เรียกได้ว่า 'Sustainable Design' หรือ 'การออกแบบเพื่อความยั่งยืน' กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยม และสร้างสุนทรียภาพใหม่ ๆ ให้กับผู้คนทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ BKK.LIVING ชวนทุกคนมาอัพเดตเทรนด์ใหม่ของการออกแบบ พร้อมพาชมเบื้องหลังงาน 'In touch with nature: Crafting Sustainable Design' Designer Talk ที่จัดขึ้นโดย Crystal Home x Villeroy & Boch ที่ noble PLAY Ploenchit เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา
โดยงานนี้ Crystal Home ผู้จัดจำหน่ายสุขภัณฑ์แบรนด์หรู และ Villeroy & Boch แบรนด์สุขภัณฑ์เซรามิกเก่าแก่จากประเทศเยอรมนี ได้เชิญสองสตูดิโอชื่อดังอย่าง Sher Maker สถาปนิกจากจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ออกแบบ Aesop Signature Store ทองหล่อ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีมาพูดคุยบนเวทีนี้ด้วย โดย Sher Maker เป็นสตูดิโอที่สร้างสถาปัตยกรรมผ่านการทดลองกับวัสดุจริง ที่เริ่มออกแบบด้วยการทำความเข้าใจบริบทและผู้ใช้งาน รวมไปถึงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเทคนิคท้องถิ่น ช่างฝีมือ และกระบวนการก่อสร้างได้อย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ยังมี Speaker คนสำคัญอย่าง KASCHKASCH สตูดิโอออกแบบจากเยอรมนี โดย Florian Kallus และ Sebastian Schneider สองผู้ร่วมก่อตั้ง ที่เชี่ยวชาญทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ แล้วยังเคยร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกมาอย่างมากมาย มาพูดคุยถึงแนวคิดของงานดีไซน์สุดเจ๋ง ที่สอดเเทรกไปด้วยความงามของธรรมชาติและความยั่งยืน ผ่าน ‘Antao Collection’ สุขภัณฑ์สุดลักชัวรีจากแบรนด์ Villeroy & Boch ที่ Crystal Home เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงเจ้าเดียว
มาดูกันว่าในแวดวงของนักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ แบรนด์ระดับโลก รวมไปถึงตัวแทนผู้จัดจำหน่าย ผสมผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่หัวใจสำคัญของการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและรักษ์โลกอย่างไร ให้สอดรับกับเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
จากจุดเริ่มต้นของ ‘ธรรมชาติ’
สู่งานออกแบบที่สร้างพลังแห่งความยั่งยืน
หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า ธรรมชาติสำคัญต่อการออกแบบที่สะท้อนความงามอย่างยั่งยืนอย่างไร? สองดีไซน์เนอร์ได้เล่าถึงแนวทางการออกแบบของตัวเองว่า พวกเขาเชื่อว่าธรรมชาติมีพลังวิเศษบางอย่างที่ช่วยในการเยียวยาจิตใจของมนุษย์ การนำธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ เช่น บ้าน ห้องนอน หรือห้องน้ำจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและฟื้นฟูจิตใจของเราโดยที่ไม่ทันรู้ตัว พวกเค้าจึงตั้งใจให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุธรรมชาติ วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ‘"เราสร้างสรรค์การออกแบบที่ไม่เพียงแต่น่ามอง แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย"
โดยทั้งสองยังเชื่อว่า ความยั่งยืนกำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนหันมาสนใจมากขึ้น รวมถึงยอมรับวัสดุใหม่ ๆ ที่สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ และมีส่วนช่วยในการสร้างความยั่งยืนมากขึ้น กว่าการมองหาฟังก์ชันที่ตอบโจทย์เพียงอย่างเดียว
และตัวอย่างงานออกแบบที่ประสบความสำเร็จที่เราจะหยิบยกมาเล่าให้ฟังวันนี้ คือ Antao Collection ที่สองดีไซน์เนอร์ร่วมออกแบบให้กับแบรนด์ Villeroy & Boch และคว้ารางวัลมาอย่างมากมายในด้านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น Red Dot Design Award 2023 และ iF Design Award 2023
‘ความเป็นธรรมชาติ ที่มากกว่าความสมบูรณ์แบบ’แนวคิดเบื้องหลังการดีไซน์ ‘Antao Collection’
สุขภัณฑ์แบรนด์หรูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหยดน้ำ
สุขภัณฑ์แบรนด์หรูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหยดน้ำ
