Next To Vesper
Via Maris ร้านอาหารร้านใหม่จากทีมงาน Foodie Collection เบื้องหลังความสำเร็จของร้าน Vesper, La Dotta และ Il Fumo ตั้งอยู่ติดกับร้าน Vesper เดิม สำหรับร้าน Via Maris นี้ได้คอนเซ็ปต์และแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การเดินทางของสองเจ้าของร้าน คุณโชติ และคุณเด็บบี้ ลีนุตพงษ์ ที่ได้เดินทางไปยังประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนอยู่บ่อยครั้ง และค้นพบเสน่ห์ของวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของอาหารที่ยังไม่แพร่หลายนักในกรุงเทพฯ
Via The Mediterranean
คำว่า Via Maris มาจากภาษาละตินที่แปลว่า หนทางแห่งท้องทะเล และยังเป็นชื่อของเส้นทางการค้าทางทะเลในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตั้งแต่ตอนต้นของยุคสำริด (Early Bronze Age) โดยเส้นทางนี้เชื่อมต่อถึง 21 ประเทศเข้าไว้ด้วยกัน
Casual & Colorful
ตัวร้านโดดเด่นด้วยสีสันสดใสสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นผนังสีฟ้าสดใสตัดกับสีส้มแดง ลวดลายกระเบื้องสไตล์วินเทจที่เข้ากันและภาพเพนท์บนผนังที่แสดงถึงที่มาของคอนเซ็ปต์ร้าน ผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์นของเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มและพื้นปูน ทำให้รู้สึกนั่งทานอาหารกับเพื่อน ๆ ได้อย่างสบาย
The Journey Through Via Maris
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ทางร้านได้เชฟ Luca Appino เชฟและพาร์ตเนอร์ของร้านอาหารอิตาเลียน La Bottega di Luca และ Pizza Massilia ร่วมกับเชฟ Francesco Deiana เชฟใหญ่ของร้านชาวอิตาลีจากซาร์ดิเนีย ผู้อยู่เบื้องหลังร้าน Vesper มาครีเอทเมนู ทั้งหมด เมนูที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นจานใหญ่สามารถแบ่งกันทานได้หลายคน โดยเชฟได้นำเครื่องเทศจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่หลายคนยังไม่รู้จักมาผสมผสานครีเอทเป็นเมนูพิเศษ นอกจากนี้ทางร้านยังเลือกใช้อาหารทะเลออร์แกนิกจากท้องทะเลไทยเพื่อเป็นการสนับสนุนการทำประมงแบบยั่งยืนและยังเชื่อว่าอาหารทะเลไทยนั้นก็ดีไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน
ใครที่มาแล้ว เริ่มจากเมนูคำเล็ก ๆ กันก่อนอย่าง Crab Bomoloni (290 บาท) ใช้แป้งโดนัทสไตล์อิตาเลียนมาทำเป็นเป็นชิ้นเล็ก ๆ สอดไส้ด้วยเนื้อปูเต็มคำ เพิ่มรสชาติด้วยการโรยเครื่องเทศ Sumac หนึ่งในเครื่องเทศจากแถบตะวันออกกลาง
ต่อด้วยเมนู Buratta & Strawberry (420 บาท) เชฟเลือกเสิร์ฟชีสบูรัตต้าเนื้อเนียนนุ่มกับสตรอเบอร์รี่สด ๆ เพิ่มความเค็มด้วย Bottarga di muggine (ไข่ปลากระบอกเทาดองเค็มตากแห้ง) ก่อนจะราดด้วยน้ำผึ้งแท้ปิดท้าย
มาถึงจานซีฟู้ดที่เลือกใช้อาหารทะเลออร์แกนิกจากท้องทะเลไทยทั้งหมดกับ This is not a Bouillabaise (590 บาท) เชฟนำเมนู Bouillabaise ดั้งเดิมมาดัดแปลง เพิ่มน้ำสต็อกจากเครื่องเทศอย่างขมิ้นชันเข้าไปเพื่อให้ได้รสชาติที่เบาขึ้น จานนี้มีทั้งเนื้อปลา ปลาหมึก หอยตลับและหอยแมลงภู่ เสิร์ฟคู่กับขนมปังกระเทียมแบบแท่ง
ได้เวลาของจานหลักอย่าง Chicken Arabesque (620 บาท) นำเนื้อไก่ชิ้นใหญ่จากฟาร์มออร์แกนิกไปซูวีให้คงความชุ่มฉ่ำเอาไว้ และนำไปปรุงกับเครื่องเทศอย่างซินนามอน ขิง น้ำผึ้ง ต้นหอม เพิ่มความน่าทานด้วยเลมอนย่าง
Soft & Tasty Cake
ขาดไม่ได้กับเมนูขนมหวานที่เชฟหยิบเอาเมนูเค้ก Semolina ขนมหวานประจำท้องถิ่นแถบตะวันออกกลางมานำเสนอกับ Basbousa (290 บาท) เค้กเนื้อนุ่ม ๆ ที่ทำจากแป้ง Semolina (แป้งข้าวสาลีที่ได้จากการนำส่วนเอนโดสเปิร์มของข้าวสาลีดูรัมมาบดหยาบ เป็นส่วนประกอบของเส้นพาสต้าอย่าง มักกะโรนี และสปาเก็ตตี้) เพิ่มมะพร้าวป่นและโยเกิร์ต เสิร์ฟพร้อมซอสโยเกิร์ต เพิ่มรสด้วยเครื่องเทศ ส้ม