หากพูดถึงย่านที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความคลาสสิก หนึ่งในลิสต์ย่านเก่าแก่ที่หลายคนมักนึกถึง คงจะหนีไม่พ้น ‘ย่านหัวลำโพง’ ที่มีหลากหลายโลเคชันเก่าแก่ระดับตำนาน ฝากร่องรอยแห่งความคลาสสิกไว้ให้กลับไปย้อนความทรงจำ และร้านรวงสุดชิคเกิดใหม่อีกมากมายให้ได้แวะมาเช็กอินกัน ไม่ว่าจะเป็น ที่พักดีไซน์สวย คาเฟ่ ร้านอาหารอร่อย ไปจนถึงงานศิลปะต่าง ๆ ที่เหมาะแก่การมาเดินเล่นทำกิจกรรมในช่วงสุดสัปดาห์ BKK. จึงขอชวนคุณมาลัดเลาะไปทำความรู้จักกับ 12 โลเคชันชิค ๆ ที่น่าสนใจในย่านนี้ไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มกันที่ 'The Mustang Blu' Boutique Hotel ที่ตั้งอยู่ริมถนนไมตรีจิตต์ โดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวอาคารยุคสมัยโคโลเนียลอายุร่วม 100 ปี ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นทั้งธนาคาร โรงพยาบาล และสถานอาบอบนวดในตำนาน ก่อนจะถูกรีโนเวทปรับเปลี่ยนความเก่าให้เป็นความเก๋า โดยการสร้างเป็น Boutique Hotel ที่เคล้าไปด้วยเสน่ห์และความเก๋บนชั้น 2 และ 3 ส่วนชั้นล่างปรับให้เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร ที่เต็มไปกลิ่นอายสไตล์ความคลาสสิกจากเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจและสัตว์สตัฟฟ์ ที่ตกแต่งออกมาได้อย่างลงตัว
The Mustang Blu
ถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย (BTS หัวลำโพง)
Cafe & Restaurant
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
โทร. 06-4708-076
Hotel
เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 06-2293-6191
www.facebook.com/themustangblu
www.instagram.com/themustangblubangkok
ตามด้วยที่พักดีไซน์ดีต่อใจ 'Tamni Hostel' ที่เปลี่ยนห้องแถวเก่าย่านหัวลำโพงให้กลายมาเป็นโฮลเทลสุดเก๋ ภายใต้แนวคิดเท่ ๆ ที่ว่า “ความสวยงาม ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ” เพราะหากพูดถึงสิ่งก่อสร้างที่คำนึงถึงความสวยงามเป็นอันดับแรกแล้ว หลายคนคงนึกไปถึงความสมบูรณ์แบบหรือความสวยงามแบบไร้ที่ติ แต่บางครั้งความไม่สมบูรณ์แบบก็สามารถสร้างความสวยงามอันน่าหลงใหลได้ไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับโฮสเทลดีไซน์เก๋แห่งนี้ที่ปรับโฉมห้องแถวเก่า สภาพทรุดโทรมมีตำหนิให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่ประทับใจไปกับบรรยากาศสุดคลาสสิกของย่านหัวลำโพงผ่านหน้าต่างห้อง
Tamni Hostel
ซอยพระยาสิงหเสนี (MRT หัวลำโพง)
เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 06-3932-2905
www.facebook.com/tamnibkk
www.instagram.com/tamni_bkk
'350 Station Cafe & Homestay' อีกหนึ่งคาเฟ่และโฮมสเตย์สุดชิคในย่านหัวลำโพง ที่ถ่ายทอดความหลงใหลของเจ้าของร้าน อย่างการใช้ชีวิตของผู้คนในยุค 1940s ซึ่งตรงกับช่วงยุคสมัยสงครามโลก บวกกับประสบการณ์ระหว่างการออกเดินทางด้วยรถไฟไปยังที่ต่าง ๆ ในประเทศแถบยุโรป ที่ทำให้ได้พบเจอกับบรรดาของสะสมในยุคเก่าที่เก็บเล็กผสมน้อยมาจนถึงปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่คาเฟ่และโฮมสเตย์แห่งนี้จะเต็มไปด้วยของสะสมสุดคลาสสิกนานาชนิดที่นำมาประดับประดาอยู่ทั่วทุกมุมร้าน ชวนให้ผู้เข้าพักและผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนผ่านการเดินทางมาร่วมกัน