Antao Collection ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของ ‘หยดน้ำ’ ที่แม้จะมีรูปลักษณ์แตกต่างกันไปภายใต้ความกลมมนที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่กลับสวยคลาสสิกและหรูหราถูกใจคนรักงานดีไซน์ แถมยังสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานห้องน้ำให้รู้สึกสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยคอลเลกชันนี้ประกอบไปด้วย สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ก๊อกน้ำ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่มีหลายขนาดและหลายรูปแบบสำหรับยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่หรือเล็ก รวมถึงยังออกแบบและเลือกใช้สีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น อย่าง สีขาวแบบเงา (White Alpin) สีขาวแบบด้าน (Stone White) สีอัลมอนต์ (Almond) สีเขียว (Morning Green) และสีดำ (Pure Black) เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติขณะใช้งาน
หัวใจสำคัญของการออกแบบ
คือการผสมผสานแรงบันดาลใจ จากความงามตามธรรมชาติ
โดยไม่ทิ้งความรับผิดชอบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
“ความยั่งยืนถูกฝังอยู่ในกระบวนการออกแบบของเราตั้งแต่เริ่ม เราเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และวิธีการผลิตที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราไม่เพียงแต่ทนทาน ยั่งยืน แต่ยังสวยงามด้วย โดยให้คุณค่ากับความสมดุลระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันในงานออกแบบ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น”
จะเห็นว่าหัวใจหลักของการออกแบบ Antao Collection คือการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้วัสดุที่ทนทานมีคุณภาพสูง และดีไซน์ฟังก์ชันบางอย่างขึ้นมาให้ตอบโจทย์การใช้งานห้องน้ำที่แตกต่างกันไปแต่ยังสอดคล้องกับการส่งเสริมความยั่งยืน เช่น Antao Washdown Toilet ที่ใช้วัสดุเซรามิกคุณภาพสูง พร้อม CeramicPlus นวัตกรรมสารเคลือบผิว ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันการเกาะตัวของคราบสกปรกและคราบน้ำ ทำให้ทำความสะอาดง่าย และทนทานต่อการใช้งานในระยะยาวไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ในขณะที่อ่างล่างหน้า Antao Washbasin เลือกใช้วัสดุ TitanCeram วัสดุเฉพาะของ Villeroy & Boch มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน สามารถสร้างรูปทรงที่ซับซ้อนได้ โดยยังคงความบางเฉียบและความละเอียดอ่อนของดีไซน์ไว้ พร้อมคุณสมบัติพิเศษ CeramicPlus ช่วยลดการใช้นํ้าและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงได้ถึง 90% ซึ่งเป็นการช่วยรักษ์โลกทันที โดยที่เราอาจไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ทั้งสองยังคำนึงถึงผู้ใช้ขณะใช้งานจริง จึงเลือกออกแบบ Antao Bathtub ด้วยวัสดุ Quaryl อีกหนึ่งนวัตกรรมเฉพาะของ Villeroy & Boch ที่ผสมผสานระหว่างควอตซ์และอะคริลิก ที่มีความแข็งแรง ทนทาน เงางาม และยังให้สัมผัสที่อบอุ่นและนุ่มนวล ที่สำคัญรักษาอุณหภูมิของน้ำในอ่างได้ดี ทำให้สามารถแช่น้ำอุ่นได้ยาวนานขึ้น โดยไม่ต้องเติมน้ำร้อนเพิ่ม ช่วยให้เรามีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานทุกครั้งที่อาบน้ำ
จะเห็นได้ว่าการเลือกใช้วัสดุ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งาน คือหลักการพัฒนาและออกแบบที่สอดรับไปกับเทรนด์ของความยั่งยืนได้เป็นอย่างดี
นอกจากขั้นตอนการออกแบบของ Antao Collection ที่ตั้งใจส่งต่อความยั่งยืนโดยดีไซน์เนอร์ จะขาดแบรนด์ Villeroy & Boch ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานสุขภัณฑ์ให้กับผู้ใช้งานไม่ได้ BKK.LIVING ขอพาไปสำรวจแนวคิดการทำงานร่วมกัน ก่อนจะออกมาเป็นคอลเลกชันสุดพิเศษนี้
Design Innovation Quality
สามสิ่งที่ Villeroy & Boch
ให้ความสำคัญในการพัฒนาสุขภัณฑ์มาตลอด 275 ปี
Villeroy & Boch เป็นแบรนด์เซรามิกเก่าแก่จากประเทศเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมานานกว่า 275 ปี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย สิ่งสำคัญที่แบรนด์ให้คุณค่ามาตลอดนอกจากคุณภาพ คือเทคโนโลยีที่ทันสมัย และรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็สวยคลาสสิกตลอดกาล
