ครั้งนี้ BKK. อาสาพาคุณไปเที่ยวทะเลภูเก็ตพร้อมเก็บภาพประทับใจให้สวยงามกว่าเก่าด้วยเสื้อผ้าจาก Royal Ivy Regatta แบรนด์เสื้อผ้าดีไซน์เนี้ยบ เรียบหรูดูดี ที่จะช่วยเพิ่มสไตล์และเปลี่ยนลุคคุณให้โดดเด่นกว่าใคร ๆ เริ่มกันที่มาเช็กอินเก๋ ๆ ด้วยลุคหนุ่มสาวนักเดินทางที่สนามบินกันเลย
ครั้งนี้เราเดินทางโดยสายการบิน AirAsia ที่มีบริการครบ สะดวกสบาย จะเช็กอินหรือปรินต์ Boarding Pass ก็ทำได้ง่าย ๆ ที่ตู้ Kiosk ใครที่ไม่ต้องโหลดสัมภาระขึ้นเครื่องก็จบการเช็กอินได้ง่าย ๆ ที่ตู้นี้ได้แบบเบ็ดเสร็จ และนอกจากจะนั่งสบายตลอดการเดินทางแล้ว ยังสามารถเลือกอิ่มท้องได้กับหลากหลายเมนูใหม่ ๆ พร้อมชมวิวสวย ๆ บนเครื่องได้เลย
Time to Go Hopping
แลนด์ดิ้งกันมาเหนื่อย ๆ แนะนำให้แวะเติมความความสดชื่นกันที่ Refresh.Tropical ร้าน Smoothie ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ สร้างความผ่อนคลายให้ผู้ที่มาเยือนตั้งแต่ก้าวแรก ที่นี่ถูกปลุกปั้นและสร้างสรรค์โดย คุณแพรว - เจ้าของร้านสาว ที่พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้มน่ารัก โดยคุณแพรวตั้งใจครีเอทที่นี่ให้เป็นแหล่งพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติใจกลางเมืองภูเก็ต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Let’s make you fresh!” หรือการมอบความสดชื่นให้คนที่แวะเวียนมานั่นเอง
ภายในร้านให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายอย่างชัดเจน ด้วยการตกแต่งร้านที่เน้นการใช้ไม้ไผ่ให้อารมณ์แบบ Tropical หรือป่าเขตร้อน ไฮไลต์อยู่ตรงบริเวณด้านหลังของร้าน ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนทอดกายอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่แล้ว ยังมีสระน้ำใส ๆ เพิ่มความเย็นสบายอีกด้วย มุมที่นั่งหลากหลายถูกจัดแต่งไว้อย่างตั้งใจและใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งโซนของเก้าอี้ผ้าใบ ริมสระ หรือโต๊ะไม้นั่งสบาย ๆ ที่สามารถให้คุณหย่อนขาลงในน้ำเย็น ๆ เพลิน ๆ
บรรยากาศของร้านรับกันเป็นอย่างดีกับลุคสาวนักเดินทางด้วยเสื้อแขนกุดผ้านิต คลุมทับด้วยแจ๊คเก็ตผ้าลูกฟูกสีน้ำตาล จับคู่กับกางเกงขายาวทรงเอวสูงสีขาว เพิ่มความเก๋ด้วยเข็มขัดเรียบ ๆ แมทช์กับกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาล ขนาดกำลังพอดีกับการเดินทาง
ส่วนลุคหนุ่มเท่ก็มาพร้อมบอมเบอร์แจ๊คเก็ตผ้าลูกฟูกสีน้ำตาลคลุมทับเสื้อโปโลผ้านิตแบบบางดีไซน์เรียบแต่เท่ ใส่คู่กับกางเกงผ้าลูกฟูกทรงชิโน่ ได้ลุคหนุ่มเท่มีสไตล์ เพิ่มความเท่ด้วยหมวกแก๊ปปักลายโลโก้
