เชียงใหม่ จังหวัดทางภาคเหนือที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันแสนมีเสน่ห์แบบล้านนา สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทางธรรมชาติ โรงแรมที่น่าเอนกายลงพัก และคาเฟ่ชิค ๆ มากมายท่ามกลางความหลากหลายของเชื้อชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในแต่ละวัน สร้างสีสันให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองที่ไม่มีวันหลับใหล ครั้งนี้ BKK ขอนำเสนอรวมคาเฟ่ ร้านอาหาร และที่พักที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเชียงใหม่ แพ็กกระเป๋าแล้วเตรียมไปชิค ชิม ชิลล์ แบบฉบับ BKK ได้เลย
ครั้งนี้เราขอนำเสนอวิธีการเดินทางที่ง่าย และยังสะดวกสบาย ที่จะพาเราไปเที่ยวในแต่ละสถานที่ของเชียงใหม่ได้แบบชิลล์ ๆ ด้วยแอพพลิเคชั่นจองรถจาก Rent Connected เพียงแค่มีใบขับขี่ก็สามารถจองรถได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน
1.โหลดแอพพลิเคชั่น Rent Connected แล้วล็อคอินเข้าสู่ระบบ
For IOS
For Andriod
2. ทำการจองรถ เลือกรุ่นรถที่ต้องการเช่า - สถานที่ - วันเวลา ที่ต้องการใช้รถและคืนรถ รวมถึงบริการเสริม เช่น ประกันภัยเต็มรูปแบบ หรือขอที่อยู่ใบเสร็จรับเงิน และกรอกรหัสโปรโมชั่นส่วนลด (หากมี)
3. ชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง บัตรเครดิต เคาน์เตอร์เซอร์วิส PayPal หรือ Internet Banking ก็สามารถรอรับรายละเอียดการจองผ่านอีเมลและแอพพลิเคชั่นได้
เท่านี้ก็เรียบร้อย เดินทางไปรับรถที่สนามบินและไป ชิค ชิม ชิลล์ ที่เชียงใหม่กันได้เลย
CAFES
Graph Cafe ร้านกาแฟสไตล์อินดัสเทรียลที่ผสมผสานความเป็นมินิมอล ผ่านความครีเอทีฟที่มาในรูปแบบของกาแฟแก้วซิกเนเจอร์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดเท่กลางโครงการ One Nimman ด้านในเป็นพื้นที่นั่งขนาดกะทัดรัด ท่ามกลางบรรยากาศขรึม เท่ แต่แฝงด้วยความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ และผนังอิฐบล็อกดิบเปลือยโชว์โครงสร้าง เหมาะกับการหามุมนั่งจิบกาแฟแบบส่วนตัว
จากความตั้งใจและฝึกฝนฝีมือการชงกาแฟมานานหลายปี รวมถึงได้คัดเลือกหลากหลายเมล็ดกาแฟพันธ์ุดีจากเกษตรกรที่ทำไร่ต่าง ๆ ในประเทศไทย นำมาทดลองและชงอย่างพิถีพิถันเป็นกาแฟที่เกิดจากส่วนผสมใหม่ ๆ เพื่อให้คอกาแฟได้สัมผัสกับรสชาติกาแฟแท้ รวมถึงรูปแบบของกาแฟ Nitro เป็นร้านแรก ๆ ในเชียงใหม่
ใครที่ชอบรสชาติเข้ม ๆ ผสมกับความหวานซ่อนเปรี้ยว แนะนำให้ลอง GRAPH No.16 or Boy with Girlfriend (125 บาท) การผสมผสานระหว่างมะนาวฝานกับน้ำตาลทรายแดงและโซดาในปริมาณที่ลงตัว เทเอสเพรสโซ่ที่ถูกเบลนด์ด้วยเมล็ดกาแฟสามแหล่งลงไปรวมเป็นรสชาติที่น่าสนใจ และ Lost Garden (135 บาท) รสชาตินุ่มนวลจากกาแฟไนโตรโคลด์บรูที่มีส่วนผสมของน้ำสกัดกุหลาบให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ
Graph one nimman
โครงการ One nimman
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 08-6567-3330
www.facebook.com/graphonenimman
