The Story of The Oqposite
เพราะไม่อยากให้บ้านสถาปิตะเวสม์ บ้านเก่าแก่ของคุณย่าอันเป็นที่รักและเป็นเหมือนจุดรวมตัวของทุกคนครอบครัวนั้นเก่าแก่ไปตามกาลเวลา คุณแนทและพี่สาวจึงเลือกที่จะกลับมารีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Opposite บ้านหลังเก่าที่ยังมีความสมัยใหม่แฝงอยู่ให้กลายเป็นร้าน The Oqposite คาเฟ่ดี ๆ ในบรรยากาศสุดเก๋แห่งหนึ่งในย่านนางเลิ้ง
Vintage Loft Style
ตัวร้านถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายบ้านเก่าที่กำลังก่อสร้าง คล้ายกับบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ ทำให้บรรยากาศภายนอกดูดิบเล็กน้อย โดยแบ่งออกเป็นสองชั้นตามความสูงของต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางร้าน บรรยากาศโดยรวมนั้น Opposite กับห้องน้ำที่ถูกสร้างในรูปแบบสมัยใหม่ ดูสวยและดูดีขัดกับบรรยากาศภายนอก รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ที่ดูแตกต่างกับบรรยากาศโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นช้อนส้อมสีทอง เก้าอี้ไม้ เติมความเก๋และมีสไตล์ด้วยภาพเพนท์รอบ ๆ ร้าน
Recommended Menus
ในส่วนของเมนูต่าง ๆ ของที่นี่ก็ยังคงถูกสร้างสรรค์ในคอนเซ็ปต์เดิมคือความแตกต่างที่ลงตัวของแต่ละจาน โดยเน้นเสิร์ฟอาหารจานเดียว ทานง่าย เริ่มต้นกันที่เมนู Spaghetti The Oqposite Special (220 บาท) สปาเก็ตตี้ที่สร้างสรรค์แบบสูตรเฉพาะของทางร้าน ให้รสชาติคล้ายกับสปาเก็ตตี้โอริโอ้ มีความเค็มของชีส ความหวานจากโอริโอ้ และความเผ็ดร้อนของพริกและกระเทียม แนะนำให้ทานให้ครบทุกองค์ประกอบในหนึ่งคำ
หรือจะลองเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ถือว่าเป็นเมนูขายดีและได้ความอร่อยนี้มาจากสูตรของคุณย่าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหาร ซึ่งทางเจ้าของร้านอยากจะให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาได้ลิ้มรสชาติในแบบที่ทุกคนในบ้านคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อย่าง ข้าวมันกุ้ง (180 บาท) มันกุ้งแน่น ๆ ผัดซอสเสิร์ฟกับไข่ยางมะตูม หรือหากใครยังต้องการเมนูทานเล่นเพิ่มเติมลองสั่งโรตีผักโขมอบชีส (180 บาท) ผักโขมอบกับมอสซาเรลล่าชีสร้อน ๆ ในแป้งโรตีกรอบแบบไทย ๆ
เมื่ออิ่มท้องกับอาหารคาวกันแล้วมาต่อกันที่ขนมหวานน่าทานอย่าง คาราเมลพุดดิ้ง (140) เค้กที่ใช้ความหวานของอินทผาลัมแทนน้ำตาล ราดด้วยซอสคาราเมลเข้มข้น ตกแต่งให้ดูน่ารักมีกิมมิกด้วยตุ๊กตามดยักษ์
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มน่าลอง Oqposite Berry (155 บาท) ที่จับความหอมหวานของชามิกซ์เบอร์รี่มาผสมผสานกับความเข้มข้นของกาแฟโคลด์บรูว์ Honey Matcha (155 บาท) เครื่องดื่มที่มีเบสเป็นฮันนี่เมลมอนและน้ำเลมอน จากนั้นนำชาเขียวพรีเมียมมาผสม ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นของชาผสมผสานกับความหวานอมเปรี้ยวของฮันนีเลม่อน Dragon Sweet (155 บาท) น้ำเสาวรสแดงผสมกับไซรัปลิ้นจี่ เชคกับเนื้อแก้วมังกรสีแดงล้วน ท็อปด้านบนด้วยโซดาและผลแก้วมังกร ให้รสชาติหวานและกลิ่นหอมของลิ้นจี่ตัดกับความเปรี้ยวของเสาวรส ถือเป็นแก้วที่นำความแตกต่างมาจับคู่กันได้อย่างลงตัว