The Wander of It All
หากพูดถึงถนนปั้นย่านสีลม เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมาไหว้เทพขอพรเทพกันที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี แต่นอกเหนือจากการสักการะองค์เทพกันตามธรรมเนียมแล้ว ภายในพื้นที่แห่งนี้ยังมีสถานที่แฮงเอาต์ให้นั่งชิลล์กันแบบครบรสอีกด้วย เต็มไปด้วยบรรยากาศของความสนุกสนาน เสียงเพลงเพราะ ๆ และอาหารไทยทวิสต์ที่มีรสแซ่บถึงเครื่อง การันตีความอร่อยโดย คุณเกด-กุลศิริ ไชยนพกุล ผู้มีประสบการณ์ทำร้านอาหารมาอย่างมากมาย อาทิ ร้าน All Six To Twelve Cafe & Social Bar และ Amontre Playroom & Brasserie ที่หลายคนอาจจะเคยมีโอกาสไปเยือน ก่อนจะรวมกันเป็นพื้นที่นั่งชิลล์ภายใต้ชื่อ Wander BKK ใจกลางย่านสีลมแห่งนี้นี่เอง
บรรยากาศโดยรวมของร้านนั้นสบาย ๆ พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยหลากหลายมุมแฮงเอาต์ภายในร้าน ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เหล็กโทนสีเคร่งขรึม ตัดกับบานเกล็ดสีขาวแดงสลับลาย ซึ่งนอกจากจะช่วยบดบังสายตาจากความวุ่นวายในซอยสีลมได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มสีสันและเพิ่มความ Casual แบบเป็นกันเองให้กับตัวร้านมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะภาพวาดกราฟิตี้สิงสาราสัตว์ทั้งหลายที่ถูกนำมาประดับไว้อย่างโดดเด่นกลางร้าน ดึงดูดสายตาไม่แพ้จังหวะและลีลาของบาร์เทนเดอร์ที่กำลังวาดลวดลาย ครีเอตรสชาติค็อกเทลอยู่ที่บาร์ใหญ่อีกมุมหนึ่งของร้าน
ด้านนอกเป็นโซน Outdoor ที่มีลมพัดเย็นสบายตลอดวัน หากใครที่อยากนั่งชิลล์เอาต์ ซึมซับบรรยากาศของผู้คนที่สัญจรไปมาภายในซอย โซนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ความรู้สึกชิลล์ไปอีกแบบ ยิ่งในช่วงวันอังคาร-เสาร์ คนที่เข้ามาทานยังจะได้สนุกไปกับวงดนตรี Live Band ระดับคุณภาพที่ขนหลากหลายแนวเพลงมาให้ได้ฟังกันตั้งแต่เพลงไทย เพลงสากลติดหูยุค 90s ถึงปัจจุบัน ไปจนถึงเพลงป๊อป-แจ๊ส ที่มาร่วมสร้างความบันเทิงตลอดทั้งคืน
All Mocktail Drinks
ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านแฮงเอาต์สุดจัดจ้านในย่านสีลม แต่หากตัดสลับภาพไปในช่วงกลางวัน ใครที่แวะเวียนมายังย่านนี้ ก็อย่าลืมแวะเข้ามาพักร้อน จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กันได้ โดยทางร้านจะครีเอตเมนูเครื่องดื่มแบบ Non-Alcohol ไว้ให้ได้ลองดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มสไตล์ Coffee Mocktail ที่ผสมผสานกาแฟเข้มข้นเข้ากับวัตถุดิบต่าง ๆ ให้มีความแปลกใหม่ หาดื่มที่ไหนไม่ได้ เช่น Yoghurt De Wander (145 บาท), Fizzy Americano (145 บาท) ที่ช่วยเติมความสดชื่นได้ดี หรือลองสั่ง Lemongrass Macchiato (145 บาท) เอสเพรสโซช็อตผสมนมสด เสิร์ฟในแก้วทรงสูง หอมกลิ่นตะไคร้บาง ๆ ที่มาพร้อมความหวานของไซรัปมะลิ เมนูถัดไปทางร้านเลือกเสิร์ฟ Lychicano (145 บาท) Coffee Mocktail แสนสดชื่น ที่นำน้ำลิ้นจี่มาผสมผสานเข้ากับกาแฟเอสเพรสโซเข้มข้น พร้อมใส่น้ำมะนาวลงไปเพื่อเติมเต็มความหวานอมเปรี้ยวให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
