The Legendary Cantonese Restaurant from Singapore
สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ได้เวลาแวะมาที่ Wah Lok (วาล็อค) ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งยอดนิยมระดับตำนานที่อยู่คู่กับโรงแรมคาร์ลตัน สิงคโปร์ มายาวนานกว่า 30 ปี และยังถูกการันตีด้วยหลากหลายรางวัลอย่าง รางวัล Singapore’s Best Restaurant จากนิตยสาร Tatler, รางวัล Singapore’s Top Restaurants จากนิตยสาร Wine & Dine รวมถึงบทความพิเศษที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ The Straits Times และ The Sunday Times ของสิงคโปร์
และในครั้งนี้ทางร้าน Wah Lok ก็ได้มาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ เพื่อเอาใจเหล่าแฟน ๆ อาหารจีนให้ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งแบบดั้งเดิมกันแบบถึงที่ โดย Wah lok สาขากรุงเทพฯ แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท
The Perfect Combination between Modern and Classic
เมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน จะพบกับบรรยากาศและการตกแต่งร้านที่แตกต่างออกไป เริ่มจากการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลงานศิลปะลายน้ำบนผนังบริเวณด้านหน้าทางเข้า พร้อมต้อนรับทุกคนให้สัมผัสถึงกลิ่นอายบรรยากาศสุดคลาสสิกของเมืองเซียงไฮ้ในอดีต ก่อนจะก้าวเข้าไปสู่ด้านในร้านที่ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันในสไตล์เรียบหรูและร่วมสมัย
โซนที่นั่งของทางร้านถูกจัดวางให้เป็นสัดส่วน โดยแต่ละโต๊ะจะถูกออกแบบให้มีพื้นที่รอบ ๆ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และที่นี่ยังมาพร้อมกับพื้นที่กว้างขวางที่สามารถรองรับได้มากถึง 194 ที่นั่ง ทางร้านยังมีห้องวีไอพีสำหรับรองรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่ว่าจะจัดงานเลี้ยงสรรค์หรืองานประชุมต่าง ๆ โดยห้องวีไอพีของที่นี่ยังมาพร้อมกับห้องน้ำในตัวเพื่ออำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Dim Sum, Please!
ห้องอาหารแห่งนี้ ได้ เชฟแลม ก๊อก เวง (Lam Kok Weng) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Wah Lok สาขาสิงคโปร์ ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารจีนมายาวนานกว่า 15 ปี มาเป็นผู้ดูแลและรังสรรค์เมนูอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งรสเลิศให้ทุกคนได้ลิ้มลอง
หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของทางร้านคงจะหนีไม่พ้นเมนูประเภทติ่มซำ ทางร้านมีเมนูติ่มซำสไตล์ต้นตำรับให้เลือกสั่งหลากหลายเมนู โดยเชฟแลมได้ครีเอตติ่มซำในรูปแบบใหม่ที่เพิ่มความพรีเมียมด้วยการนำวัตถุดิบใหม่ ๆ มาดัดแปลงให้กลายเป็นเมนูติ่มซำจานเด็ดในแบบฉบับของที่นี่
เริ่มจากเมนูติ่มซำที่ทางเชฟแนะนำอย่าง เผือกทอดซีฟู้ด (120 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เผือกทอดสอดไส้ด้วยซีฟู้ดเนื้อแน่น ก่อนจะบรรจงปั้นให้กลายเป็นทรงหงส์แสนสง่า ได้รสสัมผัสกรุบกรอบจากเผือกทอดและความชุ่มฉ่ำจากไส้ซีฟู้ดด้านใน นอกจากนี้ ยังมี ซาลาเปาอบไส้หมูแดง หรือ ป๊อหล่อเปา (120 บาท) เมนูขายดีจากสิงคโปร์ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการทำค่อนข้างนานและพิถีพิถันจนกลายเป็นซาลาเปาอบหอมกรุ่นที่ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม สอดไส้ด้วยหมูแดงรสกลมกล่อม แนะนำให้สั่งเมนูนี้ไว้ล่วงหน้า
