The Bridge Bistro & Office Space

Published on September 21, 2020

Classic Space for Everyone

The Bridge Bistro & Office Space คาเฟ่และออฟฟิศสเปซในย่านสายไหม ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิกที่ไม่เหมือนใคร รังสรรค์พื้นที่แห่งความสุขนี้โดย คุณโม-ธัญวรรณ เดชอมรธัญ และ คุณโอ๋-ไผทมาศ เดชอมรธัญ สองพี่น้องเจ้าของร้าน ที่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ส่งมอบความรักและความอบอุ่นผ่านบรรยากาศของครอบครัวให้กับทุก ๆ คนที่เข้ามาเยือน

 

ด้านหน้าร้านโดดเด่นด้วยประตูไม้บานใหญ่สุดคลาสสิก

 

อีกหนึ่งมุมชิค ๆ ภายในร้าน ที่รอให้สายถ่ายภาพมาเช็กอิน

British Classic Style

ตัวร้านโดดเด่นนับตั้งแต่บานประตูไม้บริเวณหน้าทางเข้าร้าน ไปจนถึงตัวอาคารที่ไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องอยากแวะเวียนเข้ามา โดยการออกแบบร้านทั้งหมดนี้ทาง คุณโอ๋ ได้ลงมือออกแบบร้านด้วยตัวเอง เริ่มต้นจากการดัดแปลงตึกแถวสูง 4 ชั้นให้กลายเป็นคาเฟ่ โดยแบ่งชั้น 1 และชั้น 2 ของทางร้านให้เป็นโซนคาเฟ่กึ่งบิสโทร ตกแต่งในสไตล์ British Classic ผสมผสานกลิ่นอายของความลึกลับในแบบฉบับ Harry Potter และ Sherlock Holmes ตามอย่างที่คุณโอ๋ชอบ

ภายในร้านสอดแทรกด้วยกิมมิกน่ารัก ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นของสะสมของครอบครัวที่ถูกนำมาดัดแปลงหรือวางตกแต่งในมุมต่าง ๆ ให้ออกมาในมู้ดโทนเดียวกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรือสำเภาลำใหญ่ของคุณพ่อ หรือลิ้นชักเก็บเงินของอาม่าที่ถูกดัดแปลงให้เป็นขาโต๊ะเก๋ ๆ เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งทั้งหมดนี้จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามเทศกาล ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูสนุก แปลกใหม่ มีชีวิตชีวา และน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

 

โซนเคาน์เตอร์บาร์สุดเท่

 

บรรยากาศบริเวณชั้น 2 ของทางร้าน

 

บันไดทางขึ้นไปยังชั้นบน ที่เลือกนำเสนอบรรยากาศของความคลาสสิกอันน่าค้นหา

ส่วนบริเวณชั้น 3 และชั้น 4 ถูกดีไซน์เป็นพื้นที่ให้เช่าในลักษณะของ Office Space ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น พื้นที่ส่วนกลางและห้องประชุมของทางร้าน เป็นต้น

 

ห้องประชุมส่วนกลางที่ทางร้านมีเสริมไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการใช้บริการ

 

บรรยากาศของโซนออฟฟิศ

Family's Recipe from Selected Ingredients of Thai Farmers

ในส่วนของตัวร้านมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ 'Cafe & Bistro & Co-Working Space' สถานที่เดียวที่คุณสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่การทานอาหารและขนม ดื่มกาแฟ ไปจนถึงการนั่งทำงานในบรรยากาศแสนสงบ ที่ทางร้านตั้งใจอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกคนอย่างเต็มที่

สำหรับเมนูอาหารต่าง ๆ ของทางร้าน ด้วยความที่คุณพ่อของคุณโอ๋และคุณโมนั้นเคยรับราชการอยู่ที่ต่างจังหวัด อีกทั้งยังต้องคลุกคลีอยู่กับชาวบ้านอยู่เสมอ จึงทำให้ท่านทั้งสองรู้จักกับเหล่าเกษตรกรและแหล่งผลิตวัตถุดิบที่ดี พร้อมคัดสรรวัตถุดิบที่สุดมารังสรรค์เป็นหลากหลายเมนูน่าลองของทางร้าน ซึ่งมอบทั้งความอร่อยและนับเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านไปในตัวอีกด้วย เริ่มต้นกันที่เมนู Fried Shrimp with Fruit Salad (220 บาท) หรือเมนู 'กุ้งนอนรัง' สลัดผักสดและผลไม้ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งทอดในตะกร้าเผือกกรอบ เป็นเมนูรองท้องที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน สามารถทานได้ทั้งครอบครัวและทานได้ทั้งตะกร้าอีกด้วย!  

