ย้อนวันวาน ตามหาความเป็นไทยในกรุงเทพฯ กับ 9 ที่พักที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์การตกแต่งธีมไทยประยุกต์ ชวนให้ออกไปสัมผัสการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศแบบไทย ๆ ใจกลางเมืองโดยที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัด ก็สามารถเข้าถึงความเป็นไทย อินกับกระแสละครไทยแนวพีเรียดจากที่พักเหล่านี้ได้ไม่ยากเลย ส่วนจะเป็นที่ไหนบ้าง ตามรอย BKK ไปพร้อม ๆ กันเลย
AMDAENG Riverside Boutique Hotel บูทีคโฮเทลอีกหนึ่งแห่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเขตคลองสาน สร้างความประทับใจแรกเห็นด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารสีแดงชาดทั้งหลัง สถาปัตยกรรมแบบย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการตกแต่งดีไซน์ภายในสไตล์ไทยประยุกต์ ผสมผสานความเป็นไทย จีน และตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน
แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นของอำแดงคลี่ หรือนางแดงคลี่ โดยคำว่า ‘อำแดง’ นั้นเป็นคำนำหน้าชื่อที่ใช้เรียกผู้หญิงในยุคสมัยก่อน ต่อมา คุณเล็ก-พรรษพล ลิมปิศิริสันต์ และ คุณหมิ่น-วิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา คู่หูครีเอทีฟ Copy Writer และ Art Director แห่งวงการโฆษณา (บริษัท Monday) เขาทั้งคู่เกิดความสนใจและต้องการทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่พักติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีคอนเซ็ปต์หรือสโลแกนบอกเล่าถึงบรรยากาศของตัวโรงแรมได้เป็นอย่างดีว่าเป็น The Most Romantic Hotel in Bangkok เหมาะแก่คู่รักนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ได้เข้ามาฮันนีมูน ดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก
ที่นี่มีจำนวนห้องพักเพียง 10 ห้องเท่านั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- ห้อง River Suite (ราคา 9,286 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 2 ห้อง
- Riverside Grand Deluxe (ราคา 7,857 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 4 ห้อง
- ห้อง Deluxe Riverview (ราคา 6,429 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้า) จำนวน 4 ห้อง
เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องทั้งหมดเป็นของใหม่ที่ทำเลียนแบบของเก่า เพื่อคงความคลาสสิกในยุคสมัยนั้นไว้
นอกจากห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรมยังมีดาดฟ้าที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายอัฒจันทร์เล่นระดับเพื่อให้แขกผู้เข้าพักขึ้นมาชมวิวแม่น้ำด้านบน รวมถึงยังมี Cafestaurant คาเฟ่-ร้านอาหารชื่อว่า NYE หรือ ‘นาย’ คำนำหน้าชื่อของผู้ชาย เพื่อให้คอนเซ็ปต์ไปในแนวเดียวกันกับตัวโรงแรม พร้อมเสิร์ฟให้บริการเครื่องดื่มและอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นให้ได้ลิ้มลอง ที่นี่จึงกลายเป็นส่วนผสมของแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากความรักใน 3 สิ่งของผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย-จีน ที่ล้วนถ่ายทอดมายังผู้เข้าพัก หากใครได้มีโอกาสเข้าพัก จะต้องหลงรักในความคลาสสิก ความโรแมนติกของที่นี่อย่างแน่นอน
AMDAENG Bangkok Riverside Hotel
12/1 ซอยเชียงใหม่ 1 ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน
โทร. 0-2162-0138
www.amdaeng.com
www.facebook.com/AMDAENG-Bangkok-riverside-hotel-140766939908638
