The Hidden Little Tea Room
ฉีกกฎการดื่มชาแบบเดิม ๆ เพิ่มเติมประสบการณ์ดื่มชารูปแบบใหม่ที่ The Orange's Tea คาเฟ่ชาขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่ในย่านพระโขนง โดยเลือกนำเสนอวัฒนธรรมการดื่มชา ชงชาในรูปแบบใหม่ ให้เหล่า Tea Lover รวมถึงคนที่เพิ่งหัดดื่มชาได้ลิ้มลองชารสชาติต่าง ๆ ซึ่งถูกคิดค้น ทดลอง เบลนด์ชา เพื่อให้ได้กลิ่น ได้รสสัมผัสใหม่ตามอารมณ์ ความรู้สึกของ คุณส้ม-ชญานิษฐ์ เชยสมบัติ Tea Master และเจ้าของร้านผู้หลงใหลในศาสตร์ของชาอย่างแท้จริง โดยที่นี่จะมีการคัดสรรใบชาจากหลาย ๆ ที่ ทั้งไทย จีน ไต้หวัน และศรีลังกามาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงกรรมวิธีการชงแบบใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ได้รสชาที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น
Twisted Tea Culture
จุดเริ่มต้นของ The Orange's Tea มาจากความสนใจ ความชอบในเรื่องศาสตร์ของสมุนไพรซึ่งทางคุณส้มได้มีการศึกษาข้อมูล พร้อมเรียนรู้เรื่องชาจากการไปเวิร์คช็อปเพิ่มเติม จนกระทั่งเกิดเป็นความรักและความชำนาญค่อย ๆ พัฒนามาเป็นแบรนด์ Hyrps สมุนไพรอบแห้ง แล้วต่อยอดไปจนถึงเรื่องของชา ทดลองนำชาชนิดต่าง ๆ มาเบลนด์กับดอกไม้ ผลไม้ และเปิดเป็นคาเฟ่ชาในที่สุด ให้คนทั่วไปได้รู้จักชาในมุมมองที่แตกต่างออกไป ภายใต้ตอนเซ็ปต์ Twisted Tea Culture ที่ไม่มีข้อจำกัดในการชงชา ให้บริการทั้ง Traditional Tea จากหลายประเทศ และเบลนด์ชาขึ้นเองโดยเฉพาะมากกว่า 20 ชนิด จากแรงบันดาลใจ สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ให้ได้ชารสชาติแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
Cozy Tea Room
แม้ว่าตัวร้านจะมีขนาดกะทัดรัด แต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น สบาย ๆ ด้วยการตกแต่งดีไซน์สไตล์ Cozy เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน โทนสีส้ม-ครีมนวลตา พร้อมประดับด้วยไม้ประดับน้อยใหญ่ที่เสริมสร้างความสดชื่นสบายตา
พื้นที่ด้านล่างเปิดให้บริการในรูปแบบของคาเฟ่ชา ภายในร้านมีมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ Hyrps และ The Orange's Tea ให้กลับไปชงดื่มเองที่บ้านอีกด้วย ส่วนพื้นที่ด้านบนนั้นเปิดเป็นโฮสเทลและ Co-Working Space เล็ก ๆ ให้คนที่สนใจได้เข้ามาพักผ่อน เติมเต็มความสุขในพื้นที่แห่งนี้
Time For Tea
ชาทุกตัวภายในร้านคุณส้มเป็นจะเป็นคนเบลนด์เองทั้งหมด โดยจะคัดเลือกวัตถุดิบชาตามช่วงฤดูกาล เพื่อให้ได้รสชาติชาที่ดีที่สุด นอกจากเรื่องของการเบลนด์แล้ว วิธีการเสิร์ฟ การชงชายังหลากหลาย เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาดื่มชากันมากขึ้น สามารถสนุกกับชาได้ด้วยหลายรูปแบบ โดยเน้นในลักษณะของ Specialty Tea ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง เมื่อมาถึงแล้ว ขอแนะนำให้ลอง Pink Pie (140 บาท) เมนูชาขาวที่สกัดมาจากยอดชาขาวสายพันธ์ุที่ค่อนข้างหายากพอสมควร เสิร์ฟแบบร้อน ดื่มง่าย ปริมาณคาเฟอีนน้อย เบลนด์กับดอกไม้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ เสริมกลิ่นเสริมรสชาติซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วย Monday Not So Blue (110 บาท) ชาเขียวที่ทางร้านนำมาเบลนด์กับมะม่วง พีช และคอร์นฟลาวเวอร์ เป็นชาเขียวที่ให้ทั้งกลิ่นฟรุ๊ตตี้และกลิ่นหอมของดอกไม้ เสิร์ฟทั้งแบบร้อนแบบเย็น
ใครที่อยากจิบชารูปแบบใหม่ ต้องสั่ง Hipster Moroccan Nitro (130 บาท) เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชามินต์สไตล์ Moroccan และกาแฟไนโตร แต่นำมาประยุกต์ให้เป็นชาไนโตร โดยใช้ชาไนโตรกลิ่นมินต์ บ่มไว้ ทิ้งไว้ให้เย็น 1 คืน ตามวิธีการเดียวกันกับ Cold Brew แล้วจึงอัดไนโตรเจนลงไป โดยฟองนุ่ม ๆ จากไนโตรนี้จะช่วยให้รสชานุ่มละมุนมากขึ้น พร้อมเพิ่มกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมินต์ให้มากขึ้นด้วย
หรือจะเป็น Dark Paradise Iced Tea (120 บาท) ชาผลไม้ที่ใช้ชาดำเพียว ๆ ที่ยังไม่ได้เบลนด์กับอะไรมาก่อน ชาแก้วนี้จึงให้ความเข้มข้นเป็นพิเศษ ก่อนจะตัดรสเข้ม ๆ ด้วยผลไม้สด ตระกูลเบอร์รี่ ตระกูลส้ม แล้วเติมน้ำตาลลงไปให้ได้รสชาติหวานนิด ๆ พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผลไม้
สำหรับแก้วสุดท้าย เอาใจสายสาวกชานมด้วยเมนู Rose Chai-Latte (120 บาท) ชานมที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เพื่อทวิสต์รสชาติให้สอดคล้องกับเรื่องของวัฒนธรรมการจิบชา จากนั้นใส่นมสด ต้มดอกกุหลาบลงไปผสมด้วยเพื่อให้ชาแก้วนี้มีรสนุ่มละมุนที่ผสานเข้ากับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบได้อย่างลงตัว