เติมเต็มความสดใสให้วันหยุดที่คาเฟ่และ Pop-Up Museum ในงาน HOUSE OF LA DOLCE VITA IN SCOOTER 2019

Published on December 23, 2019

วันหยุดนี้หากใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน ลองแวะไปเดินเล่นที่ Warehouse 26 แหล่งแฮงเอาต์ใหม่ใจกลางสุขุมวิท ต้อนรับคุณด้วยสีมินต์สดใสและบรรยากาศสไตล์คริสต์มาสที่อบอวลไปด้วยความสดใสในช่วงเทศกาลแห่งความสุข ที่คาเฟ่สุดน่ารักและ Pop-Up Museum กับงาน HOUSE OF  LA DOLCE VITA IN SCOOTER 2019  งานจัดแสดง Interactive Exhibition สุดอาร์ตที่พร้อมเติมเต็มวันดีๆ ของทุกคนด้วยบรรยากาศคริสต์มาส ซึ่งความ Festive นี้จะมีให้คุณได้เพลิดเพลินจนถึงวันที่ 14 มกราคม 2563 !

 

บริเวณด้านหน้าทางเข้างาน

 

สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขภายในงาน

Christmas Vibes

เมื่อก้าวเข้ามาก็จะพบกับส่วนแรกที่เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงานอย่างโซนของคาเฟ่ LE CAFFETTERIA คาเฟ่สีเขียวมินต์พาสเทลสดใสที่ครั้งนี้มาในธีมของคริสต์มาส ต้อนรับบรรยากาศแห่งความสุขด้วยของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพิ่มความสดใสด้วยต้นคริสต์มาสที่แต่งด้วย Scooter คันน้อยทั้งต้น ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูน่ารัก ๆ พร้อมเติมความสดชื่นด้วยกาแฟและเครื่องดื่มแสนอร่อยนานาชนิดโดยคาเฟ่ Patom Organic นอกจากนี้ยังมีเค้ก คุกกี้ และเจลาโต้สไตล์อิตาเลียนให้คุณได้ลองชิมกันอีกด้วย 

 

โซนของคาเฟ่ LE CAFFETTERIA

 

คาเฟ่สีเขียวมินต์สดใส

แนะนำให้ลอง LATTE MENTA (115 บาท) เป็นเครื่องดื่มแก้วซิกเนเจอร์ของงาน ที่มาพร้อมโทนสีเขียวมินต์สีเดียวกับคาเฟ่ โดยเป็นเครื่องดื่มไร้คาเฟอีนกับส่วนผสมพิเศษหลักจากนมออร์แกนิกเข้ากับมินต์หอม ๆ เสิร์ฟให้ทานคู่กับ Red Velvet (100 บาท) หรือจะลองเป็น Chocolate Banana (150 บาท) ที่ตกแต่งมาน่ารักเข้ากับเทศกาลคริสต์มาสเป็นอย่างดี

 

LATTE MENTA (115 บาท)

 

Red Velvet (100 บาท)

 

Chocolate Banana (150 บาท)

Interactive Exhibition

และนอกเหนือจากคาเฟ่สุดน่ารักแล้ว อีก 1 โซนหลักในงานที่คุณไม่ควรพลาดคือ โซน Exhibition ที่งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ ครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง Scoot Design Agency ผู้ควบคุมและสร้างสรรค์คอนเซ็ปต์งานรวมถึงผู้นำเรื่องราวของไอคอนิก Scooter แห่งยุคอย่าง Vespa มาถ่ายทอดในรูปแบบของ Interactive Exhibition ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานผสานเข้ากับการดีไซน์พื้นที่ในทุก ๆ ตารางนิ้วให้มีความโดดเด่นและแตกต่างผ่านไอเดียของ คุณญารินดา บุนนาค สถาปนิกไดเร็กเตอร์แห่ง Imaginary Objects พร้อมด้วย คุณอนัฆ นวราช ช่างภาพที่ตั้งใจนำเสนอมุมมองในการถ่ายภาพให้น่าสนใจ เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนชวนให้คุณอยากเข้ามาสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์อันแสนพิเศษในครั้งนี้

 

บริเวณทางเดินกับการจัดแสดงประวัติของรถเวสป้า

 

สีสันสดใสภายในงาน

When Passion Meets Inspiration

สำหรับโจทย์สำคัญในการทำ Pop-Up Museum ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การพลิกโฉมโกดังเก่าเพียงอย่างเดียว แต่คือการเล่าเรื่องราวที่ร้อยเรียงอยู่ภายในงานแสดงให้ดูน่าสนใจและโดดเด่น จึงเป็นที่มาของการระดมไอเดียของผู้ที่เต็มไปด้วย Passion ในแบบเดียวกันผ่านการนำเสนอในรูปแบบ Interactive Exhibition ด้วยสีสันพาสเทลสวยงามสะดุดตา แถมยังรับกับโครงสร้างเดิมของที่นี่ได้อย่างลงตัวและเป็นการใช้พื้นที่ที่มีจำกัดได้อย่างคุ้มค่า เพราะเต็มไปด้วยมุมถ่ายภาพทั้งหมดถึง 9 Station

 

โซนห้องกระจกสุดน่ารัก

 