CHANN Bangkok Noi หรือที่มีชื่อแบบไทยว่า ‘ชาน บางกอกน้อย’ บูทีคโฮเทลแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณชุมชนริมคลองบางกอกน้อย ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Simply at Ease ซึ่งมีพื้นฐานมาจากความเชื่อมโยงของสิ่งที่อยู่รอบตัว
Chann Bangkok-Noi มีการออกแบบและตกแต่งในสไตล์บ้านไทย ที่มีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ซึ่งมีทั้งหมด 4 หลัง ทุกหลังเชื่อมต่อกันด้วยชานบ้าน แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะ การบอกเล่าถึงที่มาของชาน บางกอกน้อยที่สื่อถึงการเชื่อมโยงทุกความสัมพันธ์แต่ละส่วนเข้าไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี
แบ่งห้องพักหลัก ๆ ออกเป็น 3 ประเภท คือ Superior, Deluxe และ Suite ตามทิวทัศน์และตำแหน่งที่ตั้ง รวมทั้งสิ้น จำนวน 22 ห้อง อาทิ
- Courtyard Superior, Courtyard Deluxe, Riverside Deluxe (เริ่มต้น 5,600 บาท/คืน)
- Riverfront Superior, Riverfront Deluxe (เริ่มต้น 6,600 บาท/คืน)
- Family Suite และ Riverfront Suite (เริ่มต้น 8,800 บาท/คืน)
ภายในห้องพักมีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ให้ความอบอุ่น สบายตา อย่างโทนสีขาว ฟ้า ซึ่งสอดรับกับธรรมชาติ
ความพิเศษของแต่ละห้อง ส่วนใหญ่จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของคลองบางกอกน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยาได้รอบทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านข้าง หรือด้านหน้าห้องพักก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นประเภทห้องพักที่มีขนาดใหญ่สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะครบครันมากขึ้น เช่น ห้อง Riverfront Suite ที่มีอ่างอาบน้ำ และ Rain Shower บริเวณด้านนอกให้อาบ รวมถึงเพิ่มมุมห้องนั่งเล่นให้ได้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว
CHANN Bangkok Noi
30/1 วัดดุสิดารามวรวิหาร ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตบางกอกน้อย
โทร. 0-2435-5997
www.channbangkoknoi.com
www.facebook.com/ChannBangkokNoi
Chao Hostel (เช้า โฮสเทล) โฮสเทลสไตล์ไทยประยุกต์ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Siam@Siam เก๋ไก๋ด้วยการนำเอาวิถีชีวิตริมแม่น้ำ มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบและตกแต่งห้องพัก เช่น การนำสุ่มจับปลามาประยุกต์ทำเป็นโคมไฟ การใช้พื้นไม้ต่างระดับให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บ้านริมน้ำ ล็อบบี้ออกแบบให้โปร่งสบาย
รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเสิร์ฟยาดอง สูตรพิเศษให้เป็น Welcome Drink ทันทีที่เข้าพัก ออกแบบบริเวณที่นั่งเล่นในบรรยากาศสบาย ๆ มีมุมหนังสือที่มีชั้นหนังสือหลากหลายแนวกว่า 200 เล่ม หรือแม้กระทั่งในช่วงเย็นก็ยังมีมุมชมวิวพระอาทิตย์ตกที่บริเวณระเบียงด้านนอก ส่วนห้องพักนั้นทางห้องพักให้บริการทั้งห้องแบบ Dorm 6 เตียง (600 บาท) หรือใครที่อยากเข้าพักแบบเป็นส่วนตัวก็สามารถเลือกเป็นห้องแบบ Private (1,800 บาท) ได้ตามชอบ โดยมีให้บริการทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ อีกทั้งยังสามารถชมวิวกรุงเทพฯ ได้จากภายในห้องพักอีกด้วย
Chao Hostel
ชั้น 8 โรงแรม Siam@Siam ถนนพระราม 1 (ฝั่งตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ) เขตปทุมวัน
โทร. 0-2217-3083
www.chaohostel.com
www.facebook.com/chaohostel
Motley House โฮสเทลสุดฮิปในย่านพญาไทที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์โรงเรียนประจำ ตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียลประยุกต์ แฝงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเน้นใช้โทนสีเอิร์ธโทนที่ไม่ฉูดฉาด แล้วเพิ่มความเก๋ด้วยข้าวของเครื่องใช้สไตล์วินเทจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ไฟฉายที่เป็นตะเกียง โต๊ะเขียนหนังสือแบบโบราณ เตียงขาเหล็กแบบโรงเรียนประจำ
