The First Little Prince Cafe in Bangkok
จากคำอุทิศหนังสือวรรณกรรมเยาวชนระดับโลกอย่าง ‘Le Petit Prince’ หรือ ‘เจ้าชายน้อย (The Little Prince)’ ผลงานการประพันธ์ของนักเขียนและนักบินชาวฝรั่งเศส อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี (Antoine de Saint-Exupéry) ที่เหล่าแฟน ๆ นักอ่านทั่วโลกต่างชื่นชอบและรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะหยิบมาอ่านครั้งไหนก็ชวนให้เราได้ขบคิดและทบทวนสิ่งที่ ‘คนเติบใหญ่’ มักทำ ‘วัยเยาว์’ สูญหายระหว่างทาง หรือทุกช่วงชีวิตได้อยู่เสมอเมื่อได้กลับมาตีความสัญลักษณ์ และความหมายเชิงปรัชญาที่ซ่อนอยู่ภายในหนังสืออีกครั้ง
จึงนับเป็นข่าวดีไม่น้อยที่ในปี 2566 นี้ แฟนพันธุ์แท้หนอนหนังสือ ‘เจ้าชายน้อย’ ชาวไทยจะได้อินและฟินกับการเปิดตัว ‘The Little Prince Cafe’ แห่งแรกในเมืองไทย ซึ่งเปิดให้บริการในรูปแบบของคาเฟ่ที่พร้อมต้อนรับทั้งเหล่าคนรักงานศิลปะและนักฮอปได้แวะมาเช็กอินแบบไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ
Sip, Dream and Explore Like The Little Prince
คาเฟ่เจ้าชายน้อยแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ L’Envol Art Space อาร์ตแกลเลอรีของคุณ Arnaud Nazare-Aga ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้สร้างผลงานประติมากรรมหลากหลายรูปแบบที่โดดเด่นด้วยการเพ้นต์สีและลวดลายอย่างเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงประติมากรรมเจ้าชายน้อย (คุณ Arnaud Nazare-Aga ได้รับลิขสิทธิ์การเปิดคาเฟ่เจ้าชายน้อยจากเพื่อนสนิท ทายาทของครอบครัวอองตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี (Antoine de Saint-Exupéry) ผู้ประพันธ์ Le Petit Prince โดยตรง) ซึ่งเคยนำไปจัดแสดงที่ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสิงคโปร์มาแล้ว
สำหรับจุดเริ่มต้นในการเปิดคาเฟ่มาจากการที่คุณ Arnaud ได้รับมอบหมายจาก The Antoine de Saint Exupéry Youth Foundation ให้รังสรรค์ประติมากรรมที่ถอดแบบมาจากเรื่องเจ้าชายน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้คนตาบอดได้สัมผัสกับตัวละครจากบทประพันธ์เรื่องโปรดด้วยตัวเอง โดยผลงานทั้งหมดถูกจัดแสดงเป็นนิทรรศการในหลายประเทศทั่วโลก และเมื่อเห็นว่าในประเทศไทยที่เขาพำนักอยู่ปัจจุบันนั้นยังไม่เคยนำมาจัดแสดงเลยสักครั้ง บวกกับวาระครบรอบ 80 ปี ของหนังสือวรรณกรรมเยาวชนดังกล่าว ในปี 2566 จึงผุดไอเดียครีเอตพื้นที่ส่วนหนึ่ง (บริเวณชั้น 2) ของแกลเลอรีให้กลายมาเป็นคาเฟ่เจ้าชายน้อยในที่สุด
แน่นอนว่าผลงานบางส่วนนั้นมีให้ได้ชมกันภายในโซนคาเฟ่และโซนอาร์ตแกลเลอรี เพื่อให้แฟนตัวยงหรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาดื่มด่ำงานศิลปะ
พร้อมกับใช้เวลาผ่อนคลายระหว่างวันไปกับการจิบเครื่องดื่ม อิ่มอร่อยกับสารพัดเมนูขนม Homemade Pastry ที่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจ้าชายน้อย แถมยังผลิตมาจากวัตถุดิบคุณภาพที่คุณ Arnaud ให้ความใส่ใจคัดสรรมาเป็นอย่างดี เสิร์ฟความอร่อยภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ซึ่งผู้ที่เข้ามาสามารถเลือกชิลล์เอาต์ได้ทั้งโซนอาร์ตแกลเลอรี ถ่ายภาพกับชิ้นงานประติมากรรมสวย ๆ บริเวณโซนคาเฟ่และโซนบาร์เครื่องดื่มด้านล่างกันได้ตามอัธยาศัย
ไม่เพียงแต่ผลงานประติมากรรมสวย ๆ ที่เสริมมู้ดความเป็นพื้นที่แห่งศิลปะเท่านั้น ภายในคาเฟ่ยังเลือกตกแต่งด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมายที่ล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของเจ้าชายน้อยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูปที่นำภาพดราฟต์แรกของหนังสือที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน เรื่อยไปจนถึงภาพหมวกหรืองูกินช้างที่มีเพียงสองชิ้นบนโลกเท่านั้น!, โปสการ์ดคอลเลกชันพิเศษ, หนังสือเจ้าชายน้อยฉบับแปลภาษาต่าง ๆ เวอร์ชันเอเชียให้ได้ลองหยิบอ่านกันแบบเพลิน ๆ อีกด้วย ซึ่งในอนาคตทางร้านอาจมีของที่ระลึกจัดจำหน่ายและจัดอีเวนต์ Storytelling ให้แฟน ๆ นักอ่านเจ้าชายน้อยทั้งหลายได้ทำความรู้จักคาเฟ่แห่งนี้มากยิ่งขึ้น
All Recommend Menus Served with a Touch of Magic