ด้วยความที่มีใจรักในการดื่มกาแฟเป็นทุนเดิม ประกอบกับการได้ศึกษาและเรียนรู้ในเรื่องกาแฟกับบาริสต้าจากร้าน Brave Roasters กาแฟของทางร้านจึงการันตีความอร่อยด้วยเมล็ดกาแฟจาก Brave Roasters และ Happy Espresso ที่นำมา Blend รวมกันเป็นสูตรเฉพาะในแบบที่ไม่เหมือนใคร และในส่วนของเมนูกาแฟดริป ทางร้านก็พร้อมคัดสรรเมล็ดกาแฟให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ เมล็ดกาแฟลาวและเอธิโอเปีย พร้อมมอบความหอมและรสชาติเข้มข้นให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยจากเมนูกาแฟดริป
350 Station Cafe & Homestay
วงเวียน 22, ถนนไมตรีจิตต์ (MRT หัวลำโพง)
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 09-9350-5863
www.facebook.com/350station
www.instagram.com/350station
มาต่อกันที่ '103 Bed and Brews' ร้านกาแฟสไตล์ Cold Brew และโฮสเทลที่ดึงเอามนต์เสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ของซอยนานา ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นตรอกขายยาจีนหรือยาสมุนไพร มาออกแบบและตกแต่งในลักษณะของโรงน้ำชา ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่เก็บรายละเอียดความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยและจีนยุคสมัยนั้นไว้ ได้อย่างลงตัว โดยพื้นที่ด้านล่างจัดให้เป็นโซนคาเฟ่และร้านกาแฟในบรรยากาศชิล ๆ ส่วนพื้นที่ด้านบนถูกจัดให้เป็นที่พักในรูปแบบของโฮสเทล
FULL REVIEWทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนู Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น ที่นำเสนอเป็นพิเศษผ่านแท็ปเครื่องทำกาแฟทำให้ได้รสกาแฟที่นุ่มละมุน สามารถดัดแปลงเป็นเมนูกาแฟอื่น ๆ ได้หลายแบบ อีกทั้งยังผลิตชาไทยที่ให้รสชาติในแบบดั้งเดิมเพื่อเสิร์ฟเองอีกด้วย
103 Bed and Brews
ซอยนานา เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (MRT หัวลำโพง)
เปิด วันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 09.00-20.00 น. และ วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-22.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทร. 08-6392-7761
www.facebook.com/103BKK
www.instagram.com/103bkk
มาดื่มด่ำกาแฟ Specialty Coffee กันต่อที่ 'Pompano 咖冰馆 café' พร้อมสัมผัสกลิ่นอายสไตล์วินเทจของคาเฟ่ชื่อดังแห่งย่านจตุจักรเจ้าเดิม เพิ่มเติมคือความคลาสสิกด้วยบรรยากาศของตึกเก่าบ้านไมตรีจิตต์ที่มีอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนไมตรีจิตต์ ซึ่งถูกรีโนเวทใหม่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยโลเคชันใหม่ที่ตั้งอยู่ในย่านหัวลำโพงนี้ ทางร้านได้มีการนำเอาเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ นาฬิกาโบราณ เครื่องเล่นแผ่นเสียง และบรรดาของสะสมมาใช้ในการตกแต่งร้าน เพื่อให้สัมผัสกับบรรยากาศในสไตล์ Gatsby ที่ให้ความรู้สึกกลมกลืนไปกับสถาปัตยกรรมของตัวตึก
สำหรับเมนูเครื่องดื่ม แน่นอนว่าทาง Pompano ยังคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องของเมล็ดกาแฟ House Blend เช่นเดิม เพื่อให้กาแฟแต่ละเมนูมีกลิ่นหอมและรสเข้มข้นกลมกล่อมไม่เหมือนใคร พร้อมเสิร์ฟด้วยเครื่องชงเอสเพรสโซแบบ Mod Bar ที่ถูกนำมาใช้ครีเอตเมนูกาแฟอื่น ๆ อีกด้วย
Pompano 咖冰馆 café
แยกไมตรีจิตต์ (MRT หัวลำโพง)
เปิด วันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 10.00-19.00 น.
