่ Maneki Neko (180 บาท) แมวกวักนำโชคของญี่ปุ่นในภาพจำที่มีลักษณะเป็นแมวสีขาวปลอกคอสีแดง ยกมือหนึ่งข้างเพื่อเรียกทรัพย์ เครื่องดื่มแก้วนี้มีส่วนผสมของน้ำนมข้าวผสานกับโชยุไซรัปโฮมเมดที่ช่วยเพิ่มกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ก่อนจะเติมความหวานละมุนด้วยไซรัปน้ำผึ้งและตกแต่งขอบแก้วด้วยงาดำ เพิ่มเท็กซ์เจอร์สนุก ๆ ยามยกแก้วดื่ม 


 

Maneki Neko (180 บาท)

แก้วถัดมาเป็น Bastet (180 บาท) หนึ่งในเทพเจ้าของอียิปต์ที่ชาวไอยคุปต์นับถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ โดยเทพ บาสท์ หรือ บาสเต็ทนี้มีรูปร่างเป็นคนส่วนหัวเป็นแมว เครื่องดื่มแก้วนี้จึงครีเอตออกมาเป็นแก้วสีชมพูสดใส ด้วยส่วนผสมของไซรัปกุหลาบลิ้นจี่ที่ผสานกับน้ำสับปะรดและไลม์ ก่อนจะท็อปด้วยโฟมไข่ขาวและใบมินต์เพื่อเพิ่มความสดชื่น 

 

Bastet (180 บาท)

นอกจากเครื่องดื่มที่ทีมบาร์เทนเดอร์ครีเอตความสนุกและความอร่อยมาให้คอค็อกเทลได้ลองดื่มกันแบบจัดเต็มแล้ว ทางร้านยังให้ความใส่ใจกับการสร้างสรรค์เมนูอาหารฟิวชันแสนอร่อยที่จะช่วยเติมความอิ่มท้องให้คุณ ซึ่งแต่ละเมนูโดดเด่นด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนแบบสไตล์ไทย-เม็กซิกัน ไม่ว่าจะเป็น ลาบหมูทอด (190 บาท) หมูบดคุณภาพดีปั้นเป็นก้อนขนาดพอดีคำ ก่อนจะนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องลาบที่ทางร้านคั่วพริกและข้าวคั่วเอง จนให้กลิ่นหอมอย่างชัดเจน เสิร์ฟบนหมี่กรอบให้ได้ทานคู่กันเพลิน ๆ 


 

ลาบหมูทอด (190 บาท)

ถัดมาเป็นเมนูเอาใจคนรักเนื้อย่างอย่าง เนื้อวากิวแดดเดียว (150 บาท) เนื้อวากิวส่วนที่ติดมันเล็กน้อยคลุกเคล้ากับลูกผักชีตำสดใหม่ เสียบไม้แล้วนำไปกริลล์บนเตาถ่านจนสุกกำลังดีและได้กลิ่นหอมของลูกผักชีและเม็ดผักชีแบบชัดเจน เสิร์ฟมากับซอสศรีราชาที่ท็อปด้วยใบผักชีหอม ๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อยที่ทานกันได้เพลิน ๆ 

 

เนื้อวากิวแดดเดียว (150 บาท)

Anticuchos de Gambas Tigre (290 บาท) เมนูกุ้งขาวเสียบไม้บนสับปะรด เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส Chimmichurri และ Aji Panca ที่มีส่วนผสมของพริก Chipotle จากเม็กซิกันและเครื่องเทศของไทย ให้ความเผ็ดร้อนนิด ๆ ตัดกับความหวานของสับปะรดและสัมผัสเนียนนุ่มของเนื้อกุ้งได้เป็นอย่างดี 


 

Anticuchos de Gambas Tigre (290 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยเมนู ยำปลาแซลมอน (220 บาท) เมนูซาซิมิแซลมอนราดด้วยน้ำยำสไตล์ไทยที่มีตะไคร้เป็นตัวชูโรงให้กลิ่นหอมน่าทาน ได้ความแซ่บของเครื่องยำและความเผ็ดร้อนจากสมุนไพรไทย เป็นอีกเมนูที่สามารถทานแกล้มกับค็อกเทลแก้วโปรดได้แบบเข้ากัน

 

ยำปลาแซลมอน (220 บาท)

Info
Hours
Everyday : 2PM - 12AM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ 68 ซอยหลังสวน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ชิดลม

Facilities
Suggest an Edit