โดย Villeroy & Boch มีการปรับตัวตามเทรนด์และให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อความยั่งยืนอยู่เสมอ จึงใส่ใจกับกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน และเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์รวมถึงพยายามที่จะนำพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ซ้ำให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานสุขภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน อย่างการลดการใช้น้ำและพลังงานอื่น ๆ รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพของสุขภัณฑ์ให้มีความทนทาน เพิ่มอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น โดยในปี 2030 จะมีการพัฒนา Packaging ใหม่ ๆ ที่ง่ายต่อการนำไป Recycle อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
สำหรับโจทย์ของ Antao Collection เริ่มจากการที่เชื่อว่าผู้คนต้องการกลับไปสู่ความใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงเลือกทำงานร่วมกับ KASCHKASCH ในการพัฒนาคอลเลกชันนี้ขึ้นมา และเปิดกว้างให้สองดีไซน์เนอร์ เรียนรู้และนำเสนอวัสดุรวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ของทางแบรนด์ เพื่อออกแบบและพัฒนาสุขภัณฑ์แต่ละชิ้นออกมาให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างยั่งยืนที่สุด
Crystal Home ผู้จัดจำหน่าย Antao Collectionจาก Villeroy & Boch อย่างเป็นทางการ
แน่นอนว่าเทรนด์การออกแบบเพื่อความยั่งยืน กำลังจะเป็นแนวคิดใหม่ ๆ ของผู้อยู่อาศัยในบ้านที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน Crystal Home เล็งเห็นถึงดีไซน์ที่เรียบง่ายและสะท้อนความงดงามของธรรมชาติ จึงเลือกจัดจำหน่าย Antao Collection จาก Villeroy & Boch
“Sustainability จะยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าให้ความสนใจ ในอนาคตจะไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการประหยัดน้ำ แต่เราเชื่อว่าลูกค้าจะมุ่งเน้นไปที่การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุหรือจะเป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแบรนด์อย่าง Villeroy & Boch ก็เริ่มปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ โดยการนำเสนอคอลเลกชันที่ผสานหลักการออกแบบที่ยั่งยืน เพื่อให้ความหรูหราและความยั่งยืนไปด้วยกันอย่างลงตัว เราจึงเห็นและรู้ทันทีเลยว่า Antao Collection จะเหมาะกับตลาดไทยอย่างแน่นอน”
‘UD Design และนวัตกรรมใหม่ ๆ’
อนาคตของการออกแบบและพัฒนาสุขภัณฑ์ที่ยั่งยืน
Crystal Home มองเห็นอนาคตของการออกแบบที่ยั่งยืน ที่พัฒนาในโลกของการตกแต่งภายในและคอลเลกชันสุขภัณฑ์เพิ่มเติมว่า
"การออกแบบคอลเลกชันใหม่ ๆ ของสุขภัณฑ์นั้น นอกจากคำนึงถึงความสวยงามและฟังก์ชันแล้วยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราสามารถใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ หรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำ แต่ยังคงได้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดได้ นอกจากนี้การออกแบบ UD Design เพื่อให้ทุกคนใช้งานร่วมกันได้ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความยั่งยืน"
‘Look good, feel good’
สุขภัณฑ์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์บนพื้นฐานของความยั่งยืน
จะช่วยสร้างบรรยากาศและสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย
สุดท้ายนอกจากการเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และออกแบบบนพื้นฐานของความยั่งยืนจะช่วยยกระดับคุณค่าในการใช้ชีวิต
และทั้งหมดนี้คือการผสมผสานแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สู่หัวใจสำคัญของการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและรักษ์โลกไปด้วยกัน ทั้งนักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ แบรนด์ผู้ผลิต รวมไปถึงตัวแทนผู้จัดจำหน่าย ใครที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของความยั่งยืน และมองหาสุขภัณฑ์ที่มีดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเข้าไปเยี่ยมชมโชว์รูมที่รวม 7 แบรนด์ระดับโลกไว้ที่ Crystal Home ได้ที่ Crystal Design Center (CDC) เปิดทุกวันเวลา 10.00-19.00 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line : bit.ly/crystalhome_LineOA
Facebook : bit.ly/crystalhome_facebook
Instagram : bit.ly/crystalhome_instagram
Website : bit.ly/crystalhome_website