New Hidden Gem In Soi Nana
นับเป็นอีกครั้งที่ซอยนานาที่ตั้งอยู่ภายในย่านเก่าเยาวราชกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมีคาเฟ่ บาร์ ร้านใหม่ ๆ มาเพิ่มเติมมนต์เสน่ห์ให้กับละแวกนี้อีกครั้ง โดยล่าสุดหากเดินลัดเลาะเข้าไปในซอยย่อยยังร้านดอกไม้สุดเก๋ที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใครอย่าง Oneday Wallflowers ก็จะพบว่าหลังร้านดอกไม้แห่งนี้ถูกจัดเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อม ๆ และเมื่อผ่านบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 ก็จะนำไปสู่บาร์กาแฟเปิดใหม่ที่มีชื่อว่า Wallflowers Cafe ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง คุณลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกำพล สไตลิสต์และเจ้าของร้าน Oneday Wallflowers และ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ เจ้าของร้าน Nana Coffee Roasters โรงคั่วกาแฟและร้านกาแฟที่อยู่ระดับแนวหน้าของวงการกาแฟไทย สร้างสรรค์พื้นที่นี้ให้เป็นสถานที่ไฮไลท์ที่ทั้งคอกาแฟและคนที่ชอบดอกไม้ต้องห้ามพลาด
Coffee Bar & Flowers
คงไม่บ่อยนักที่จะเจอบาร์กาแฟที่พร้อมเสิร์ฟกาแฟคุณภาพไปพร้อม ๆ กับการได้ดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ ในร้านสวย ๆ แบบนี้ ที่ทั้งคนทำกาแฟและคนตกแต่งดีไซน์ร้านใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะคอนเซ็ปต์ของที่นี่คือการทำร้านกาแฟแนวใหม่ที่ไม่เคยมีในเมืองไทยมาก่อน ด้วยสไตล์การตกแต่งที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ให้มีกลิ่นอายของเรือนกระจกสไตล์ English Cottage ที่มีดอกไม้ ไม้ประดับต่าง ๆ รายล้อมอยู่
ผสมผสานเข้ากับสไตล์ Industrial แล้วเน้นรับแสงธรรมชาติ มีพื้นที่นั่งเอาท์ดอร์ที่เย็นสบาย แน่นอนว่าด้วยฝีมือการออกแบบของคุณลักษณ์ การดีไซน์ร้านนี้จึงเพิ่มความแตกต่างอย่างการใช้เทคนิคเผาไม้เพื่อนำเอาไปใช้เป็นผนังและประกอบอยู่กับเคาน์เตอร์บาร์ชงกาแฟ หรือจะเป็นวัสดุอย่างทองแดงก็ช่วยดึงเสน่ห์เรื่องการตกแต่งในแบบอิสระให้ออกมาสมบูรณ์แบบ โดยพื้นที่ด้านในเป็นบาร์มินิมอลสีทองแดงมันวับ ตัดกับแผ่นไม้เผาไฟที่มีรูปแผนที่โลกด้านหลัง ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ให้คนดื่มกาแฟได้ร่วมพูดกับบาริสต้าอย่างเป็นกันเอง
Nana Coffee
กาแฟที่ใช้เสิร์ฟภายในร้าน ส่วนใหญ่เป็นกาแฟ Ninety Plus หรือเป็นกาแฟคุณภาพสูงที่นิยมนำไปใช้ในการแข่งขัน เมนูเครื่องดื่มของที่นี่จึงมีเมล็ดของกาแฟให้เลือกแตกต่างกันตั้งแต่กาแฟ House Blend ของร้านไปจนถึงกาแฟชนิดพิเศษ ทุกเมล็ดที่เลือกสามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบคลาสสิกเอสเปรสโซ่และแบบฟิลเตอร์ ตามมาด้วยเครื่องชงแบบ Modbar บาร์ชงกาแฟสไตล์ Minimalist นอกจากนี้แล้วยังได้บาริสต้ามากฝีมืออย่าง คุณกานดา โทจำปา แชมป์ Thailand Barista มาร่วมครีเอทเมนูกาแฟเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ให้กับทางร้านด้วย สำหรับเมนูแนะนำของทางร้าน เริ่มต้นกันที่เมนูสุดคลาสสิกอย่าง Latte (130 บาท) ลาเต้ร้อนของที่นี่จะมีให้เลือกดื่มทั้งแบบ House Blend และ Single Origin ซึ่งระดับความเข้มขมของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดเมื่อนำมาผสมกับนมก็ให้รสชาติกลมกล่อมแตกต่างกันไปในแบบคนดื่มชอบ
ตามมาด้วย Le Boissom De Kanda (250 บาท) Signature Drink Award 2016 Carbonate Espresso with Fruit Aroma เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่คุณกานดาเป็นคนครีเอทขึ้นเป็นพิเศษ เป็นกาแฟดำผสมกับน้ำผลไม้ เพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้น โดยผลไม้ที่ทางร้านนำมาใช้นั้น ได้แก่ เลมอน ส้ม พีซ และชาเอิร์ลเกรย์ แล้วเพิ่มเท็กซ์เจอร์ของน้ำด้วย Sparkling Water ซึ่งเข้ากันกับกาแฟที่เลือกใช้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนคอกาแฟคนไหนที่กำลังมองหากาแฟที่ใช้เทคนิคพิเศษแบบอื่น ๆ อยู่ละก็ ต้องลองสั่ง Drip Coffee (250 บาท) กาแฟฟิลเตอร์ที่ใส่ใจในเรื่องของน้ำมากเป็นพิเศษ โดยตั้งค่าน้ำให้อยู่ในอุณหภูมิที่จะเหมาะสมกับกาแฟแต่ละชนิดที่ทางร้านลงมือคั่วเอง ซึ่งเมล็ดพันธุ์กาแฟของที่นี่มีความซับซ้อนในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ มีหลายฟิลเตอร์ให้ลูกค้าได้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่รสชาติที่ได้ก็จะค่อนข้างดื่มง่าย มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
หรือจะเป็นเมนู Filter - Nitro Cold Brew (250 บาท) เป็น Nitro ที่สกัดจากกาแฟดำเมล็ดพันธุ์ของ Ethiopia Nekkisse จากนั้นอัดแก๊ส CO2 เข้าไป เพื่อเร่งปฏิกิริยาทำให้กาแฟมีโฟมนุ่ม ๆ คล้ายกับฟองเบียร์ ซึ่งรสชาติของกาแฟที่ได้นั้นจะออกแนว Fruity นิด ๆ
ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยเมนู Dirty (150 บาท) กาแฟผสมนมที่ให้ความเข้มข้นอย่างมาก โดยความเข้มข้นนี้ได้จากไขมันของกาแฟที่ทางร้านนำมาสกัดใน 1 นาที คัดเฉพาะส่วนของน้ำมันเท่านั้นให้ลอยอยู่บนหน้าผิวของกาแฟ กาแฟที่ได้จึงมีรสชาตินม ๆ ผสมความเป็น Dark Chocolate หน่อย ๆ