อีกหนึ่งเมนูน่าลองอย่าง ฮะเก๋ากุ้งมังกรหอยเชลล์ (180 บาท) ที่ทางเชฟเปลี่ยนเมนูฮะเก๋าธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นติ่มซำสุดพรีเมียม ด้วยการเลือกใช้เนื้อล็อบสเตอร์ผสมกับหอยเชลล์แทนกุ้งทั่วไป นอกจากนี้ ยังมี ฮะเก๋ากุ้งบีทรูท (140 บาท) ฮะเก๋าสอดไส้เนื้อกุ้งชั้นดีผสมผสานกับบีทรูทและนำไปนึ่งจนสุกได้ที่ กลายเป็นฮะเก๋าสีแดงอมม่วงสวย
หรือจะลองเป็น ขนมจีบกุ้งหมู (140 บาท) ขนมจีบสอดไส้เนื้อกุ้งผสมเนื้อหมู ท็อปด้านบนด้วยไข่กุ้งแบบจัดเต็ม, เกี๊ยวเจนึ่งน้ำมันทรัฟเฟิล (120 บาท) เมนูไร้เนื้อสัตว์เหมาะสำหรับสายมังสวิรัติ เกี๊ยวสอดไส้ผักและเครื่องที่นำไปผัดกับน้ำมันทรัฟเฟิลจนได้ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และ เสี่ยวหลงเปา (120 บาท) เนื้อแป้งหนากำลังดีสอดไส้น้ำซุปรสเข้มข้นด้านใน
Special Menus of Wah Lok
หลังจากจัดเต็มไปกับหลากหลายเมนูติ่มซำสุดพิเศษแล้ว ทางร้านยังให้บริการเมนู A La Carte ที่คิดค้นสูตรขึ้นเป็นพิเศษ เฉพาะที่ห้องอาหารแห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูรองท้องอย่าง หนังปลากรอบผัดซอสไข่เค็ม (250 บาท) เมนูขายดีที่ใช้หนังปลาทอดกรอบคลุกเคล้ากับซอสไข่เค็มรสเข้มข้น
ต่อด้วย เต้าหู้วาล็อคซอสเอ็กซ์โอ (360 บาท) เมนูสูตรพิเศษของเชฟแลม เนื้อเต้าหู้เนียนุ่มทอดกรอบท็อปด้วยปวยเส้งสับ ราดด้วยซอสซอสเอ็กซ์โอรสกลมกล่อม เป็นเมนูที่แนะนำให้ลอง
นอกจากนี้ ยังมี กุ้งทอดครีมสลัดวาซาบิ (580 บาท) กุ้งทอดเนื้อแน่นตัวโต คลุกเคล้ากับซอสครีมสลัดวาซาบิ, ไข่ขาวห่อเนื้อปูซุปแครอท (280 บาท) ทางเชฟนำไข่ขาวห่อไส้เนื้อปูเต็ม ๆ ทานคู่กับซุปแครอทรสกลมกล่อม ส่วนใครที่มองหาจานปลา ทางร้านแนะนำ ปลาหิมะอบซอสสมุนไพร (780 บาท) เนื้อปลาหิมะอบกับสมุนไพรและตะไคร้ เสิร์ฟพร้อมกับซอสสูตรพิเศษของเชฟแลม เนื้อปลาชุ่มฉ่ำหอมกลิ่นสมุนไพรเข้ากับซอสรสกลมกล่อม
สำหรับคนรักเนื้อ ลองสั่ง เนื้อสันในออสเตรเลียผัดพริกไทยดำ (780 บาท) เนื้อสันในนำเข้าจากออสเตรเลียสุดพรีเมียม ที่ให้ความเนียนนุ่ม ละลายในปาก หั่นเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะนำไปผัดกับซอสพริกไทยดำ
และขาดไม่ได้กับเมนูที่แนะนำให้สั่งไว้ล่วงหน้าอย่าง เป็ดปักกิ่ง (ครึ่งตัว 800++ บาท, เต็มตัว 1,600++ บาท) หนึ่งในเมนูอาหารจีนที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างยาวนาน ทางร้านเสิร์ฟหนังเป็ดสไลซ์บางกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษ เครื่องเคียงและแผ่นแป้งเนื้อนุ่มบาง ซึ่งที่นี่มีแผ่นแป้งให้เลือกถึง 2 ชนิด ระหว่างแป้งธรรมดาหรือแป้งไข่ เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเท่านั้น สำหรับเนื้อเป็ด สามารถสั่งให้ทางร้านปรุงได้ถึง 2 เมนู มีเมนูแนะนำอย่าง เนื้อเป็ดทอดกระเทียมสูตรพิเศษของทางร้าน เนื้อเป็ดชิ้นพอดีคำ เนื้อนุ่มไม่เหนียว ทอดมากรอบพอดี
ก่อนจะปิดท้ายด้วย เจลลีตะไคร้อโลเวร่าผลไม้รวม (150 บาท) เมนูขนมหวานเรียกความสดชื่น เสิร์ฟมาเย็น ๆ เนื้อเจลลี่ทำจากว่านหางจระเข้ผสมกลิ่นหอมจากตะไคร้ เสิร์ฟมาพร้อมกับผลไม้สดและเกล็ดน้ำแข็ง เป็นเมนูหอมหวานที่เหมาะทานล้างปากได้เป็นอย่างดี