ว่ากันว่าการออกเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้ง สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับคนที่ออกเดินทางได้อยู่เสมอ ตามคำกล่าวที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” เพราะการสัมผัสและรับรู้ด้วยตัวเองย่อมมอบประสบการณ์ตรงให้กับเจ้าตัวได้ดีที่สุด เช่นเดียวกับสาวน้อยคนนี้ เพลง-ต้องตา จิตดี ศิลปินวง Plastic Plastic ที่นอกจากจะเคยฝากผลงานเพลงป๊อบน่ารัก ๆ เอาไว้ให้คอเพลงได้ฟังกันแล้ว ล่าสุดเธอยังได้เริ่มต้นบทบาทใหม่ในการถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางผ่านภาพวาด ภาพถ่าย ลายมือ และสำนวนการเล่าเรื่องแบบเป็นกันเองทางเพจ Sunshine Is Over Me อีกด้วย ส่วนหลากหลายเรื่องราวความประทับใจของเธอจะน่าติดตามและสามารถสร้างสรรค์แรงบันดาลใจดี ๆ ให้เราได้มากน้อยแค่ไหน ครั้งนี้ BKK. ขอชวนทุกคนร่วมออกเดินทางท่องเที่ยวไปตาม ‘เพลง’ พร้อม ๆ กันเลย
จากศิลปินเพลงสู่บทบาทใหม่ของการทำเพจท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า เพลง-ต้องตา เติบโตมาในเส้นทางดนตรีและเป็นที่รู้จักในนามศิลปินวง Plastic Plastic แต่ด้วยความที่เธอนั้นต้องเดินทางไปเรียนต่อยังต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียนต่อด้านภาษาแบบระยะยาวที่ Brighton ประเทศอังกฤษ 4 เดือน และประเทศนิวซีแลนด์ นานถึง 6 เดือน ซึ่งภายหลังจากที่เรียนจบจากทั้ง 2 ประเทศนี้ เธอก็ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวต่อด้วยตัวเอง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกล้าที่จะออกไปเรียนรู้โลกกว้าง และหลงรักการท่องเที่ยวไปโดยปริยาย
เมื่อบวกเข้ากับความชอบส่วนตัวในเรื่องของการถ่ายรูปด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เธอเริ่มศึกษาแนวทางการถ่ายภาพอย่างจริงจัง โดยเฉพาะภาพถ่ายแนว Landscape เกี่ยวกับวิวธรรมชาติและบรรยากาศวิถีชีวิตของผู้คน ก่อนจะนำไปเผยแพร่ผ่านทาง Facebook ส่วนตัว จนกระทั่งมีคนเริ่มติดตาม รวมถึงสอบถามเข้ามาเรื่อย ๆ เกี่ยวกับแพลนการเดินทางท่องเที่ยวของเธอในแต่ละครั้ง จึงตัดสินใจทำเพจท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ที่ชื่อว่า ‘Sunshine Is Over Me’ เพื่อเป็นการต่อยอดอะไรบางอย่างที่สามารถเป็นประโยชน์ สร้างสรรค์แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับคนอื่น ๆ ที่กำลังติดตามเธออยู่ได้มากขึ้น
บันทึกนักเดินทางใต้แสงแดดอุ่น
จากวรรคหนึ่งในบทเพลง Gondry (공드리) ของ ‘Hyukoh (ฮยอกโอ)’ ศิลปินวงเกาหลีที่เธอชื่นชอบ ซึ่งมีเนื้อร้องในทำนองที่ว่า ‘Sunshine Is Over Me’ เกิดเป็นการจุดประกายไอเดียให้เลือกนำมาใช้ตั้งชื่อเพจ
ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่เธอใช้ชื่อนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบถ่ายรูปตอนที่มีแสงแดดเสียเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยถนัดถ่ายภาพตอนโพล้เพล้หรือตอนกลางคืนสักเท่าไหร่ เลยกลายเป็นที่มาของประโยคเด็ดที่ว่า ‘Sunshine Is Over Me’ โดยเธอยังเสริมต่อด้วยรอยยิ้มอีกว่า “เหมือนเป็นความอุ่นใจที่ว่าวันนี้มีแสง เรารู้สึกดีที่วันนี้มีแสงอยู่” ราวกับแสงแดดนั้นเป็นความหวังและความอุ่นใจเล็ก ๆ ให้กับเธอทุกครั้งที่กดชัตเตอร์บันทึกภาพความประทับใจ