สำหรับเมนู ที่นี่ใช้ผลไม้สดคุณภาพดีเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ว่าจะเป็นเมนู Smoothie หรือเมนูเครื่องดื่ม แถมทางร้านยังคิดสูตรต่าง ๆ จากผลไม้ที่เข้ากันให้คุณเลือกได้ง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมากอีกด้วย ว่าแล้วก็ลองชิม Mix Berries Bowl (149 บาท) Smoothie Bowl ที่เบสด้วย สตรอเบอร์รี ราสป์เบอร์รี บลูเบอร์รี และกล้วย ที่ทางร้านนำมาอัดและแช่แข็งก่อนจะ นำไปปั่น จึงออกมาเป็นเนื้อผลไม้แน่น ๆ ไม่มีส่วนผสมอื่น มาพร้อม Topping ผลไม้สดอย่างกล้วย มะม่วง และเหล่าเบอร์รีที่หลากหลาย แต่หากใครอยากเลือก Topping เองก็สามารถเลือกได้เช่นกัน
ต่อด้วยเมนูเครื่องดื่มอย่าง Yellow Aloha (119 บาท) Smoothie ที่มีส่วนผสมของมะม่วงและส้ม เพิ่มความนุ่มนวลด้วยเนื้อโยเกิร์ตและนม เสิร์ฟมากับดิปเสาวรสเพิ่มความเปรี้ยวที่สร้างความลงตัวให้กับแก้วนี้ได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นน้ำผลไม้ที่เข้ากับอากาศร้อน ๆ Pineapple (79 บาท) น้ำสับปะรดปั่นสด ๆ ที่เสิร์ฟมาในลูกสับปะรด นอกจากจะอร่อยสดชื่นแล้วยังเป็นพร็อพถ่ายรูปได้สวย ๆ อีกด้วย
อีกกิมมิกเก๋ ๆ ของร้านที่ไม่เหมือนที่ไหนเลยคือ คุณสามารถเลือก Refresh Floating Set หรือตะกร้าลอยน้ำได้เมื่อสั่งเมนูครบ 500 บาทขึ้นไป โดยทางร้านจะจัดตะกร้าลอยให้ในสระด้านหลังให้ได้เก็บภาพพร้อมใช้เวลาไปกับบรรยากาศดี ๆ ได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย
Refresh.Tropical
โครงการ Limelight Avenue Phuket
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 19.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.30 - 20.00 น.
โทร. 087-545-7851
www.facebook.com/refresh.tropicalcafe
อัพเดตคาเฟ่กันอีกหน่อยที่ Sri the Shophouse หรือเรียกสั้น ๆ กันว่า “สี” คาเฟ่สไตล์มินิมัลแบบเกาหลีที่แอบอยู่ในซอยเล็ก ๆ ของย่านเมืองเก่า “สี” เป็นหนึ่งคาเฟ่น้องใหม่ของภูเก็ตที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานนัก โดดเด่นด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ที่นี่สร้างสรรค์โดยไอเดียของ คุณ Byuw และคุณ Daisuke เจ้าของร้านชาวเกาหลีและญี่ปุ่น ที่ค่อย ๆ ปั้นแต่งส่วนต่าง ๆ ของร้านให้ออกมาตามแบบที่ฝันไว้ โดยคุณบิวอธิบายที่มาของชื่อร้านให้เราฟังว่า “ผมตั้งใจให้ ‘สี’ แทนคาแรกเตอร์ของคนหนึ่งคนครับ เพราะในแต่ละคนก็จะประกอบไปด้วยหลากหลายสีแตกต่างกัน ชอบสีไม่เหมือนกัน เลยตั้งใจใช้คำว่าสีมาเป็นคาแรกเตอร์ของร้านด้วยครับ”