จากสูตรขนมอบของคนในบ้าน กลายมาเป็น Forest Bake ร้านเบเกอรี่โฮมเมดน่ารักท่ามกลางบรรยากาศป่าเขา ที่ต่อเติมจากบ้านเดิมของ ลิน-นลินนา ลี เจ้าของร้าน ด้วยความรักและชื่นชอบในศิลปะ รวมถึงการทำอาหาร จึงอยากให้คนอื่นได้ลองชิมสูตรขนมอบฝีมือคุณป้าและคุณแม่ คงไม่ต้องแปลกใจที่ร้านเบเกอรี่โฮมเมดเล็ก ๆ แห่งนี้จะเต็มไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติราวกับอยู่ในป่าเขา ด้วยสไตล์ที่ชัดเจนของคุณลินเจ้าของร้านเองก็เป็นแรงบันดาลใจให้การตกแต่งของร้าน ออกมาเป็นบ้านหลังน้อยที่ถูกเติมเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าอบอุ่นสบายตา และโทนสีไม้สไตล์วินเทจเข้ากันกับชื่อ รวมถึงวัตถุดิบที่เลือกใช้ ก็ล้วนใส่ใจในความออแกนิคจากธรรมชาติ
เมนูแนะนำที่ต้องรีบไปให้ทันก่อนหมดช่วงเช้า Canelé Drops (75 บาท) คาเนเล่ชิ้นเล็กพอดีคำและยังกรอบนอกนุ่มในด้วยวัตถุดิบของไข่แดงและน้ำตาลที่คลุกเคล้าเข้ากันกับแป้ง ตามด้วย Newyork Sticky Bun (85 บาท) ขนมอบหอมซินนามอนที่ทางร้านผสมเอง เสิร์ฟพร้อมวอลนัทราดคาราเมลด้านบน ทานคู่กับกาแฟร้อนในยามเช้า
Forest Bake
ซอยหน้าวัดเกตุ
เปิดทุกวันพุธ - วันจันทร์ 10.30 - 17.00 น.
โทร. 09-1928-8436
www.facebook.com/forestbake
หากกำลังมองหาคาเฟ่เก๋ ๆ น่านั่ง ไว้ถ่ายรูปลงอินสตราแกรมแบบไม่ซ้ำใครแล้วละก็ต้องมาที่ The Barisotel by The Baristro คาเฟ่สุดเก๋สีขาวสะอาดตาย่านนิมมานเหมินทร์ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านกาแฟ ตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอล พร้อมมุมสวยใหัถ่ายรูปมากมาย รวมทั้งเคาร์เตอร์บาร์ให้เห็นฝีมือการชงกาแฟของเหล่าบาริสต้า
เมนูกาแฟและขนมโฮมเมดมีให้เลือกหลากหลาย ที่แต่พลาดไม่ได้ต้องลองชิม Green Coconut (125 บาท) รสชาติเข้มของชาเขียวที่ผสมกับน้ำมะพร้าวหวานหอมชื่นใจ อีกหนึ่งเมนูแนะนำ Nitro Orange (145 บาท) กาแฟไนโตรรสชาติขมอมเปรี้ยวแต่หอมละมุนด้วยส่วนผสมจากส้ม
นอกจากนี้ด้านบนเปิดเป็นห้องพักสไตล์มินิมอลที่เลือกใช้โทนสีสบายตาอย่าง ขาวทอง และขาวเทา สะดวกครบรันด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก และอ่างอาบน้ำให้ลงแช่ตัวสบาย ๆ ใจกลางเมืองเชียงใหม่
The Barisotel by the Baristro
นิมมานเหมินทร์ ซอย 9
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 21.30 น.
โทร. 09-3494-4599
www.facebook.com/thebarisotelbythebaristro/
RESTAURANT & BAR
เรือนไม้อาหารเหนือกึ่งเอาท์ดอร์ ที่ตั้งอยู่ภายในซอยถนนเจริญสุข ใกล้กันกับวัดสันติธรรม ที่รวมเมนูแบบเส้น ๆ สไตล์ล้านนาที่คนรักเส้นไม่ควรพลาด ภายใต้บรรยากาศพื้นบ้านเรียบง่ายและเป็นกันเอง ภายในประกอบด้วยโต๊ะไม้หรือที่เรียกว่า 'ตั่ง' ให้นั่งรับประทานกว่า 10 ตัว และมุมต่าง ๆ ที่ประดับประดาไปด้วยตู้ไม้เก่า ตุง ร่มแบบภาคเหนือ และอุปกรณ์พื้นบ้านอย่างตะกร้อและกระด้ง ย้อนให้นึกถึงกลิ่นอายของความเป็นล้านนาแบบดั้งเดิม เมนูขนมจีนของที่นี่เน้นเสิร์ฟขนมจีนเส้นสด พร้อมน้ำยา 4 สูตรสไตล์เชียงราย ทั้งน้ำเงี้ยว น้ำยาปู น้ำยาปลา และแกงเขียวหวาน พร้อมเมนูหาทานยากอีกหลากหลายให้เลือก
เมนูไฮไลท์ต้องยกให้ขนมจีนน้ำเงี้ยว (45 บาท) เต็มปากเต็มคำกับหมูสับปั้นเป็นก้อน รสชาติเข้มข้น และขนมจีนน้ำยาปู (60 บาท) ที่เสิร์ฟพร้อมเส้นสดส่งตรงจากพะเยา ราดด้วยน้ำยาปูชิ้นใหญ่ร้อน ๆ สูตรเด็ดจากเชียงราย
ข้าวซอยไก่ (50 บาท) เส้นเหนียวหนุบหนับ พร้อมน่องไก่ชิ้นโต รสชาติเผ็ดกำลังพอดีไม่จัดมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีน้ำสมุนไพร อย่างน้ำอัญชันมะนาว (35 บาท) น้ำอัญชันสดหวานหอมตัดกันกับมะนาวที่เจือลงไปได้อย่างเข้ากัน
กาดหนมเส้น
ถนนเจริญสุข ใกล้วัดสันติธรรม
เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) เวลา 09.00-18.00 น.