แน่นอนว่า นอกจากเรื่องของมู้ดโทนสีภาพสุดละมุนตาที่ดึงดูดใจให้คนคลิกเข้ามาที่เพจแล้ว ยังโดดเด่นด้วยวิธีการเล่าเรื่องในแบบฉบับของเพลงอีกด้วย อย่างการสร้างแพลนด้วยภาพวาดการ์ตูนที่เธอเป็นคนวาดขึ้นเองด้วยลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยนำมาใช้เป็นภาพปก เพื่อสรุปแพลนการเดินทาง อธิบายอย่างชัดเจน แล้วโพสต์ก่อนเข้าสู่ภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
อีกส่วนหนึ่งคือการนำเอาดนตรีบรรเลงมาผสมผสานเข้ากับการเล่าเรื่อง อย่างทริปเที่ยวโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและดนตรีประกอบที่เพลงเป็นคนบรรเลงเปียโนด้วยตัวเอง เป็นการเพิ่มมิติให้เรื่องราวการเดินทางของเธอดูมีกิมมิกและน่าสนใจในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ท่องเที่ยวสไตล์ ‘เพลง-ต้องตา’
ด้วยความที่เพลงชอบภูเขาเป็นทุนเดิม สไตล์การท่องเที่ยวของเธอจึงเน้นความโลคอลนิด ๆ ผ่านการเสาะหาสถานที่ที่มีความโลคอล เช่น ทริปเที่ยวฟินแลนด์ ที่เมือง Helsinki ซึ่งเพลงได้ลองใช้บริการผ่าน Airbnb Experience ที่จะมีการจัดทริปเล็ก ๆ ในแบบฉบับของคนท้องถิ่น อย่างประสบการณ์การเดินทางเข้าป่าเพื่อไปเก็บเห็ดมาทำอาหาร แนะนำโดยชาวพื้นถิ่นที่ทำอาชีพเก็บเห็ดมาอย่างยาวนาน
หรือทริปนิวซีแลนด์ กับประสบการณ์ปั่นจักรยานรอบภูเขา ในเส้นทางแปลกใหม่ที่เมื่อมองลงมาด้านล่างก็จะพบกับวิวสวย ๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีเพียงจุดประสงค์ในเรื่องการถ่ายรูปหรือชมวิวสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเที่ยวที่ทำให้ได้ซึมซับเรื่องราวความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนั้น ๆ ไปในตัวด้วย
ทริปสุดประทับใจ
มีเรื่องราวประทับใจมากมายเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง หากแต่ทริปที่เพลงชอบมากที่สุดคือทริปนิวซีแลนด์ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยเขียนเล่าผ่านพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า ‘Once in the Wild’ มาแล้ว เป็นการเล่าถึงโมเมนต์ความประทับใจระหว่างที่ไปเรียนภาษาที่นั่น พร้อมได้เที่ยวไปในตัว ซึ่งตอนนั้นเธอค่อนข้างโชคดีที่ได้รับการดูแลจากครอบครัวโฮสต์เป็นอย่างดี โฮสต์เข้าใจว่าเพลงชอบถ่ายรูปแบบไหน และทันทีที่รู้ว่าเพลงชอบถ่ายรูปสัตว์ ชอบภูเขาสูง ชอบทะเลสาบ พวกเขาก็พร้อมจะพาเธอไปยังที่เที่ยวธรรมชาติตามอย่างที่เธออยากไป
เพลงเล่าถึงประสบการณ์สุดตื่นเต้นเมื่อครั้งออกเดินทางไปกับโฮสต์ชาวนิวซีแลนด์ว่า “มีครั้งนึงที่โฮสต์เขาพาไปบ้านญาติ มันจะเป็นที่ที่แบบห่างไกลจากทุกอย่าง ไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเลย เหมือนเป็นทางราบเข้าไปที่ไหนก็ไม่รู้ เหมือน Middle of Nowhere แล้วตรงนั้นจะมีฟาร์มอยู่ฟาร์มนึง ซึ่งเป็นบ้านของเขา ตอนขับเข้าไปต้องผ่านถนนที่มีแม่น้ำ แล้วเราต้องเอารถลงแม่น้ำ โดยต้องเป็นรถ Jeep เท่านั้นที่ลุยแม่น้ำเข้าไปในบ้านได้ แล้วในบ้านเขาเลี้ยงกวางมูสไว้ด้วย น้องสาวของโฮสต์ แฟนของเธอทำอาชีพ Farm Manager และเป็น Hunter ที่ต้องออกไปล่าสัตว์ แล้วคือวันนั้นเห็น ๆ เลยว่าเขาออกไปล่ากวางมา ซึ่งการล่าของเขาไม่ได้เป็นการล่าด้วยปืน แต่ล่าด้วยธนู เป็นประสบการณ์แปลกใหม่สุด ๆ ที่น่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว”
