Taste of Thompson’s Mystique with Every Sip
เปิดวาร์ปบาร์ (ไม่) ลับ The O.S.S Bar บาร์บรรยากาศย้อนยุคสุดคลาสสิก ให้สายแฮงเอาต์ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ไนท์ไลฟ์อย่างมีสไตล์ไปกับการแต่งร้าน และรังสรรค์ค็อกเทลที่อินสไปร์มาจากช่วงชีวิตในหน่วยงาน O.S.S ของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson)
ชวนทุกคนย้อนยุคเข้าไปในเรื่องราวอันเป็นตำนานของจิม ทอมป์สัน Jim Thompson กับ vibes สุดคลาสสิกและน่าค้นหา ในแบบฉบับ Speakeasy Bar ที่มาพร้อมแนวการตกแต่งสไตล์เรโทร ผสานความร่วมสมัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงชีวิตอันแสนลึกลับและการหายตัวไปของจิม ทอมป์สันในปีพ.ศ.2510 ก่อนจะครีเอตออกมาเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลแก้วพิเศษที่ล้วนแกะสูตร (รหัสลับ) จากรสชาติชีวิตในแต่ละช่วงชีวิตของจิม ทอมป์สันได้อย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งรูปแบบการสั่งที่มีกิมมิกเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร!
O.S.S ย่อมาจาก Office of Strategic Services เป็นหน่วยงานยุทธศาสตร์ที่คุณจิม ทอมป์สัน เคยทำงานอยู่ที่อเมริกาช่วงยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหน่วยงาน CIA ในปัจจุบันนั่นเอง
Vintage Charm with Contemporary Sophistication
เมื่อเข้ามาในบาร์แล้วจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับการตกแต่งที่ซ่อนเรื่องราวชีวิตการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานบริการเชิงกลยุทธ์ (O.S.S.) ของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ทั้งภาพถ่ายจากอดีต งานศิลปะ และเมนูดริงก์ต่าง ๆ ซึ่งมีกิมมิกที่น่าสนใจให้ได้เลือกจิบ พร้อมเอนจอยกับบรรยากาศภายในร้าน วิวสวย ๆ ริมคลองแสนแสบ และดนตรีบรรเลงสดหลากธีมหลายแนวเพลงสุดไพเราะที่มาร่วมสร้างความรื่นรมย์ตลอดค่ำคืน
ในส่วนของแสงไฟภายในบาร์จะถูกเซ็ตให้มีสีแดงเข้มขึ้นตามช่วงเวลาของวัน นับตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงช่วงดึก ซึ่งแสงสีแดงจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ตามแสงของดวงอาทิตย์ ระหว่างจิบค็อกเทลก็จะได้ขมวิวคลอง วิวชุมชนละแวกย่านนี้ไปด้วยในตัว
ทุกวันเสาร์ของแต่ละเดือนทางบาร์จะจัดธีมบรรยากาศร้านและเพลงบรรเลงแบบสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เช่น ธีม LGBTQ Night, ธีม E-San Night Music, ธีม Gentleman Night และธีม Lady Night เป็นต้น ซึ่งแต่ละคืนก็จะมี vibe ค่ำคืนแสนพิเศษที่แตกต่างกันไป
Blending Historic Tales with Inventive Cocktails
เมนูค็อกเทลแต่ละแก้วได้บอกเล่าฉากชีวิตคุณจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ผ่านฝีมือของมิกซ์โซโลจิสต์มากประสบการณ์ ถ่ายทอดชีวิตของเขาผ่านเรื่องราวทั้งสี่บท อินสไปร์จากช่วงเวลาและสถานที่สำคัญในการเดินทางของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ตั้งแต่ชีวิตในวัยเยาว์ การทำงานให้กับสำนักงานด้านยุทธศาสตร์ และช่วงชีวิตในประเทศไทย
เมนูซิกเนเจอร์ค็อกเทลทางบาร์จะใช้สุราไทยเป็นเบสของส่วนผสมทั้งหมด โดยมิกซ์โซโลจิสต์มากประสบการณ์เป็นผู้คิดค้นสูตร นอกจากนี้ยังมีเมนูค็อกเทลพิเศษในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ให้ได้ลิ้มลองเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนกับแกล้มที่เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับเครื่องดื่ม ทางบาร์จะเลือกเสิร์ฟเป็นถั่วลิสงและมันฝรั่งทอดกรอบที่คลุกเคล้ามากับผงปรุงรสสูตรเฉพาะแบบไทย ๆ