โทร. 06-1265-0002
The House Lounge บาร์ค็อกเทลที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความน่าสนใจที่ให้ประสบการณ์มากกว่าการดื่ม ตั้งอยู่บนพื้นที่ของ Ginger Area แบรนด์เสื้อผ้าและของแต่งบ้านที่เน้นงานดีไซน์คุณภาพดี สไตล์สแกนดิเนเวีย ที่ผสมผสาน Texture และสีได้อย่างจัดจ้านและเข้ากัน ก่อนจะเปิดเป็นร้านอาหาร และบาร์ The House Lounge ตามลำดับ ให้ได้เข้ามาสัมผัสพื้นที่พิเศษแห่งนี้ได้พร้อมกัน
ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าและเขียวสไตล์ Tropical จัดจ้านตามสไตล์ Ginger และจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจหรูหรา ท่ามกลางความโรแมนติกของไฟสลัว ที่ช่วยเพิ่มความส่วนตัวให้แต่ละโซนที่มานั่งดื่ม
เมนูค็อกเทลถูกครีเอทและชงโดย คุณเพียว-ทินกร สอนสี และคุณทาเกะชาวญี่ปุ่น สอง Mixologist ฝีมือดีที่นำเอาเรื่องราวของจังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นแรงบันดาลใจในการครีเอท Herritage Signature Cocktail อย่างเช่น Sriphum Martini (350 บาท) ที่มีที่มาจากแจ่งศรีภูมิที่ถูกสร้างขึ้นเป็นที่แรกในบรรดาสี่แจ่ง จากคำบอกเล่าของคนในอดีตว่าย่านสำคัญในการขายชา อย่างเช่น ชาคาโมมายด์ ที่มีคุณสมบัติช่วยให้หลับสบาย จึงนำเอาใบชาคาโมมายด์ไป Infused กับ Gin ทำให้ทานง่ายคล่องคอ
เข้ากันกับเมนูทานเล่นอย่าง Chef's Four Choices Served with Fig Jam, Parmesan Dipping, Walnut Pesto เสิร์ฟคู่กันกับ Bread Bucket (390 บาท)
The House Lounge
ถนนมูลเมือง
เปิดทุกวัน (ขายม็อกเทลเฉพาะวันพระ) เวลา 17.00 - 00.00 น.
โทร. 0-5328-7681
www.facebook.com/thehouseloungeCM/
SHOPS & HOTELS
โชว์รูมแบรนด์แฟชั่นแอกเซสซอรีรักษ์โลกแบบแมน ๆ ของคุณจ่อย - สเริงรงค์ วงษ์สวรรค์ ตั้งอยู่ริมถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 11 ที่เปิดรอต้อนรับให้เราเข้าไปเลือกช้อปเป็นเจ้าของไอเท็มเท่ ๆ สักชิ้นสองชิ้น Rubber Killer โดดเด่นด้วยการนำวัสดุแข็งแรงทนทานจากยางรถยนต์เหลือใช้ มารีไซเคิลและออกแบบดีไซน์จนสวยงามและเกิดเป็นผลิตภัณฑ์มากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัยแบบ One of a kind ซึ่งแต่ละใบมีลวดลายและกราฟิกที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อยางตั้งแต่โอตานิ, บริดจสโตน หรือไฟร์สโตน ออกมาเป็นทั้ง Tote bag, Messerger Bag , กระเป๋าสตางค์ รวมทั้งสนีกเกอร์เท่ ๆ
Canvas Drawstring Bag (650 บาท) กระเป๋าผ้าแคนวาสพิมพ์ลายน่ารัก ที่ออกมาใหม่รับซัมเมอร์มีให้เลือกสามลาย คือ Aloha Bag, Lonely Island และ RBKL Summer
Rubber Killer Flagship Store
ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 11
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น.