Taste of Thai Twist
แน่นอนว่าทางร้านได้ยกความอร่อยของหลากหลายเมนูจากร้านเดิม แล้วเพิ่มเติมความพิเศษแบบจัดเต็มในทุก ๆ จาน ครบรสความอร่อยแบบจัดจ้านสไตล์ไทย ๆ มาไว้ที่นี่ด้วย ทำให้ Wander BKK เหมาะแก่การมาแฮงเอาต์อย่างมาก ไม่ว่าจะมาปาร์ตี้ หรือนัดรวมพลกับก๊วนเพื่อน ก็สามารถมาฝากท้องกันได้หลังเลิกงาน ไล่เรียงความอร่อยกันมาตั้งแต่เมนูทานเล่นแกล้มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงเมนูอิ่มท้องที่ทานกันได้ทั้งครอบครัว เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง ผัดหมี่สี่เหม็น (160 บาท) กุ้งตัวโตที่นำมาผัดรวมกับเส้นหมี่และผักพื้นบ้านสี่สหาย ที่มีกลิ่นฉุนอย่างเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ สะตอ เมล็ดกระถิน ชะอม และผักกระเฉด ให้รสชาติจัดจ้านชวนให้อยากทานเมนูต่อไปทันทีกับ หมูกรอบผัดพริกกระเทียม (230 บาท) ซึ่งหากคุณเคยอกหักจากหมูกรอบที่ไม่กรอบ หรือหมูกรอบที่มีแต่มันล้วน ๆ ชวนอี๋แล้วละก็ ขอให้ลองสั่งหมูกรอบของร้านนี้ เพราะทางร้านเลือกหมูคุณภาพดีที่คัดเฉพาะเนื้อเน้น ๆ และมีไขมันแทรกนิดหน่อย ก่อนจะนำไปทอดจนได้หนังกรอบเนื้อฟู ยิ่งผัดเข้ากับเครื่องพริกกระเทียมยิ่งอร่อยกลมกล่อมอย่าบอกใคร
ตามมาด้วย มาม่าคั่วไก่ออนเซ็น (130 บาท) มาม่าคั่วไก่ที่มีกลิ่นหอม ๆ จากการผัดแบบติดกระทะ ตัวเส้นโรยด้วยปาท่องโก๋กรุบกรอบ ท็อปด้วยไข่ออนเซ็นเยิ้ม ๆ และราดซอสพริกเพื่อเพิ่มความนัว จากนั้นไปต่อกันที่เมนูต้นตำรับที่มีระดับความจัดจ้านถึงเครื่องอย่าง ขนมจีนแกงปูใบชะพลู (210 บาท) ขนมจีนน้ำยาปูสูตรพื้นบ้านจากจังหวัดพังงา บ้านเกิดของเชฟ ที่ทางร้านโขลกพริกแกงและแกะเนื้อปูชิ้นใหญ่ด้วยตัวเอง ก่อนจะนำมาใส่พร้อมกันกับใบชะพลู เป็นหนึ่งในเมนูไทย ๆ ที่เริ่มหาทานยากเต็มที มาแล้วพลาดไม่ได้ทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้เลือกทาน เช่น ปูผัดพริกมะนาว, กะเพราแกะ, แซลมอนโชยุรสแซ่บ ที่เหล่า Spicy Lover ต้องถูกใจ
The Greatest Adventures Happen After Cocktails
สำหรับเมนูค็อกเทล สาว ๆ ที่อยากถ่ายรูปคู่กับค็อกเทลแบบสวย ๆ แนะนำให้สั่ง Wanderer (320 บาท) ค็อกเทลสีสวยที่มาพร้อมกับหมู่มวลดอกไม้นานาชนิด และความสดชื่นจากไอริชวิสกี้, น้ำลิ้นจี่, Elderflower Liqueur และ Syrup หรือลอง Gimme Some Roses (320 บาท) ที่เอาใจสาว ๆ ด้วย Pink Gin เสริมความหวานละมุนชวนฝันด้วย Rose Liqueur และ Rose Syrup ซาบซ่าสดชื่นด้วยการเติมโซดาลงไปเชคกับไข่ขาวจนเกิดฟองนุ่มด้านบน ก่อนจะเสิร์ฟในแก้วทรงทิวลิปเเละโรยด้วยกุหลาบแห้งปิดท้ายอย่างสวยงาม
สำหรับ Into The Wood (320 บาท) แก้วสีเหลืองสดใส ก็มาพร้อมเบสรสชาติด้วย Isan Rum เหล้ารัมจากชุมชนจังหวัดหนองคาย ที่ผลิตจากอ้อยดำซึ่งมีสรรพคุณทางยาและให้กลูโคสต่ำกว่าปกติ ผสมเข้ากับสับปะรด มะม่วงพูเร และพีชลิเคียว ให้กลิ่นหอมอย่างเป็นธรรมชาติ หากจับคู่กับอาหารรสแซ่บก็ยิ่งเข้ากันดีทีเดียว