Back to the 90's
The Cassette Music Bar เปิดตัวน้อง (บาร์) แท้ ๆ อย่าง The Chatrooms ร้านอาหารและบาร์สุดชิลล์สไตล์ย้อนยุคที่ตั้งอยู่ในโครงการ เวิ้งโบราณ เอกมัย 10 แหล่งแฮงเอาต์แห่งใหม่ของเด็กยุค 90’s ในบรรยากาศสุด Cozy ที่จะให้คุณได้นั่งชิทแชทเพลิน ๆ กับผองเพื่อน ทานอาหารและเครื่องดื่มสุดโปรดท่ามกลางบทเพลงเก่าเพราะ ๆ ที่หลายคนคิดถึง
A Lot of Memories
ภายในร้าน The Chatrooms ยังคงคอนเซ็ปต์ของความย้อนยุคในแบบ Positive ที่ทั้งสดใสและให้บรรยากาศคึกคัก โดยร้านแห่งนี้เกิดจากความต้องการที่อยากให้แฟน ๆ ของ The Cassette Music Bar ที่ชื่นชอบในเพลงสไตล์นี้ ได้มีที่นั่งชิลล์ ฟังเพลงเพลิน ๆ แทนการกระโดดโลดเต้นในรูปแบบเดิม ๆ
โดยทางร้านยังคงหยิบยกเสน่ห์ของยุคเก่าขึ้นมาเป็นความโดดเด่นของร้าน หลังจากโด่งดังด้วยเทปเพลงสีชมพูก่อนหน้านี้ ก็มาต่อยอดกันที่โทรศัพท์วินเทจแบบหมุน ๆ อันเป็นสัญลักษณ์ของร้านที่สื่อถึงการพูดคุย เม้าท์มอยกับผองเพื่อนตามจุดประสงค์ของร้าน
รวมไปถึงโซนต่าง ๆ ที่ได้นำเอาวิถีชีวิตแบบเดิมมารวมไว้และใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ดีไซน์ออกมา ไม่ว่าจะเป็น ตัวบาร์ที่ตกแต่งด้วยคอนกรีตและหินแกรนิตที่ใช้สร้างกำแพงบ้านแบบสมัยก่อน และห้องไพรเวทสำหรับหมู่คณะหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือแม้แต่เวทีร้องเพลง ที่ทางร้านตกแต่งเป็นในลักษณะของห้องน้ำพร้อมฝักบัว ที่ได้มู้ดแอนด์โทนคลาสสิกแบบจัดเต็ม โดย คุณภาและเพื่อน ๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากพฤติกรรมการร้องเพลงในห้องน้ำของคนส่วนใหญ่นั่นเอง หรือแม้แต่ห้องน้ำของทางร้านเอง ก็ยังนับเป็นอีกหนึ่งมุมแชะรูปเก๋ ๆ เพราะมีการตกแต่งด้วยตู้โทรศัพท์ย้อนยุคสีสันสดใส เรียกได้ว่ามาที่นี่ นอกจากจะได้ฟังเพลิน ๆ ทานของอร่อยเพลิน ๆ แล้ว ยังได้ถ่ายรูปกันเพลิน ๆ อีกด้วย
Have a Good Meal
สำหรับเมนูอาหารต่างๆ ของทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูทานง่ายที่หลายคนคิดถึง พร้อมยังคงใส่ใจและคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มลองในทุก ๆ จาน เริ่มต้นรองท้องระหว่างมื้อกันด้วย ของว่างทานง่ายอย่าง ข้อไก่แซ่บ (160 บาท) ข้อไก่ทอดกรุบกรอบ โรยด้วยผงปรุงรสแซ่บ ๆ ให้ความเผ็ดและรสชาติที่กลมกล่อม เหมาะสำหรับทานแกล้มกับค็อกเทลหรือเครื่องดื่มแก้วโปรดแบบเพลิน ๆ
แต่สำหรับใครที่อยากย้อนวัยวันวาน ยามเลิกเรียน ทางร้านนำเสนอ ลูกชิ้นนรก (160 บาท) ลูกชิ้นทอด เสิร์ฟร้อน ๆ ที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสแซ่บ เป็นเมนูรำลึกความหลังในวัยเรียน
จากนั้นมาต่อกันที่เมนูหาทานยากอย่าง ข้าวผัดอเมริกัน (200 บาท) ข้าวสวยร้อน ๆ ที่นำมาผัดกับซอสรสเข้มข้น ที่ตักทานแล้วให้รสชาติเดียวกันในทุก ๆ คำ ผสมผสานกับถั่วแระญี่ปุ่นที่ทางร้านนำมาใช้แทนถั่วลันเตา เสิร์ฟมาพร้อมกับน่องไก่ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน แฮม ไส้กรอก และท็อปด้านบนด้วยไข่ดาว เป็นอีกหนึ่งเมนูธรรมดาที่น่าลอง
ส่วนใครที่ไม่ชอบทานข้าว ลองสั่ง มักกะโรนีผัดกุ้ง (180 บาท) ที่ทางร้านได้ไอเดียจากเมนูที่หลายคนชอบทานในวัยเด็ก จึงเลือกนำเสนอรสชาติที่คิดถึงด้วยมักกะโรนีเส้นยาวผัดกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน มาพร้อมกับใส่กุ้งชิ้นโตเต็มคำ
หรือถ้าอยากได้เมนูที่อิ่มท้องขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ลอง สเต๊กเนื้อริบอาย (450 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อชั้นดีจากออสเตรเลีย หมักให้เครื่องเข้าเนื้อแบบกำลังดี แล้วย่างบนเตาให้มีกลิ่นหอมน่าทาน เสิร์ฟพร้อมกับซอส 3 ชนิด ที่สามารถเลือกทานได้ตามชอบ
หากกำลังมองหาเมนูแก้แฮงก์ก่อนเช็คบิลกลับบ้านแล้วล่ะก็ ไม่ต้องออกไปทานข้าวต้มที่ไหนต่อให้เสียเวลา ทางร้านแนะนำให้ลองสั่ง ข้าวต้มแซ่บหมูเด้ง (140 บาท) เมนูข้าวต้มในซุปต้มแซ่บ เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อหมูเด้งชิ้นโตเต็มคำ รับรองว่าความเผ็ดร้อนนี้ จะทำให้คนทานรู้สึกสดชื่นและสร่างเมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
Party Drinks
ปิดท้ายกันด้วย 4 Signature Cocktail ที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น Hello (350 บาท) ค็อกเทลสีชมพูสวยเหมาะสำหรับสาว ๆ มีส่วนผสมของพิงค์เลมอนเนด รัม และมินต์ ดื่มง่าย ดื่มได้เพลิน ๆ หรือจะลองเป็น Miss you (350 บาท) เครื่องดื่มที่ให้รสเปรี้ยวเล็กน้อยจากส้มยูซุและรสหวานของพีช ผสมกับพลัมและจินโทนิค ต่อกันที่ I Love You (350 บาท) ค็อกเทลที่ให้กลิ่นหอมของเชอร์รี โรส ผสมผสานกับวอดก้าชั้นดี และ Have a good day (350 บาท) เครื่องดื่มสีฟ้าสวยที่มีส่วนผสมของเหล้ามิโดริ