บริเวณทางเดินสร้างกิมมิกด้วยภาพแอปเปิ้ลที่วางทับซ้อนกันให้ดูมีหลายมิติ

The Origin

หลังจากซื้อตั๋วเข้างาน (190 บาท) ที่บริเวณด้านหน้าแล้ว ก็สามารถเดินชมแต่ละห้องที่ซ่อนความเซอร์ไพรส์และเต็มไปด้วยความประทับใจให้คุณได้ตามไปสัมผัส โดยผู้เข้าชมสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ ผ่าน QR Code ตามจุดต่าง ๆ อีกด้วย มาเริ่มกันที่จุดแรกกับ Vespa คันน้อยที่มาในรูปแบบของฝูงตัวต่อบินขึ้นมาจากรัง โดยตัวต่อน้อยเหล่านี้นับเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของชื่อ Vespa นั่นเอง

 

สามารถซื้อบัตรเข้าชมงานได้ที่บริเวณด้านหน้างาน

สำหรับห้อง Paperino หรือ Donald Duck คือห้องที่จัดแสดงรถ Prototype รุ่นแรกเที่ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1945 ก่อนที่จะปรับรูปลักษณ์มาเป็น Vespa ในแบบที่เราเห็นกันจนชินตาในปัจจุบัน โดย Prototype ดังกล่าวมีชื่อว่า MP5 ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเป็ด ทำให้โมเดลนี้ถูกขนานนามว่า “Paperino” หรือ “Donald Duck”

 

โซน Donald Duck ที่โดดเด่นด้วยขนเป็ดสีขาว

และในปี ค.ศ. 1946 นี้เอง ชื่อของ Vespa ได้ถูกประทับตราลงบน Scooter เนื่องจากรูปทรงและเสียงของเครื่องยนต์ทำให้ Enrico Piaggio เจ้าของบริษัทผู้ผลิตเวสป้าคิดถึงเสียงของตัวต่อ ซึ่งคำว่า Vespa เป็นภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า “ตัวต่อ” นั่นเอง

 

เวสป้าคันน้อยจัดแสดงในรูปแบบของฝูงตัวต่อที่บินขึ้นมาจากด้านล่าง

Vespa’s World

ระหว่างทางเดินจะแสดงยุคสมัยต่าง ๆ ของ Vespa ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทะลุไปยังห้องที่จำลองแคว้น Tuscany ในประเทสอิตาลีซึ่งเป็นแคว้นที่มีเมือง Pontedera เมืองบ้านเกิดของ Vespa ภายในห้องจะมี Scooter สีน่ารักคันโตและคันเล็กคอยต้อนรับ 

 

ห้องจัดแสดงจำลองบรรยากาศประเทศอิตาลี ประเทศต้นกำเกิดของแบรนด์เวสป้า

ต่อมาเป็นโซนจำลองโรงงานผลิต Vespa ที่ถูกทำออกมาให้ดูมีความ POP ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  แถมยังมีห้องที่รวมเอาไฟรถรุ่นต่าง ๆ ของ Vespa มาจัดเป็นงานศิลปะเล็ก ๆ อีกด้วย ก่อนจะต่อไปที่ส่วนของสวนเอเดน ภายใต้คอนเซ็ปต์  “อิสระ”  เฉกเช่น "คนขี่ Vespa เป็นคนที่กล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง เหมือนอดัมและอีฟที่กล้าทานแอปเปิ้ลในสวนเอเดน" นั่นเอง

 

อีกหนึ่งห้องจัดแสดงที่นำไฟรถเวสป้ามารวมไว้ในแห่งเดียว

 

หนึ่งในโซนที่จำลองบรรยากาศให้เหมือนกับโรงงานจักรยานยนต์

 

โซนสวนเอเดนที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลดีไซน์สวยหลากหลายรูปแบบ

เดินเล่นกันจนหนำใจแล้ว เมื่อออกจากงานมาแล้วอย่าลืมแวะเดินเล่นที่โซนของที่ระลึก LDVS STORE ชวนให้เพลิดเพลินไปกับการเลือกช้อปปิ้งของที่ระลึกมากมาย ทั้งกระเป๋า หมวก เสื้อผ้า เข็มกลัด อุปกรณ์เครื่องเขียนหรือจะเป็นโมเดล Vespa นั่นเอง แถมยังมีตู้กาชาปองให้เหล่านักสะสมและสาวก Vespa รวมถึงผู้เข้าชมงานต้องตื่นตาตื่นใจไปกับของที่ระลึกสีสันน่ารักมากมายกันได้อีกด้วย ชวนเพื่อนเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสนุกกันที่งานเลย “Have a Scoot Day!”

 

โซนของที่ระลึก LDVS STORE

 

มุมตู้กาชาปอง

แฟน ๆ Vespa หรือผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้ที่โครงการ Warehouse 26 สุขุมวิท 26 ทุกวันอังคาร - อาทิตย์
(วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. และ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 19.00 น.)  

ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 
(หยุดช่วงปีใหม่ ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2562 - 2 มกราคม 2563)
ซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ www.ticketmelon.com/event/houseofladolcevita
หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/houseofldvs
ร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจดี ๆ และความสุขได้ทาง Instagram @houseofldvs และ #HouseofLDVS