เมนูดริงก์ถูกครีเอตขึ้นมาในรูปแบบคู่มือภาคสนาม ทุกแก้วบอกเล่าเรื่องเล่าสุดพิเศษ พร้อมสัญลักษณ์กำกับว่าค็อกเทลแต่ละเมนูมีรสชาติอย่างไร อาทิ หวาน เปรี้ยว มีเครื่องเทศ ขม และรสอื่น ๆ เพื่ออธิบายมิติแห่งรสชาติที่อยู่ในแก้ว นอกจากนี้ยังใช้ฉากชีวิตของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ในการนำเสนอรสชาติที่แฝงอยู่ในค็อกเทลแต่ละแก้วอีกด้วย ได้แก่ บทที่ 1 Early Life ทำความรู้จักชีวิตช่วงเยาว์วัยของจิม ทอมป์สัน บทที่ 2 The O.S.S. Time เล่าถึงช่วงเวลาในการดำรงตำแหน่งด้านข่าวกรองทางการทหาร ล้วนถ่ายทอดรสชาติการเดินทางจากสหรัฐอเมริกาไปยังแอฟริกาเหนือและซีลอน ตลอดจนการมาเยือนกรุงเทพฯ บทที่ 3 Thailand : A Dream Comes True พาไปสัมผัสชีวิตของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ในฐานะราชาไหมไทย และ บทที่ 4 The Unsolved Mystery ด่ำดิ่งสู่ตำนานแห่งปริศนา การหายตัวไปอย่างลึกลับของจิม ทอมป์สันในปีพ.ศ. 2510 ในผืนป่ามาเลเซีย
นอกเหนือจากเรื่องราวอันน่าหลงใหลที่บอกเล่าผ่านค็อกเทลแต่ละแก้ว ผู้มาเยือนยังสามารถเอนจอยกับเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งม็อกเทลที่ครีเอตอย่างมีศิลปะ ไปจนถึงไวน์หลากหลายที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน หรือจะลิ้มรสชาติแอลกอฮอล์สัญชาติไทยที่ถ่ายทอดออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ ส่วนใครที่เป็นคอวิสกี้ก็มีหลายตัวเลือกให้เพลิดเพลิน จึงมั่นใจได้ว่าบาร์แห่งนี้จะช่วยให้นักดื่มทุกคนได้พบเครื่องดื่มที่เหมาะกับรสนิยมของตน
ในพาร์ทของเมนูซิกเนเจอร์ แนะนำให้ลองสั่ง K.YEE & K.TUN (450 บาท) เมนูค็อกเทลที่ครีเอตขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่พ่อครัวและพ่อบ้านที่จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ไว้วางใจ ด้วยความที่คุณยี้และคุณตันนั้นเป็นชาวจีน ส่วนผสมที่นำมาครีเอตเป็นค็อกเทลแก้วนี้จึงมีเบสส่วนผสมหลักของเหล้าจีนหรือไวน์จีนสำหรับใช้ทำอาหาร และเม็ดเก๋ากี้ซึ่งให้กลิ่นอายของสมุนไพรจีนแบบเต็ม ๆ เสิร์ฟมาในกาจีนโบราณ ดีไซน์ตัวแก้วให้เหมือนกับแก้วชาจีนที่มีหน้าตาคล้ายกระเบื้องเคลือบลายจีนสีฟ้าคราม สำหรับแก้วนี้จะให้รสเปรี้ยวอมหวาน ผสานเข้ากับความหอมของสมุนไพรจีนอย่างลงตัว
Thai-Chinese Inspired Drinks
และเพื่อต้อนรับปีมังกรทองประจำปีพ.ศ.2567 ทางบาร์จึงเลือกครีเอตเมนูค็อกเทลแก้วพิเศษขึ้นมาให้สอดคล้องกันในสไตล์ไทย-จีน ซึ่งมีการมิกซ์ส่วนผสมเฉพาะที่ให้กลิ่นอายของความเป็นจีนสอดแทรกลงไปในดริงก์แต่ละแก้ว เริ่มกันที่ The OSS Dynasty (420 บาท) ค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการตั้งองค์กรสำนักงานด้านยุทธศาสตร์ของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ส่วนผสมภายในแก้วนี้ประกอบด้วย Bourbon whiskey ที่นำไปอินฟิวส์กับชาดอกเก็กฮวย, Grand Marnier เหล้าส้มสัญชาติฝรั่งเศส และ Orange Bitter เหล้าขมที่มีกลิ่นหอมของส้ม สำหรับแก้วนี้เป็นดริงก์ที่ดื่มง่าย ด้วยรสเปรี้ยวอมหวานผสานความหอมสดชื่นของชาดอกเก็กฮวยและส้มที่เบลนด์รสชาติได้แบบเข้ากัน
ถัดมายังแก้วที่ 2 กับ Golden Dragon (420 บาท) เมนูค็อกเทลที่เบสรสชาติด้วยส่วนผสมของจิน เหล้าจีน Amaretto หรือเหล้าอิตาลี ลิเคียวที่ให้กลิ่นอายของเฮเซลนัท ไซรัปโกจิเบอร์รีที่ทางบาร์ทำขึ้นเอง ตามด้วยน้ำมะนาว และไข่ขาว พร้อมโรยหน้าดริงก์ด้วยผงมิกซ์เบอร์รีหอม ๆ สำหรับแก้วนี้ให้รสนุ่มละมุนดื่มง่ายอีกเช่นเดียวกัน
ก่อนจะปิดท้ายด้วย Chinatown Lunar Elixir (420 บาท) เมนูค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเทศกาลตรุษจีน โดยแก้วนี้จะเบสรสชาติด้วยเหล้าเตกีลา มิกซ์เข้ากับไซรัป Osmanthus Summer Tea, น้ำมะนาว แล้วท็อปด้วยเหล้าแนวบลอสซัมอย่าง Bloom Berry ที่ให้กลิ่นหอมสดชื่น เข้ากับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองตามคอนเซ็ปต์เทศกาลตรุษจีน
ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งเป็นจุดเด่นของ The O.S.S Bar ทุกรายละเอียดในบาร์ดีไซน์อย่างพิถีพิถันเพื่อจำลองอาณาจักรของคุณจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) ออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม เรียกว่าบาร์แห่งนี้เหมาะสำหรับทั้งสายไลฟ์สไตล์และนักดื่มที่ชื่นชอบค็อกเทลรสชาติแปลกใหม่ลงตัว นำไปสู่ค่ำคืนที่น่าจดจำไม่แพ้ตำนานของจิม ทอมป์สันเลยทีเดียว