หลังจากเดินสำรวจบรรยากาศภายในคาเฟ่และพื้นที่อาร์ตแกลเลอรีเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาลิ้มลองความอร่อยกับสารพัดเมนูแนะนำที่ครีเอตโดยอ้างอิงจากโลกของเจ้าชายน้อย โดยเฉพาะคาแร็กเตอร์ตัวละครสำคัญ ๆ ภายในเรื่องที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นรูปทรงขนม ลวดลายเส้นภาพวาดตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ บนเครื่องดื่ม บวกกับการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ อาทิ ผงชานำเข้าจากฝรั่งเศส, ผงมัทฉะนำเข้าจากญี่ปุ่น, ช็อกโกแลตโลคอลจากแบรนด์กาดโกโก้, พาสทรีโฮมเมดจาก Amantee Bakery และ Auarella เป็นต้น ผสมผสานรสชาติออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งน่ารักน่าทานในคราวเดียวกัน
เริ่มต้นจากเมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ Tiramisu Sheep (สามารถอัพเดทราคาปัจจุบันได้ที่หน้าร้าน) ทีรามิสุ ขนมหวานยอดฮิตของทางฝรั่งเศส ให้เนื้อสัมผัสนุ่ม รสหวานหอมละมุน โรยท็อปด้วยผงกาแฟและถูกตกแต่งจานเสิร์ฟเป็นลายเส้นการ์ตูนรูปแกะในกล่อง พร้อมโลกของดวงดาวที่ถอดแบบจากหนังสือวรรณกรรมต้นฉบับ
ตามมาด้วย Star Biscuits (2 ชิ้น / 25 บาท) คุกกี้เนยเนื้อนิ่มสูตรโฮมเมดที่ให้ความหอมมันของเนยแท้นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส และรสหวานกำลังดี โดยออกแบบตัวขนมให้มีรูปทรงของดวงดาว
ถัดจากเมนูขนมทางร้านยังพร้อมเสิร์ฟอีกหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม Coffee และ Non-Coffee ทั้งแบบร้อนและเย็นให้เลือกสั่งมาดื่มตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น Hoshi Matcha (150 บาท) มัทฉะลาเต้หรือชาเขียวนมแบบร้อน รสเข้มข้นกลมกล่อมหอมละมุน ที่ชงจากผงมัทฉะแท้เกรดพรีเมียม นำเข้าจากเมืองชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มความโดดเด่นด้วยลาเต้อาร์ตรูปเจ้าชายน้อยตัวละครเอกของเรื่อง
ส่วนใครที่เป็นคอกาแฟนมแนะนำให้ลองสั่ง Creme Brûlée Latte (160 บาท) กาแฟลาเต้รสหวานละมุนกรุ่นกลิ่นวานิลลา ท็อปด้วยเครมบรูเลที่เบิร์นด้วยไฟให้กลิ่นหอมของคาราเมล
หรือจะเป็น Strawberry Rose Latte (160 บาท) กาแฟนมรสนวลที่มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไซรัปดอกกุหลาบ ส่วนผสมสำคัญซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดอกกุหลาบผู้แสนเย่อหยิ่ง ครีเอตลาเต้อาร์ตออกมาเป็นรูปหัวใจ แล้วโรยหน้าตามด้วยผงกุหลาบ เป็นอีกหนึ่งแก้วซิกเนเจอร์ที่ดีงามไม่แพ้กัน
หากมองหาเครื่องดื่มเฟรช ๆ ไว้เติมความสดชื่นระหว่างวันต้องลอง Lychee Rose (140 บาท) ดริงก์หมวด Sparkling Fruity ที่มีส่วนผสมของไซรัปลิ้นจี่และกุหลาบ เสริมกิมมิกด้วยก้อนน้ำแข็งรูปกุหลาบ ให้รสหวานอมเปรี้ยวผสานเข้ากับความหอมสดชื่นแนวฟรุ๊ตตี้ที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี
เรียกได้ว่าพื้นที่แห่งนี้ เติมเต็มจินตนาการในวัยเด็กให้กับทุก ๆ คนที่มีโอกาสได้แวะเวียนเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนตัวยงของหนังสือวรรณกรรมเจ้าชายน้อยหรือไม่ก็ตาม เชื่อเถอะว่าการได้มาเยี่ยมชมอาร์ตแกลเลอรี สำรวจชิ้นงานประติมากรรมต่าง ๆ ของคุณ Arnaud พร้อมดื่มด่ำช่วงเวลาสุดผ่อนคลายไปกับการจิบเครื่องดื่ม ทานขนมอร่อย ๆ ที่ The Little Prince Cafe หรือ L’Envol Art Space แห่งนี้จะช่วยฮีลใจ ส่งต่อพลังงานที่ดีให้กับคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่นเดียวกับที่เจ้าชายน้อยเคยพูดไว้ในหนังสือด้วยประโยคที่ว่า "นี่คือความลับของฉัน มันแสนธรรมดา เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้นสิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา" ทุกคนจะรู้สึกอิ่มเอมไปกับความน่ารักของตัวละครที่โลดแล่นออกมาจากโลกหนังสือวรรณกรรม ร่วมซึมซับบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นเอง และประทับใจในมิตรภาพดี ๆ ที่คุณ Arnaud ได้มอบให้กับทุกคน ใครรู้ตัวว่าอินกับ ‘เจ้าชายน้อย’ มาก ๆ บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดการมาเช็กอินคาเฟ่และอาร์ตสเปซดี ๆ แห่งนี้ ด้วยประการทั้งปวง!