www.facebook.com/profile.php?id=100076929353937
www.instagram.com/pompano_cafe
ย่านหัวลำโพงสุดคลาสสิกยังคงแอบซ่อนร้านอาหารและคาเฟ่น่ารัก ๆ ไว้รอให้ไปค้นหากันอยู่เรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ ‘Timo & Tintin’ คาเฟ่แห่งนี้ที่เนรมิตตึกแถวเก่า 5 ชั้น ให้กลายมาเป็นคาเฟ่และแกลเลอรีในที่เดียว โดยบรรยากาศของร้านถูกออกแบบมาให้เป็นสไตล์ Modern Contemporary ผสมเข้ากับความ Loft นิด ๆ เพื่อให้ความรู้สึกเรียบง่ายสบายตา และสะท้อนความงามของบรรดางานศิลปะที่จัดวางภายในนั้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ส่วนภายในร้านก็มีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งชิลกันได้ตามชอบ หรือหากใครที่อยากจิบกาแฟพร้อมเดินชมงานศิลปะที่ดีต่อใจ ทางร้านยีงมีโซนแกลเลอรีที่ชั้น 2 ให้ดื่มด่ำงานอาร์ตกันได้อย่างเต็มที่ ส่วนใครอยากชมวิวมุมสูงสวย ๆ ลองเดินขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า ก็จะได้บรรยากาศแปลกตาไปอีกแบบ
FULL REVIEWสำหรับเครื่องดื่ม ทางร้านตั้งใจออกแบบและคัดสรรเอาวัตถุดิบ 3 อย่างออกมาให้เป็น Signature คือ ‘Beans’ เมล็ดกาแฟ House Bland ของทางร้านที่ใช้เมล็ดจากเชียงใหม่ เอธิโอเปีย และลำปาง ‘Uji Matcha’ จากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และ ‘Oolong Tea’ ชาจากดอยแม่สอง จังหวัดเชียงราย ที่เบลนด์เข้ากับกุหลาบออร์แกนิกและลิ้นจี่ ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นพิเศษไม่เหมือนใครนั่นเอง
Timo & Tintin
ซอยวานิช 2 เขตสัมพันธวงศ์ (MRT หัวลำโพง)
เปิด วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทร. 06-2505-3546
www.facebook.com/timoandtintin
www.instagram.com/timoandtintin
มาสัมผัสเรื่องราวแห่งความฝันกันต่อที่ 'FUN Café Bangkok' คาเฟ่สีขาวสะอาดตา ที่เจ้าของร้านได้จำกัดคำนิยามให้ตัวเองว่า 'FUN' ที่สามารถอ่านได้ว่า ‘ฝัน’ และพ้องกับคำว่า ‘Fun’ ที่แปลว่าสนุกสนานในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคำสั้น ๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของร้านได้ดีที่สุด ทั้งเรื่องการเป็นคนช่างคิด ช่างฝัน และชอบที่จะสร้างความสุข จึงเลือกที่จะทำให้ที่นี่เกิดเป็นพื้นที่แห่ง “ความฝัน” ที่จับต้องได้และอบอวลไปด้วยความสุขที่เกิดขึ้นในการสร้างรอยยิ้มให้กับตัวเองและลูกค้าทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา
.
FULL REVIEWสำหรับไฮไลต์ที่น่าสนใจของทางร้าน ต้องห้ามพลาดกับเมนูซิกเนเจอร์ที่พร้อมให้ทุกคนแวะมาเติมจินตนาการลงบนหน้าสปันจ์เค้กครีมเนื้อเนียน เสิร์ฟมาพร้อมกับถาดแม่สีจากครีมเนื้อนุ่ม พู่กันพร้อมเกล็ดน้ำตาลตกแต่ง ที่เปิดโอกาสให้คุณได้เติมสีระบายฝันกันอย่างสนุกสนานลงบนหน้าเค้ก
FUN Café Bangkok
ถนนมหาพฤฒาราม (MRT หัวลำโพง)
เปิด วันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 06-4192-9193
www.facebook.com/funcafebangkok
www.instagram.com/funcafebangkok
มาอิ่มท้องและอิ่มใจไปกับ 'ใต้บ้าน' คาเฟ่สไตล์โฮมมี่ที่ตั้งอยู่ภายใน Tamni Hostel พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์โฮมเมดรสชาติดีและกาแฟแบบ Specialty ที่อบอวลไปด้วยความหอมกรุ่น ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่น เรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาทานข้าวบ้านเพื่อน และด้วยโลเคชันที่ตั้งอยู่ใต้โฮสเทล ทำให้ ‘ใต้บ้าน’ ถูกนำมาใช้เป็นชื่อร้านได้อย่างตรงตัว พร้อมเปิดต้อนรับให้ทุกคนมาอิ่มอร่อยไปกับหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและอาหารกันได้ตลอดวัน
FULL REVIEWสำหรับเมนูอาหาร ทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเป็นเมนูทานง่ายสไตล์โฮมเมด ที่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดี โดยเมนูอาหารจะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปในทุก ๆ 1-2 เดือน ให้กลับมาทานได้อย่างไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ทางร้านยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปต่าง ๆ รวมถึงเปิดพื้นที่สุดอาร์ตให้เหล่าคนรักงานศิลปะได้เข้ามาระบายสีบนผ้าใบและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในแบบของตัวเองได้อีกด้วย
ใต้บ้าน
ซอยพระยาสิงหเสนี (MRT หัวลำโพง)
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.