โทร. 08-4269-9464
www.rubberkiller.com/
Jibberish อีกโลกหนึ่งที่จะพาเราไปสัมผัสกับข้าวของจุกจิกน่ารักสไตล์ Homemade Zakka และผ้ามัดย้อมฝีมือสาวผู้มากความสามารถอย่างคุณนัท - ณัฐพร ดวงศรี หญิงสาวที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาทำตามฝันและความชอบในงานอดิเรกที่ตนถนัด จากเครื่องเขียนและเสื้อผ้าที่แม่เย็บให้ใส่กลายเป็นร้านขายของน่ารัก ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความอบอุ่นและเรียบง่าย
จากการเรียนรู้ศึกษาอย่างไม่หยุด รวมกับการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ จนหลงรักใน ‘คราม’ และเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สไตล์ Jibberish ขึ้นมาทั้ง ผ้าพันคอ Bandana (250 บาท), บิกินีถักย้อมคราม (580 บาท) หรือเสื้อมัดย้อมคอลเลคชั่นซัมเมอร์ ที่นำเอาเศษผ้ามาตัดเย็บตกแต่งเพื่อลดปริมาณขยะออกมาได้น่ารักน่าสวมใส่ (ราคาแล้วแต่แบบเสื้อ) รวมทั้งเปิดเวิร์คช็อปนำความรู้ที่ตัวเองมีมาถ่ายทอดให้กับคนอื่นที่สตูดิโอใต้ถุนบ้านของคุณนัทเอง
ผ้ามัดย้อมมีมากมายหลายแบบในประเทศไทย แต่ Jibberish เลือกเอาสัญลักษณ์ของเจ้าแมวเหมียวที่กำลังเก็บฝ้าย ย้อมผ้า มานำเสนอให้เห็นถึงกระบวนการของมัดย้อมได้อย่างน่ารัก น่าเอ็นดู
Jiberrish
ทางไปวัดพระธาตุดอยคำ
เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพฤหัสบดี) เวลา 10.00 - 18.00 น.
www.facebook.com/jibberish.chiangmai/
อีกหนึ่งโรงแรมดีไซน์ดีใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เปลี่ยนแกลลอรี่เก่าเป็นโรงแรมสุดเก๋ และชวนเราไปเป็นนักทดลองในคอนเซ็ปต์ห้องเเล็ปวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจ เดิมทีโรงแรมแห่งนี้เป็นแกลลอรี่และร้านกาแฟเก่า ที่ถูกรีโนเวทโดยยังคงใช้โครงสร้างเดิมบางส่วนเอาไว้ รวมเข้ากับความรักและหลงใหลในของสะสมที่มีกลิ่นอายห้องทดลองสไตล์วิทยาศาสตร์ที่นำมาประดับตกแต่งทั่วโรงแรม ทั้งภาพวาดแสดงกล้ามเนื้อ โครงกระดูกไดโนเสาร์ แมลงสตัฟต์ และหลอดทดลองรูปทรงแปลกตา ผสมผสานเสน่ห์ความวินเทจผ่านการใช้โทนสี และเฟอร์นิเจอร์ไม้ จัดวางบนรวมกันและกลายเป็นอีกหนึ่งงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราวของห้องทดลองแห่งนี้ได้อย่างลงตัว
ในส่วนของห้องพักมีด้วยกันทั้งหมด 6 ห้อง แบ่งเป็น ห้อง Dorm ที่มีเตียงและห้องน้ำรวม จำนวน 2 ห้อง (ราคา 590/เตียง ไม่รวมอาหารเช้า) และห้อง Private จำนวน 4 ห้อง (1,800 - 2,300 บาท รวมอาหารเช้า) สำหรับใครที่อยากได้ความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยห้องน้ำส่วนตัวภายใน โดยมีชื่อเรียกตามห้องต่าง ๆ อย่าง Lab No.01, Lab No.02 ตามลำดับ
The Laboratory hotel & Across The Universe cafe
ถนนศิริมังคลาจารย์
เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 08-1855-6686
www.facebook.com/Thelaboratoryhotel
เสน่ห์ และที่กินเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ยังไม่หมดเท่านี้ Part II เราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ติดตามกันต่อได้ที่นี่