สำหรับห้องพัก ที่นี่มีทั้งหมด 4 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ห้องละ 1,200 บาทต่อห้อง/คืน ในลักษณะของห้องพักทั้งแบบขนาดเล็กเตียง 2 ชั้น, ห้องขนาดกลางแบบเตียงคู่และเตียงเดี่ยว ส่วนใครที่มาพักกันหลายคน สามารถจองห้องแบบ Family Room ที่สามารถนอนได้ถึง 4 คน
ในส่วนของการให้บริการด้านอื่น ๆ ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีบริการเสิร์ฟอาหารเช้า แต่ผู้เข้าพักก็สามารถเดินไปใช้บริการร้านกาแฟเท่ ๆ อย่าง Factory Cafe & Brew Bar ที่อยู่ติดกันได้ ก็อิ่มอร่อยไม่แพ้กัน
Motley House
35/17 ถนนพญาไท เขตราชเทวี
โทร. 09-5164-5074
www.themotleyhouse.com
www.facebook.com/themotleyhouse
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนโฮสเทลในย่านที่คึกคักหน่อยอย่างถนนข้าวสารแล้วละก็ Nitan Hostel โฮสเทลสุดน่ารักที่แฝงตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ บริเวณถนนข้าวสารแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย
ด้วยสไตล์การตกแต่งในโทนสีฟ้า ซึ่งออกแบบโดย M.O.L Studio ผสมผสานงานไม้สไตล์วินเทจ พร้อมเพิ่มดีเทลเก๋ ๆ ด้วยการใช้เครื่องเซรามิก ลายครามไทย ๆ มาใช้ในการตกแต่งอีกด้วย
ในส่วนของห้องพักนั้นจะเป็นในลักษณะของ Mix Dorm จำนวนทั้งหมด 3 ห้อง ในราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท มีลักษณะเป็นเตียง 2 ชั้น ใช้ม่านกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีที่เก็บของให้แก่ผู้เข้าพักแต่ละเตียงได้มีพื้นที่ส่วนตัว
Nitan Hostel
190/09-10 ถนนข้าวสาร เขตพระนคร
โทร. 09-5498-1441
www.nitanhostel.com
www.facebook.com/nitanhostel
เติมความอบอุ่นให้วันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยการพาตัวเองไปพักผ่อนในสถานที่พักท่ามกลางบรรยากาศแสนสบาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ย้อนวันวานไปกับธีมการตกแต่งแนววินเทจที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้อยู่กับครอบครัวใจกลางเมืองกับ OB OON Boutique Hotel โรงแรมสไตล์บูทีคแห่งย่านสุขุมวิท
โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นด้วยตึกสีเขียวเข้มที่ตั้งอยู่ใจกลางซอยสุขุมวิท 49 กับป้ายตัวอักษรภาษาไทยสีทองที่เขียนคำว่า ‘อบอุ่น’ ส่วนด้านในสะดุดตากับมุมล็อบบี้ โซนห้องรับแขกที่ถูกออกแบบและตกแต่งมาในสไตล์วินเทจร่วมสมัย ผลงานการออกแบบของบริษัทสถาปนิก Terra Architects
โรงแรมแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแบบบ้านคุณยายของ คุณปลาหวาน-ศิรสา มังคละพฤกษ์ ผู้เป็นเจ้าของ เต็มไปด้วยความทรงจำแสนอบอุ่นในวัยเด็กที่นำมาถ่ายทอดไว้ในทุกอณูของโรงแรม เริ่มจากมุมล็อบบี้ที่เต็มไปด้วยสารพัดขวดยาฝรั่งของคุณยายเมื่อครั้งที่ยังเคยเป็นเภสัชกรมาก่อน คุมมู้ดแอนด์โทนความเป็นบ้านพักด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ข้าวของเครื่องใช้แนววินเทจ มี Long Table กลางห้องไว้สำหรับนั่งทานอาหาร ไปจนถึงมุมไฮไลท์ที่ทางโรงแรมได้สร้างห้องขนาดกะทัดรัดกั้นฉากเป็นมุมเอกเขนก เพิ่มกิมมิกด้วยการจำลองขั้นบันไดให้แขกผู้เข้าพักขึ้นไปนั่งเล่นบนชานไม้ตามอัธยาศัย ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในบ้านเรือนไทยหลังเล็กเลยทีเดียว