นอกเหนือจากทริปต่างประเทศแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทริปในประเทศที่เธอรู้สึกประทับใจตลอดการไปเยือนครั้งล่าสุดด้วย “เพลงเพิ่งไปดอยผาฮี้มาค่ะ เป็นดอยที่เขาปลูกกาแฟกัน พอขึ้นไปก็คือจะเห็นกาแฟตากอยู่เต็มเลย ที่ที่เพลงไปพักจะเป็นที่พักแบบวิวเขา เห็นเขาขุนน้ำนางนอนด้วย เจ้าของที่พักเป็นชาวอาข่าที่พูดภาษาอาข่า แล้วก็พูดไทยได้นิดหน่อย เขาก็เป็นเชฟด้วยค่ะ ตอนที่ไปพักก็ได้กินอาหารดอยอาหารอาข่า จำพวกผักที่ปลูกบนดอย ที่พิเศษมาก ๆ ก็คือมีชุดดริปกาแฟให้ตอนเช้า คือตื่นมา 7 โมงครึ่ง เขาก็จะมีเซ็ตดริปให้ แล้วก็ไปตั้งตรงโต๊ะที่อยู่ริมผา บรรยากาศชิลล์มาก”
แรงบันดาลใจในการท่องเที่ยว
แรงบันดาลใจส่วนใหญ่ของเธอมาจากการที่ได้ไปพบเห็นสิ่งที่ชอบ อย่างเพลงเป็นคนชอบธรรมชาติ การได้ไปอยู่ที่ตรงนั้นก็เหมือนได้รับสิ่งใหม่ ๆ จากการได้ทำความรู้จักคนในท้องถิ่น แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจาก influencer ชาวออสเตรเลียคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘Emilie’ โดยไอดอลคนนี้ใช้ชื่อ Account ใน Instagram ว่า ‘helloemilie’ เป็นคนที่ชอบถ่ายภาพ Landscape เช่นเดียวกับเพลง มีเอกลักษณ์ในการถ่ายภาพตรงที่การหันหลังคู่กับสถานที่เที่ยว เรียกได้ว่าภาพสวย ๆ ของเธอคนนี้แหละที่สร้างแรงบันดาลใจให้เพลงออกเดินทางไปเยือนประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวย ๆ อย่างนิวซีแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีหนังสือท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพลงมักชอบอ่านเพื่อสร้างแรงบันดาลใจอยู่เสมอ อย่าง Guide Book ที่เกี่ยวกับ Cabin ซึ่งโดยปกติเพลงเป็นคนชอบบ้านที่มีลักษณะเหมือน Cabin อย่างมาก เช่น ประเทศนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ นิวซีแลนด์ ที่มักปรากฏบ้านในลักษณะนี้อยู่กลางเขา
อีกหนึ่งเล่มที่เมื่ออ่านแล้วมักสร้างแพสชั่นใหม่ ๆ ให้กับเธอก็คือ ‘Another Escape’ นิตยสารที่มีแนวการถ่ายภาพธรรมชาติตามสไตล์ที่เพลงชอบ รวมถึงหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กอื่น ๆ อีกมากมาย ที่บอก Route เส้นทาง การเดินทาง และสถานที่ที่ต่าง ๆ ที่ไม่แมสจนเกินไปของแต่ละประเทศ เพื่อจะได้ซึมซับวัฒนธรรม ทำความรู้จักกับผู้คนด้วยตัวเอง
มองภาพผ่านสายตาของเพลง
โดยส่วนตัวแล้วเพลงจะไม่ค่อยได้ใช้เลนส์ Wide สักเท่าไหร่ ซึ่งกล้องรุ่นที่ใช้อยู่คือ SONY A7 Mark II แล้วใช้เลนส์ 55 เพื่อใช้ถ่ายเจาะ อย่างการใช้ถ่ายภาพชัดตื้นตอนไปเก็บเห็ดก็จะเน้นถ่ายเห็ดบนมือแบบใกล้ ๆ รวมถึงถ่ายเจาะภาพผู้คนมากกว่า ส่วนการถ่ายภาพ Landscape หากอยากได้ภาพกว้างจริง ๆ ก็จะใช้ไอโฟนถ่าย บางครั้งถ่ายภาพเสร็จแล้วก็ต้องนำมาครอปภาพอีกที ต้องเช็คหลังกล้องอีกทีว่ารูปนี้ควรครอปตรงไหนถึงจะสวย เพื่อให้ได้องค์ประกอบภาพที่เหมาะสม สำหรับเรื่องแต่งภาพเพลงจะค่อย ๆ ปรับฟิลเตอร์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยจะมีฟิลเตอร์ของตัวเองที่สร้างขึ้นมาใหม่ ก่อนจะค่อย ๆ ปรับไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่าในอนาคต หากมีผู้สนใจแนวการถ่ายภาพของเธอมากขึ้นก็อาจจะมีการสร้างฟิลเตอร์ใหม่ ๆ ให้ได้ลองใช้ก็เป็นได้
ไอเท็มคู่ใจระหว่างออกเดินทาง
ทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยว เธอมักจะพกสมุดติดตัวไปด้วยเสมอ เพื่อจดบันทึกเรื่องราวความประทับใจที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง ซึ่งบางครั้งก็จะนำเครื่องปรินต์โพลารอยด์ไปด้วย เพื่อปรินต์แล้วนำมาแปะลงในไดอารี่ สิ่งต่าง ๆ ที่ถูกจดบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัวของเธอ บางส่วนก็จะถูกนำมาแต่งเป็นเพลง อย่างเพลง ‘The Trip’ ในอัลบั้มแรกของ Plastic Plastic ซึ่งเกิดขึ้นตอนเธอไปเที่ยวเชียงใหม่ และอีกหลาย ๆ บทเพลงที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ‘Last Weekend’ เมื่อครั้งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และเพลง ‘The Cabin’ ที่บอกเล่าถึงสถานที่ที่เธอชอบนั่นเอง
สิ่งที่ได้รับจากการท่องเที่ยว
การออกเดินทางเสมือนเป็นการเปิดโลก เพราะเธอเองรู้สึกว่าบนโลกใบนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกเยอะมาก เรียนรู้โลกอีกฝั่งว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร มีข้อความจากหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเธอชอบเป็นพิเศษ และถูกหยิบยกมาใช้อยู่บ่อยครั้งคือ “If you haven’t traveled, it’s like you’ve only read one page.” ซึ่งหากเราไม่ได้ท่องเที่ยว ก็เหมือนอ่านหนังสือแค่หน้าเดียว ซึ่งถ้าเรามีหนังสือหนึ่งเล่ม แต่ได้ลองอ่านเพียงหน้าเดียว ก็อาจจะพลาดโอกาส พลาดสิ่งดี ๆ ที่ได้เห็นก็ได้ การได้ออกไปทำความรู้จักโลกใบใหม่ เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากคนที่เขาไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับเรา ก็จะได้เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน อีกทั้งยังได้เพื่อนใหม่ ได้มิตรภาพดี ๆ กลับมาอีกด้วย
ต้นแบบในด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
แรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่างของเธอมักเกิดขึ้นจากสิ่งรอบตัว เวลาออกเดินทางไปเที่ยวหรือทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ แล้วเห็นเขามีแพสชั่นอะไรเป็นพิเศษ ก็จะนำมาปรับใช้ อย่างเรื่องการทำงานเพลง ทำโปรเจ็กต์ Studio Jiddee ร่วมกับพี่ชาย ที่เธอได้เรียนรู้ ได้ที่ปรึกษาในการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
อัพเดตผลงานล่าสุด
หลังจากออกหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มหนึ่งไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้เธอก็กำลังเตรียมทำหนังสืออีกเล่มให้ได้อ่านกันอีกครั้ง โดยเล่มนี้จะมีความคราฟต์และน่าอ่านมากยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะได้อ่านกันประมาณหลังกลางปี 63 นี้ ในส่วนของเพจ ‘Sunshine Is Over Me’ ก็จะมีการอัพเดตทริปการเดินทางครั้งใหม่อยู่เรื่อย ๆ ผ่านแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีความหลากหลายและน่าติดตามมากขึ้นอย่างแน่นอน
มาถึงตรงนี้ เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนคงได้รับพลังความสดใสและพบมุมมองใหม่ ๆ จากประสบการณ์การเดินทางของเธอคนนี้อยู่ไม่น้อย นับเป็นการส่งต่อเรื่องราวดี ๆ และทำความรู้จักกับ 'เพลง-ต้องตา จิตดี' มากขึ้น ในฐานะศิลปินนักเดินทางที่ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านการเล่าเรื่องและภาพถ่ายละมุนตาได้อย่างน่าประทับใจ