Little Italy in Sathorn
สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียน คงจะรู้จักร้านนี้เป็นอย่างดี Trattoria Pizzeria Il Bolognese ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมมี่ที่เสิร์ฟเมนูแบบเดียวกับที่ชาวอิตาเลียน ทานกันในชีวิตประจำวัน
Casa Rossa
Trattoria Pizzeria Il Bolognese เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 ในชื่อ Sambuca และเปลี่ยนเป็น Il Bolognese เมื่อปี 2012 ก่อตั้งโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ผู้เป็นเจ้าของ Enoteca ร้านอาหารอิตาเลียนในซอยสุขุมวิท 29 ที่ให้บริการแบบไฟน์ไดน์นิ่งโดยตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสาทร 7 แยก 3 ปากซอยเป็นสถานทูตสิงคโปร์เข้ามาไม่ไกลนัก และเมื่อถึงร้านจะพบกับม้านั่งสีแดงสดใสขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ข้างบ้านหลังใหญ่ ที่ออกแบบและรีโนเวทโดยเจ้าของร้านซึ่งเป็นสถาปนิก
บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนนั่งทานอาหารอยู่บ้าน แต่ก็แฝงกลิ่นอายของอิตาเลียนจากการตกแต่งร้านด้วยข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมถึงแอกที่แขวนอยู่ข้างเตาอบพิซซ่า สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ ลองนั่งบริเวณกลางร้านที่มีจุดเด่นคือสามารถชมเชฟประกอบอาหารและทำพิซซ่าได้อย่างใกล้ชิด
หรือถ้าใครมาเป็นคู่หรือต้องการความเป็นส่วนตัว แนะนำพื้นที่ด้านในของร้านและโต๊ะริมหน้าต่าง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นอกร้านรองรับผู้ที่อยากนั่งรับลมหรือสูบบุหรี่Traditional Emilian Cuisine
อาหารที่ร้านจะเน้นเมนูจากแคว้น Emilia-Romagna ทางตอนเหนือของอิตาลี ที่ประกอบด้วยเมืองสำคัญที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอย่าง Bologna และ Parma และยังมีอาหารเมนูเด่นจากทั่วทุกภูมิภาคของอิตาลีให้ได้ลองสั่งกัน โดยเน้นรสชาติและวิธีการประกอบอาหารแบบดั้งเดิม ตลอดจนวัตถุดิบนำเข้าจากอิตาลี ซึ่งทางร้านให้ความสำคัญกับเครื่องปรุงหลักเป็นพิเศษ มีน้ำมันมะกอกถึง 8 ชนิด ที่ใช้กับอาหารต่างประเภทกัน น้ำส้มสายชูบัลซามิกหลายประเภทที่ใช้เวลาหมักที่แตกต่างกัน และเกลือที่ใช้เกลือจากอิตาลีในการปรุงอาหาร เพื่อที่จะให้รสชาติมีความละมุนและเค็มกำลังดี โดยทางร้านใช้เกลือ Sale di Cervia ที่ใส่กระบอกตั้งไว้ให้บริการทุกโต๊ะ
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย Polpette di Melanzane (S 290 บาท / L 400 บาท) ลูกชิ้นมะเขือม่วงก้อนใหญ่ โดยเชฟได้ทำขึ้นโดยผสมมะเขือม่วงเข้ากับซอสมะเขือเทศและสตรักเกียเทลล่าชีสเพื่อให้จับตัวเป็นก้อนและเพิ่มความเข้มข้น ทานในขณะที่ยังร้อน ๆ เพื่อสัมผัสถึงรสชาติที่ดีที่สุด เป็นเมนูที่เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
ต่อด้วยโคลด์คัท ลองสั่ง Parma Sant’Ilario (440 บาท) พาร์มาแฮมอย่างดีจาก Sant’Ilario ในเมืองพาร์มา ที่สไลซ์จนได้ชิ้นไม่หนาไม่บางเกินไป เมื่อเคี้ยวแล้วได้รสสัมผัสที่นุ่มนวลและกลมกล่อม เนื้อแทรกด้วยไขมันบาง ๆ เข้ากันได้ดีกับสตรักเกียเทลล่าชีสดิปและขนมปังซาวเออร์โดที่เสิร์ฟมาให้ทานพร้อมกัน
ต่อด้วยสลัดที่ทางร้านแนะนำ Insalata Rustica (360 บาท) ผักร็อคเก็ต แรดิชิโอ และหอมแดง คลุกเคล้ากับเดรสซิ่งน้ำส้มสายชู โรยหน้าด้วยปลาซาร์ดีนทอดกรอบ ๆ ที่ส่งตรงจากทะเลเอเดรียติก โดยเสิร์ฟมาในตะกร้าที่ทำจากแป้งกรอบ อีกหน่ึงจานที่ร้านภูมิใจนำเสนอ เพราะเป็นอาหารสไตล์ Emilia-Romagna ที่ใช้อาหารทะเลจากทะเลเอเดรียติก ซึ่งปลาซาร์ดีนที่ได้จากทะเลแห่งนี้จะมีรสชาติเค็มเป็นธรรมชาติและมีชั้นไขมันน้อย
ถัดมาเป็นโดยการผสมผสานระหว่างราวิโอลีกับเนื้อน่องวัวตุ๋น Ravioli All’Ossobucco (530 บาท) พาสต้าราวิโอลี ที่ไม่ได้เป็นเส้น ๆ แต่มีหน้าตาคล้ายเกี๊ยว ด้านในสอดไส้ Osso Bucco เนื้อน่องวัวตุ๋นสไตล์อิตาเลียน พร้อมด้วยซอสที่เพิ่มความฉ่ำให้กับเนื้อ หนึ่งในเมนูพิเศษที่หาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
มาถึงพิซซ่ากันบ้าง ที่นี่ให้ความสำคัญกับทุกวิธีการทำพิซซ่า ตั้งแต่การเตรียมแป้งที่หมักยีสต์นานถึง 72 ชั่วโมง และอบด้วยฟืน จนได้พิซซ่าแป้งหนานุ่มกำลังดี Pizza Tirolese (590 บาท) ไวท์พิซซ่าที่เบสด้วยชีสมอสซาเรลล่า ท็อปด้วยสคามอร์ซาชีส สเปคแฮมรมควัน และได้กลิ่นหอมของเห็ดพอร์ชินี
ปิดท้ายด้วย Porchetta (420 บาท) หมูย่างเนื้อชุ่มฉ่ำ ประกอบด้วยส่วนของเนื้อหมู ชั้นไขมัน และหนัง ทานกับซอสและผักย่างนานาชนิด