โทร. 06-3932-2905
www.facebook.com/TAIBANBKK
www.instagram.com/taibanbkk
สำหรับใครที่อยากสัมผัสกลิ่นอายสไตล์อิตาลีแบบที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ ต้องลองแวะมาที่ ‘CONTENTO’ ร้านอาหารอิตาเลียนสุดหรูซึ่งตั้งอยู่ภายใน ‘โรงสำราญ’ บนถนนไมตรีจิตต์ สถาปัตยกรรมเก่าเเก่อันมีเสน่ห์ ที่มาพร้อมบรรยากาศสุดคลาสสิกในสไตล์ Italian Country ที่คุณจะได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ จากฝีมือเชฟผู้มากประสบการณ์ ทางร้านตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่ดีจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมารังสรรค์ความอร่อยอย่างพิถีพิถันในสไตล์ Contemporary Comfort Cooking ที่ปรุงแบบสดใหม่ด้วยความใส่ใจในทุก ๆ จาน ให้ได้ลิ้มลองกัน
FULL REVIEWCONTENTO
ถนนไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (MRT หัวลำโพง)
เปิด วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-23.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-23.00 น.
โทร. 09-0898-2397
www.facebook.com/contentobkk
www.instagram.com/contentobkk
จากร้านดอกไม้สุดฮิปในตรอกซอกซอยเล็ก ๆ อย่าง ‘Oneday Wallflowers’ ได้ขยับขยายพื้นที่สังสรรค์แห่งใหม่ให้คนกรุงเทพฯ ได้ดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิล พร้อมชมทิวทัศน์ยามเย็นของวงเวียน 22 กรกฎาคม ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก ตัดกับท้องฟ้าสีละมุน ไปพร้อม ๆ กับทานอาหารและดริงก์เครื่องดื่มเมนูโปรดที่ ‘Wallflowers Upstairs’ รูฟท็อปบาร์บรรยากาศสบาย ๆ ที่มาพร้อมการออกแบบพื้นที่ชิลเอาต์ถึง 2 โซน ทั้งฝั่งที่เป็นสวนสวยสไตล์ Old Rustic สุดร่มรื่น และอีกฝั่งที่มองเห็นวิวตึกรามบ้านช่องสุดคลาสสิกของซอยนานาได้อย่างเพลิดเพลิน
FULL REVIEWWallflowers Upstairs
ดาดฟ้า Oneday Wallflowers ซอยนานา (วงเวียน 22 กรกฎาคม) (MRT หัวลำโพง)
เปิดทุกวัน เวลา 17.30-24.00 น.
โทร. 09-4671-4433
www.facebook.com/wallflowerscafe.th
www.instagram.com/wallflowerscafe.th
จากนั้นได้เวลามาเปิดวาร์ปต่อที่ ‘Lucky Duck’ บาร์สุดเก๋ได้ฟีลเหมือนตัวอยู่ไทยแต่ใจอยู่เซี้ยงไฮ้โดยที่นี่เป็นบาร์เปิดใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 3 ของโรงสำราญ พร้อมเปิดประตูความเก๋ไก๋ต้อนรับคุณภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Speakeasy Shanghai Meets Prohibition Hollywood’ บาร์ลับสไตล์เซี้ยงไฮ้ผสานกับบรรยากาศยุคสุราต้องห้ามของฮอลลีวูด
FULL REVIEWLucky Duck
ถนนไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (MRT หัวลำโพง)
เปิดทุกวัน เวลา 19.00-01.00 น.
โทร. 09-0898-2397
www.facebook.com/Luckyduckbkk
www.instagram.com/luckyduckbkk
‘ซอยนานา’ อีกหนึ่งซอยในตำนานย่านหัวลำโพงที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อันเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของบ้านเก่าแก่ ร้านอาหาร และคาเฟ่ชื่อดังมากมาย สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคอดีตได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับตึกแถวสุดวินเทจแห่งนี้ ที่ถูกรีโนเวทให้เป็นร้านอาหาร บาร์ และที่พักสไตล์จีนแบบร่วมสมัยในชื่อ ‘ปาเฮ่า’ หมายถึงบ้านเลขที่แปด โดยยังคงรักษาบริบทของความเป็นจีนในย่านนี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
FULL REVIEWหากขึ้นบันไดมาสู่ชั้นบนของบ้านเลขที่แปดแห่งนี้ จะพบกับส่วนของที่พัก ‘Ba hao Residence’ ที่พร้อมเปิดบริการให้เหล่านักเดินทางได้แวะมาพักผ่อนพร้อมซึมซับความคลาสสิกและวิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้ไปในตัว ใครที่อยากสัมผัสความคลาสสิกของย่านหัวลำโพงที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเดสทิเนชันที่อยากให้คุณมาเยือน
Ba hao 八號
8 ซอยนานา ถนนไมตรีจิตต์ (MRT หัวลำโพง)
Bar
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 17.00-24.00 น.
Residence
เปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-20.00 น. และ วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.
โทร. 06-2464-5468
www.facebook.com/8bahao
www.instagram.com/8bahao