'DiaLogic' นิทรรศการที่เป็นเสมือนหนึ่งการสังสรรค์สนทนาเพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ระหว่างนักสร้างสรรค์ต่างสาขาอย่าง สันติ ลอรัชวี กราฟิกดีไซเนอร์ผู้ทำงานคาบเกี่ยวระหว่างโลกศิลปะและดีไซน์ กับ อโณทัย นิติพน นักประพันธ์เพลง/นักดนตรีร่วมสมัย ผู้มีความสนใจในการทดลองทางเสียงและดนตรี
นิทรรศการครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากความคิดไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ความรู้สึกจุกจิก และแบบร่างกระจัดกระจาย ที่ถูกนำมาแบ่งปัน ต่อยอด ในรูปของการสนทนาระหว่างมิตรสหาย ส่งผลให้ได้รับแรงสั่นสะเทือน ถูกตั้งคำถาม ถูกจุดประกาย ได้รับการปลอบประโลม และยินยอมปล่อยให้บางอย่างที่เบลอดำเนินต่อไปบ้าง โดยพยายามสร้างร่องรอยระหว่างทางเรื่อยมา
สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้สะท้อนออกมาเป็นผลงานศิลปะที่เป็นการสังสรรค์กันระหว่างงานกราฟิกดีไซน์ ซึ่งเป็นการประกอบกันของข้อความ ลายเส้น ตัวอักษร จากกระบวนการทดลองทางการพิมพ์อันซับซ้อนละเอียดอ่อน และการทดลองทางดนตรีที่สร้างเสียงจากสิ่งของรอบตัวทั่วไปอย่าง โต๊ะ เก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงเครื่องสร้างเสียงอย่างเปียโน และเครื่องบันทึกเสียง รวมถึงผลงานที่ประกอบขึ้นจากหนังสือ ภาพถ่าย และวิดีโอทดลอง ร่องรอยเหล่านี้จะถูกนำมาจัดวางในพื้นที่นิทรรศการเพื่อสังสรรค์กับมิตรที่ร่วมงานอีกครั้ง รวมถึงผู้ชมนิทรรศการนี้ด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นผลงานโปสเตอร์ดีไซน์ที่เป็นเหมือนผลงานอรัมภบทของนิทรรศการ DiaLogic การผสมผสานระหว่างคีย์เวิร์ดจากบทละครเลื่องชื่อ และการอธิบายการทำงานร่วมกันระหว่างสองศิลปินด้วยปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ ตามมาด้วยพื้นที่แสดงหลักฐานข้อมูลของการสังสรรค์สนทนา ในรูปแบบของวิดีโอจัดวางสองจอ รวมถึงวิดีโอจัดวางถ่ายข้อความที่สันติถอดความจากบทสนทนาเหล่านั้นเป็นตัวหนังสือจากการพูดคุยในต่างกรรมต่างวาระ หากมีความเชื่อมโยงกันอย่างน่าสนใจ หรือผลงานดนตรีเชิงทดลองของอโณทัย ที่หยิบเอาวัตถุรอบตัวทั่วไปในชีวิตประจำวันมาสร้างเป็นเสียงดนตรี เชื้อเชิญให้ผู้ชมลองสร้างเสียงดนตรีขึ้นมาด้วยตัวเองจากชุดคำแนะนำที่วางไว้คู่กับวัตถุเหล่านั้น
และผลงานภาพพิมพ์ดิจิตอลของสันติที่ตั้งคำถามในประเด็นเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ โดยได้แรงบันดาลใจจากรหัส CAPTCHA และความพยายามนำเสียงหรือท่วงทำนองมาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานกราฟิกดีไซน์ หรือผลงานภาพพิมพ์ดิจิตอลที่เปรียบเสมือนการตกตะกอนทางความคิดตลอดระยะเวลา 50 ปี ในชีวิตของสันติ และผลงานที่เป็นการจับคู่กันระหว่างงานพิมพ์ดิจิตอลที่ใช้กระบวนการพิมพ์ภาพสีแต่ละชั้น ทับซ้อนกันไปครั้งแล้วครั้งเล่า กับกระบวนการพิมพ์ภาพสีที่ทับซ้อนกันทุกชั้นลงไปในครั้งเดียว เพื่อตั้งคำถามถึงคุณค่าที่แตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย หรือผลงานศิลปะจัดวางเฉพาะพื้นที่ในรูปของเก้าอี้ของอโณทัย ที่สร้างบทสนทนากับประวัติศาสตร์ของพื้นที่แสดงงานที่เป็นบริษัทจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงผลงานวิดีโอจัดวางที่อโณทัยเชื้อเชิญนักดนตรีเครื่องเคาะจังหวะฝีมือฉกาจในวงการดนตรีร่วมสมัยให้มาสร้างเสียงดนตรีขึ้นจากการเคาะเก้าอี้ตัวเดียวกันนี้ด้วยไม้เคาะจังหวะหลากชนิด ปิดท้ายด้วยผลงานวิดีโอจัดวางที่เป็นเหมือนการรวบรวมชิ้นส่วนของความคิด แรงบันดาลใจ ประสบการณ์ และหลักฐานจากการปะทะสังสรรค์สนทนามาร้อยเรียงเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เป็นเหมือนการสรุปรวบยอดแนวคิดของนิทรรศการครั้งนี้