นำเสนอความอบอุ่นผ่านงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะแบบคอลลาจที่เลือกใช้วัสดุกระดาษ แผ่นกระจกใส ตัวเลขไม้ รูปกราฟิกดีไซน์มาผสมผสานกัน อีกทั้งยังพิถีพิถันในเรื่องการออกแบบห้องพักแต่ละห้องให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่นี่จึงมีเพียง 8 ห้องพัก แต่มีดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป แบ่งราคาและประเภทห้องพักตามลำดับชั้น-หมายเลขห้องที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยมีเรตราคาห้องพักตั้งแต่ 800-2,500 บาท ต่อคืน (รวมอาหารเช้าและมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง)
นอกจากนี้แต่ละห้องยังครีเอทรูปแบบห้องน้ำแบบใหม่ไร้ประตู เพื่อให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของห้อง ทำให้พื้นที่ห้องแลดูกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ไม่ซ้ำกัน อาทิ ห้องน้ำลายหินอ่อนสีขาว ห้องน้ำปูกระเบื้องสีเขียวมะกอก ห้องน้ำปูกระเบื้องโมเสกสีขาว มีอ่างอาบน้ำที่ล้อมด้วยกระจกใส เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดของ OB OON Boutique Hotel ที่ต้องการให้ผู้ที่เข้าพักได้สัมผัสถึงความอบอุ่นอย่างแท้จริง
OB OON Boutique Hotel
12/13 ซอยสุขุมวิท 49/6 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย
โทร. 08-7929-9469
www.facebook.com/oboonboutiquehotel
Siam Plug In Hostel โฮสเทลสไตล์ Thai - Industrial Loft ในย่านเจริญนคร ที่ดึงเอาชื่อท่าน้ำดัง ๆ ในกรุงเทพฯ มาเป็นชื่อห้องพัก ให้อารมณ์และกลิ่นอายความเป็นไทยแบบเก๋ ๆ
ตัวโฮสเทลได้รีโนเวทพื้นที่ของตึกเก่ามาตกแต่งใหม่ แต่ยังคงโครงสร้างเดิมของตึกไว้ได้อย่างสวยงาม ที่นี่มีห้องพักถึง 6 แบบให้เลือกตามต้องการ แบ่งออกเป็น
1. ท่าราชวงศ์ (Private Room1) ห้องส่วนตัวสำหรับ 3 ท่าน ตกแต่งด้วยโทนสีไม้ (ราคา 2,000/คืน)
2. ท่าตากสิน (Dormitory1) ห้องพักรวม 10 เตียง แบบ Capsule มี 6 เตียงเดี่ยว (ราคา 600/คืน) 2 เตียงคู่ (ราคา 1,200/คืน)
3. ท่าเตียน (Private Room2) ห้องส่วนตัวสำหรับ 3 ท่าน ตกแต่งด้วยโทนสีขาว (ราคา 2,000/คืน)
4. ท่าช้าง (Dormitory2) ห้องพักรวม 12 เตียง แบบ Connection Capsule มี 8 เตียงเดี่ยว (ราคา 600/คืน) 2 เตียงคู่ (ราคา 1,200/คืน)
5. ท่ามหาราช (Dormitory3) ห้องพักรวม 8 เตียง แบบ Bulk Bed มี 8 เตียงเดี่ยว (ราคา 600/คืน)
6. ท่าพระอาทิตย์ (Dormitory4) ห้องพักรวม 6 ท่าน แบบ Bulk Bed มี 6 เตียงเดี่ยว (ราคา 3,000/คืน) มาพร้อมห้องน้ำรวม อินเทอร์เน็ต Wi-Fi พื้นที่ส่วนกลางสำหรับผู้พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
บริเวณด้านล่างยังเปิดเป็นคาเฟ่เท่ ๆ ในชื่อ Siam Plug In Cafe & Bistro ที่พร้อมเสิร์ฟเมนู All Day Breakfast ทานง่าย สไตล์ไทยฟิวชั่น นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่ และเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนู ให้ทุกคนได้แวะเวียนไปเช็คอินและชิมกัน
Siam Plug In Hostel
262 ถนนคลองตันบุรี เขตคลองสาน
โทร. 09-6969-7456
www.siam-plug-in-th.book.direct
www.facebook.com/SiamPlugIn
SSIP Boutique Dhevej Bangkok โรงแรมบูทีคที่เปิดให้บริการมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยความคลาสสิกของสไตล์การตกแต่ง และการให้บริการที่เป็นกันเอง จึงทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวในละแวกนี้โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งต่างก็ประทับใจในความเป็นเอกลักษณ์ไทยที่ทางโรงแรมได้สอดแทรกเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนไว้ได้อย่างแยบยล