 

Fried Shrimp with Fruit Salad (220 บาท)

จานถัดมาแนะนำให้ลอง ข้าวอบหนำเลี๊ยบ (100 บาท) เมนูสุดพิเศษสูตรเฉพาะของอาม่าและอากง ซึ่งส่งต่อมาถึงคุณพ่อของคุณโอ๋ เป็นหนึ่งในเมนูประจำของครอบครัวที่ส่งต่อความอร่อยให้คนอื่น ๆ ได้ลิ้มลอง ความพิเศษคือทางร้านจะเลือกใช้ข้าวหอมมะลิจากเกษตรกรที่ได้รับรางวัลนาปีของจังหวัดมหาสารคาม ผ่านการคัดเกรดที่ดีที่สุด แล้วนำมาอบกับหนำเลี๊ยบและเครื่องสมุนไพรจนได้กลิ่นหอมชวนทาน สามารถสั่งทานคู่กับ ไส้กรอกอีสานมหาสารคาม (150 บาท) ได้ด้วย โดยเป็นไส้กรอกอีสานที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ให้รสกลมกล่อม ทานได้แบบเพลิน ๆ

 

ข้าวอบหนำเลี๊ยบ (100 บาท)

หรือจะลองเป็น Homemade Sausage Mix (250 บาท) เมนูที่นำเสนอรสชาติของไส้กรอกสูตรพิเศษจากแบรนด์ BlastWurst ที่ออกแบบร่วมกับ The Bridge Bistro & Office Space มีทั้งหมด 4 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ Veal Sausage ไส้กรอกรสออริจินัล ที่เลือกใช้เนื้อหมูชั้นดีมาบดจนได้เนื้อละเอียด, Garilc & Parsley Sausage ไส้กรอกเนื้อแน่นหอมกลิ่นกระเทียมและพาสลีย์, Double Cheese Sausage ไส้กรอกชีสรสเข้มข้น ที่ผสานรสชาติของชีส 2 ชนิด ระหว่างพาร์เมซานชีสและเชดด้าชีส และ Onion Sausage ไส้กรอกรสหัวหอมที่ผสมกับเนื้อหมูบดละเอียด ได้รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านและ Side Dish แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง, มะกอกดอง, กะหล่ำดอง, แตงกวาดอง และแครอทดอง

 

Homemade Sausage Mix (250 บาท)

หนักท้องขึ้นมานิดกับเมนู Steak Salmon with Cream Sauce (220 บาท) ที่ทางร้านนำแซลมอนไปอบร้อนและทอดด้วยการดึงน้ำมันไว้ใต้หนังแซลมอน แล้วทอดลงในหม้อทอดจนได้หนังปลากรอบและเนื้อแซลมอนนุ่ม ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมซอสโฮมเมดสูตรเฉพาะของทางร้าน 

 

Steak Salmon with Cream Sauce (220 บาท)

จากนั้นไปต่อกันที่ขนมซิกเนเจอร์อย่าง Blueberry Cheese Pie (85 บาท) บลูเบอร์รีชีสพายโฮมเมด ที่ทางร้านใส่ใจในการทำทุก ๆ ขั้นตอน สามารถจับคู่กับเมนู Americano Hua-Hin (75 บาท) ช็อตเอสเพรสโซผสมกับคราฟท์โซดาหมักสับปะรด พร้อมมอบความสดชื่นในทุกครั้งที่ดื่ม ก่อนจะปิดท้ายด้วย Sleeping Beauty (95 บาท) เมนูเครื่องดื่มที่ใช้ Camomile Tea เป็นส่วนผสมหลัก (แต่ไม่มีคาเฟอีน) ผสมกับไซรัปลาเวนเดอร์ที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอมละมุนและความสดชื่นจากส่วนผสมของแอปเปิ้ลและมะนาว มาพร้อมกับผลไม้สดหั่นชิ้น และท็อปด้วยโรสแมรี เป็นอีกหนึ่งแก้วที่ดื่มแล้วชื่นใจ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

 

Blueberry Cheese Pie (85 บาท)

 

Sleeping Beauty (95 บาท)

Info
Hours
Everyday : 9AM - 9PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
โครงการ Siri Avenue เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit