Tribute To Craftsmanship
WORKSHOP ร้านอาหารและครีเอทีฟสเปซสุดเก๋ในย่านเย็นอากาศ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Tribute To Craftsmanship หรือการชื่นชมในฝีมือของผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอาหาร เครื่องดื่ม ศิลปะ ฯลฯ ต้องการให้ทุกคนที่ได้มา สามารถเพิ่มเติมความคิดสร้างสรรค์ เสพศิลปะ ฟังเพลงดี ๆ และดื่มด่ำกับรสชาติอาหารในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
A Multifunctional Space
ด้วยความตั้งใจที่ต้องการให้ที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบไปได้เรื่อย ๆ เป็นทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ไปจนถึง Co-Working Space และ Art Gallery ดังนั้น ดีไซน์การตกแต่งของทางที่นี่ เลยเน้นเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย เน้นใช้สีขาวดำเป็นหลักเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามการใช้งาน ตามผนังประดับด้วยรูปภาพขาวดำที่ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างช่วงการสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา
มีทั้งหมด 3 โซน แบ่งเป็น โซนแรกที่รวมทั้งมุมคาเฟ่ บาร์ และที่นั่งรับประทานอาหาร ต่อด้วยมุมที่นั่งชิลล์แบบเอาต์ดอร์ และโซนห้องไพรเวทสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่ม
French-Inspired Cuisine
สำหรับอาหารของที่นี่ครีเอตเมนูโดยเชฟ Clément Hernandez เชฟชาวฝรั่งเศสมากฝีมือที่ผ่านประสบการณ์การทำงานในร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ และร้านอาหารชื่อดังหลากหลายร้าน นำเสนอเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารฝรั่งเศส เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและยังใช้เทคนิคแบบไฟน์ไดน์นิ่งเข้ามาผสมผสาน แต่เสิร์ฟในพอร์ชั่นที่ใหญ่กว่าไฟน์ไดน์นิ่งทั่วไป เพื่อให้เแชร์กันทานได้
เริ่มจากเมนู a la carte เรียกน้ำย่อยอย่าง Cured Fjord Trout (340 บาท) เนื้อปลาฟยอร์ดเทราต์ดองแล่บาง ปลาฟยอร์ดเทราต์เป็นปลาที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับปลาแซลมอน ให้รสชาติและรสสัมผัสใกล้เคียงกัน ทานคู่กับแอปเปิ้ลเขียวสับละเอียด ครีมชีส หอมแดงดอง และ Dill ก่อนจะบีบเลมอนเพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น เหมาะกับทานเล่นก่อนเริ่มทานเมนูอื่น ๆ
ส่วนใครที่มองหาเมนูจานหลัก ทางร้านแนะนำ Braised Beef Cheek (590 บาท) เนื้อส่วนแก้มวัวเคี่ยวจนได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มไม่เหนียว ราดด้วยซอสที่มีส่วนผสมของไวน์แดง เสิร์ฟคู่กับ Crispy Polenta, หัวหอมย่าง และต้นหอม
Sincere Dining Set Menu
สำหรับใครที่อยากทานแบบคอร์ส ทางร้านยังมีเซ็ตเมนู Sincere Dining (990 บาท) ไว้คอยให้บริการ โดยรวบรวม Tasting Menu ไว้ทั้งหมด 4 เมนู
เริ่มจาก Garlic Espuma จาน Starter ที่ประกอบไปด้วย ครีมเนื้อนุ่มเบาจากกระเทียมและครีม เสิร์ฟมาพร้อมกับ Potato Confit ท็อปด้วย Parsley Crust และกระเทียมฝานบางทอดกรอบ ความนุ่มเนียนของครีมรสกระเทียม เข้ากับรสสัมผัสกรุบกรอบของกระเทียมทอดได้เป็นอย่างดี
ต่อด้วย Stuffed Squid ปลาหมึกตัวเล็กยัดไส้ด้วย Ratatouille รสกลมกล่อม คลุมด้วย Squid Ink Tuile แผ่นบางกรอบทรงกลมสีดำ เป็นจานที่ผสมผสานหลากหลายเนื้อสัมผัสและให้รสชาติกลมกล่อม ทานได้อย่างเพลิดเพลิน
สำหรับจานหลัก Barbary Duck Breast อกเป็ดออร์แกนิกเนื้อนุ่มไม่เหนียว เสิร์ฟมากับพาสต้าเส้นโฮมเมดที่มีส่วนผสมของแป้งและไข่ spaetzle มีเนื้อสัมผัสหนึบหนับ คลุกเคล้ากับเห็ด Chanterelle และ Eryngii ที่ได้จากฟาร์มของเชฟเอง ราดด้วย Jus สไตล์ฝรั่งเศสรสเข้มข้น สามารถสั่ง Foie Gras (200 บาท) เพื่อเพิ่มรสมันให้กับจานนี้ได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานจานสวย Floating Island ที่ดัดแปลงจากสูตรเดิมที่ใช้ซอสวานิลลามาเป็นซอสที่มีส่วนผสมของผักชี ตรงกลางเป็นมูสไข่ขาวเนื้อฟูเบา ท็อปด้วยถั่วเคลือบน้ำตาล จานนี้ยังเป็นเมนูที่ทางเชฟ Clément ใช้แข่งขันในรายการ Iron Chef ประเทศไทยอีกด้วย จึงเป็นเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบจากท้องถิ่นของไทยอย่างผักชีและเมล็ดถั่วต่าง ๆ เป็นต้น เป็นการปิดท้ายคอร์สได้อย่างสมบรูณ์ และนอกจากเมนูอาหารแล้ว ทางร้านยังมีบาร์เครื่องดื่มและไวน์ลิสต์หลากหลายให้เลือกสั่งอีกด้วย