แต่เดิมที่นี่เป็นสมบัติของครอบครัว ตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณย่า หม่อมราชวงศ์นวลขจร กมลยะบุตร ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระอนุชาธิราชในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงได้รับแรงบันดาลใจการสร้างจากข้าวของเครื่องใช้ของคนไทยยุคสมัยนั้น มาถ่ายทอดผ่านที่พักให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงวัฒนธรรม ด้านความเป็นอยู่ของคนไทยอย่างถ่องแท้
โครงสร้างเป็นอาคารสีขาว ภายในตกแต่งในสไตล์โคโลเนียล มีการคัดสรรข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นของโบราณสะสมที่ใช้งานจริง ๆ แต่ละชิ้นอายุประมาณ 80-100 ปี ทั้งสิ้น
ในส่วนของห้องพักแบ่งออกเป็น 4 ประเภท มีจำนวนทั้งหมด 19 ห้อง แต่ละห้องเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย
- ห้อง Deluxe Double Bed (ราคา 2,200-3,500 บาท/คืน) ห้องพักเตียงขนาดใหญ่ ที่ฉลุด้วยลวดลายโบราณ
- ห้อง Deluxe Twin Bed (ราคา 2,200-3,500 บาท/คืน) ห้องพักเตียงคู่ ขนาดมาตรฐานทั่วไป
- ห้อง Suite Triple Bed (ราคา 3,500-4,500 บาท/คืน) ห้องพักสำหรับ 3 คน สามารถเลือกเตียงได้ทั้ง King Bed หรือ Single Bed พร้อมห้องนั่งเล่นส่วนตัวตอบโจทย์สำหรับผู้เข้าพักที่มากันเป็นครอบครัว
- ห้อง Honeymoon Suite Four Poster Bed (2,200-3,500 บาท/คืน) ตกแต่งด้วยเตียงสี่เสาแบบโบราณที่หาได้ยากในปัจจุบัน
ทุกห้องบริการอาหารเช้า Complimentary ขนมไทย อีกทั้งยังสอดแทรกด้วยกิมมิกเล็ก ๆ อย่างแป้งร่ำ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ทราบถึงวิถีการใช้เครื่องหอมคนไทยสมัยก่อน ทั้งหมดนี้นับเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ล้วนแต่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี
SSIP Boutique Dhevej Bangkok
42 ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต
โทร. 0-2282-1899
www.ssiphotelthailand.com
www.facebook.com/ssipboutique
The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในย่านพระนคร พื้นที่ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเรือนพักอาศัยของพระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยห้องพักถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมแห่งสยาม ตกแต่งด้วยงานศิลปะทั้งแบบไทยดั้งเดิมและร่วมสมัย ท่ามกลางบรรยากาศสุดร่มรื่น
ห้องพักของ The Raweekanlaya Bangkok ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 38 ห้อง (เริ่มต้น 2,800 บาท/คืน รวมอาหารเช้า) มีลักษณะของการผสมผสานระหว่างแบบไทยกับแบบร่วมสมัย ออกมาในลักษณะของสไตล์โคโลเนียล
ภายในห้องพัก มีการสอดแทรกงานจิตรกรรมบนผนังและงานเขียนกาพย์กลอนที่มีชื่อเสียงของรัตนโกสินทร์ เพื่อสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของไทยและเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านบทกวีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เขียนอย่างประณีตด้วยฝีมือช่างไทย
ส่วนประเภทของห้องพักนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน City Wing ที่เห็นทิวทัศน์ของบ้านเรือน ถนนย่านกรุงเกษม และโซน Garden Wing ที่เห็นวิวสวนสวยภายในโรงแรม ในขณะที่ห้อง Imperial Spa ก็จะช่วยให้ทุกคนผ่อนคลายกับวิถีการนวดแผนโบราณแบบไทยแท้ โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการถ่ายทอดจากสถาบันสุขภาพโพธาลัย นอกจากนี้ภายในโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำและบาร์ริมสระน้ำ ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ให้ความสดชื่นตลอดทั้งวันอีกด้วย
The Raweekanlaya Bangkok Wellness Cuisine Resort
164-172 ถนนกรุงเกษม เขตพระนคร
โทร. 0-2628-5999
www.raweekanlaya.com
www.facebook.com/RaweekanlayaHotel