From Japan To Thailand
หากคุณเป็น Beef Lover คงรู้จักกันดีกับ Yakiniku Great Bangkok โอมากาเสะเนื้อสุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงโด่งดังในฮ่องกงและมาเลเซีย ในครั้งนี้ BKK. จึงอยากชวนสายเนื้อแวะมาลิ้มลองแบบไม่ต้องบินไกล กับสาขาใหม่ล่าสุดในซอยทองหล่อ 49 พร้อมนำเสนอคอร์สเมนูสุดพรีเมียมจากเนื้อวากิวพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่นให้คุณได้อร่อยกันแบบจัดเต็ม
Modern Vibes
ตัวร้านตั้งอยู่ในโครงการ YARD 49 ในซอยสุขุมวิท 49 โดดเด่นด้วยตัวอาคารสีดำที่ดุดิบเท่ ให้บรรยากาศคล้ายกับสาขาฮ่องกงด้วยเคาน์เตอร์แบบ Open Kitchen ส่วนของเคาน์เตอร์บาร์เปิดโล่ง มีเตาแบบเป็นส่วนตัวให้เชฟและพนักงานได้ดูแลลูกค้าทุกท่านที่โต๊ะด้วยเตาส่วนตัว สามารถดูกรรมวิธีการทำและพูดคุยกับเชฟไปได้ในเวลาเดียวกัน
ภายในเน้นการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นและใช้สีดำเป็นหลัก ทำให้บรรยากาศดูสงบและหรูหรา ให้บริการทั้งโซนห้องส่วนตัวสำหรับกลุ่มที่มาเป็นหมู่คระ หรือใครอยากนั่งชิลล์ ๆ ที่เคาน์เตอร์บาร์ก็เอ็นจอยไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีโต๊ะรองรับสำหรับ 4 - 6 ท่าน ติดบานผนังกระจกเปิดโล่งให้คุณได้เห็นวิวสวนเล็ก ๆ ของโครงการ ช่วยให้มื้อนี้ของคุณเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
Premium Omakase Beef
ทางร้านมีคอร์สโอมากาเสะให้เลือก 3 คอร์สด้วยกัน ได้แก่ Kiwami Omakase Course (3,900++), Premium Omakase Course (3,200 บาท++), Non Beef Omakase Course (2,800 บาท++) และคอร์สที่ทางร้านแนะนำให้วันนี้อย่าง Omakase ‘Great’ (8 Cuts) (4,900 บาท++) ที่จะเสิร์ฟเนื้อ 8 ส่วนจากเนื้อวากิวนำเข้าจากญี่ปุ่นสุดพรีเมียม สลับกันมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ
เริ่มต้นกันที่ Great Salad สลัดผักสดราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้านเสิร์ฟจานใหญ่ สามารถเอาไว้ตัดรสชาติตลอดคอร์ส ก่อนจะไปต่อกันที่ Wagyu Tartare Sashimi เนื้อส่วน Uwami ท็อปด้วยพาร์เมซานชีสและน้ำมันทรัฟเฟิลเสิร์ฟพร้อมกันกับขนมปังร้อน ๆ
จานถัดมาเป็นการเริ่มต้นคอร์สย่างกันบ้าง โดยเชฟจะใช้เลมอนในการทากระทะ คอร์สแรกนี้ใช้เป็น Yakisashi เนื้อส่วนบน Misuji (เนื้อส่วนใต้หัวไหล่) ที่เป็น Marble Cuts มีไขมันแทรกเยอะ โดยในคอร์สนี้จะเสิร์ฟแบบย่าง 7 วิ ให้สุกกำลังพอดี ได้ความชุ่มฉ่ำจากไขมันเนื้อและความหวานจากตัวเนื้อเอง สายเนื้อรับรองว่าฟิน ถัดไปเป็น Misuji Briand เนื้อส่วนกลางของ Uwami เสิร์ฟพร้อมกันกับ Chilli Powder Sauce
ก่อนจะคั่นระหว่างคอร์สกันด้วย Potato Sweet มันหวานญี่ปุ่นท็อปเนย แนะนำให้ใส่เกลือเล็กน้อยเพิ่มรสชาติ ต่อกันที่ Misuji สไลซ์เสิร์ฟแบบย่าง 3 วินาทีให้ได้ความฉ่ำของเนื้อ
และอีกหนึ่งจานน่าลองอย่าง Dai Sankaku เนื้อส่วนที่อยู่ติดกับ Misuji มีไขมันแทรกน้อยกว่าแต่ยังให้ความนุ่มฉ่ำใกล้เคียงกัน จากนั้นไปคั่นด้วย Water Jelly โมจิหยดน้ำเสิร์ฟคู่กันกับ Sugar Sauce ช่วยล้างปาก
ไปต่อกันที่ Hokkaido Scallop เนื้อหอยเชลล์ฮอกไกโดชิ้นโต ย่าง 15 นาที ให้ความฉ่ำของเนื้อหอยเชลล์ มาพร้อมกันกับ เห็ดชิตาเกะ กริลล์ 2 นาทีพ่นด้วยสาเกสเปรย์เพิ่มรสชาติ
ถัดมาเป็น Tsukune ที่ใช้เนื้อทุกส่วนของส่วนขาหน้ามาทำเป็นแฮมเบิร์กเสิร์ฟพร้อมกันกับ Egg Yolk และซอสถั่วเหลือง
Saikyo-Yaki เนื้อส่วนที่อยู่ระหว่าง Misuji และ Dai Sankaku นำไปหมักกับมิโซะและ Aging ไว้นานกว่า 3 วันทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
เนื้อส่วน Tougarashi เสิร์ฟในซุปดาชิให้ความหวานจากเนื้อและซุปกลมกล่อมเข้ากันอย่างลงตัว
เมนูไฮไลต์ประจำคอร์สอย่าง Chateaubriand (Fillet) เนื้อส่วนสำคัญที่ในวัวหนึ่งวัวมีไม่มาก นำมาย่างแบบมีเดียมแรร์ในฟรอย จากนั้นแนะนำให้ทานคู่กันกับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ และอูนิราดซอสเนยกระเทียม
ปิดท้ายกันด้วย Somen บะหมี่เย็น ๆ ชื่นใจ และของหวานแบบจัดเต็มอย่าง Monaka ไอศกรีมวานิลลาและถั่วแดงย่าง