"สี" เกิดจาการรีโนเวทบ้านเก่าที่ร้างมานานให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นเรียบง่าย ด้วยการเน้นใช้สีขาวและเทา บนผนัง แฝงความอบอุ่นเข้าไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบมินิมัล ที่ผสานกันออกมาได้อย่างลงตัว แถมยังรีโนเวทได้เป็นอย่างดี เพราะรักษาพื้นที่ใช้สอยและเอกลักษณ์ของแต่ละจุดในบ้านไว้อย่างครบถ้วน ทั้งช่องแสงที่ถูกแทนที่ด้วยผ้าใบแบบเปิดรับแสงในวันที่แดดจ้าได้ หรือจะเป็นกระจกบานใหญ่ที่รับแสงสวย ๆ มาขับสีขาวของร้านให้ดูสว่างสบายตามากขึ้น แถมยังมีการติดภาพเล็ก ๆ ที่เป็นภาพพิมพ์ก่อนรีโนเวทไว้เทียบกับสถานที่จริงหลังการปรับปรุงตามจุดต่าง ๆ ให้ได้เดินดูกันเพลิน ๆ อีกด้วย
ชั้นลอยของทางร้านถูกปรับให้เป็น Gallery แบบเรียบง่าย แต่เพิ่มกิมมิกความเก๋ไว้ที่ทางเดินโดยติดไฟนีออนไว้ สอดแทรกความทันสมัยเข้าไปได้อย่างลงตัว โดยผลงานที่โชว์อยู่ที่นี่เป็นผลงานจากศิลปินของภูเก็ตนั่นเอง มุมสวย ๆ แบบนี้ก็เหมาะกับลุคสาวชิค มั่นใจ ลองสวมเสื้อแขนกุดคอสูงพิมพ์ลายเรทโทร เพิ่มความเก๋ด้วยกิมมิกเป็นการผูกโบว์ที่ชายเสื้อ จับคู่กับกางเกงขาบานสีขาว ที่จะถ่ายรูปมุมไหนก็โดดเด่น
ในเรื่องของเมนูอาหาร Sri the Shophouse บริการทั้งเครื่องดื่ม ขนม และอาหารสไตล์ Brunch หลากหลายเมนูให้เลือกสั่งมาชิม ลองสั่งเครื่องดื่มมาจิบสวย ๆ ในแก้ว Signature ของทางร้านอย่าง Einspanner (95 บาท) กาแฟพรีเซนเทชันสวย ๆ เอาใจคนรักวิปครีม แก้วนี้เบสด้วยอเมริกาโนเย็น ท็อปด้านบนด้วย Half Whip Cream ก่อนจะเติม Whip Cream แน่น ๆ สูตรพิเศษของทางร้านอีกครั้งและโรยผงโกโก้เป็นอันดับสุดท้าย
ส่วนขนมของที่นี่น่ารักโดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยสไตล์ฝรั่งเศส โดยได้ความร่วมมือจากเพื่อนของคุณบิวจากร้าน Rustic มาช่วยสร้างสรรค์หลากหลายเมนูน่ารักเหล่านี้ ครั้งนี้ลองชิม Cloud (150 บาท) Coconut Cake ที่มาพร้อมชื่อน่ารัก ๆ ในรูปทรงก้อนเมฆปุกปุยสีขาว ท็อปด้วยบนด้วยดวงจันทร์เสี้ยวสีเหลืองพาสเทล ด้านในตัวเค้กประกอบด้วย Coconut Mousse และ Tripical Fruit Jelly หรือใครชอบรสเปรี้ยว ๆ ลองชิม Lemon (180 บาท) ที่มาในรูปแบบลูกเลมอนสีเหลืองสดใส ด้านในประกอบด้วย Lemon Mousse, Berry Fruit Jelly และ Pistachio Cream and Biscuit เสิร์ฟมาบนข้าวพอง
นอกจากเมนูเครื่องดื่มและขนมที่น่ารักโดดเด่นแล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟหลากหลายเมนู Brunch คุณภาพดีให้เลือกชิมด้วย แนะนำ Cinnamon French Toast (220 บาท) เมนูแสนคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศส ขนมปังย่างมาพร้อมกับเบคอนกรอบ, Grilled Bananas และ Blueberries Dizzeled and Honey
Sri the Shophouse
ซอยสุ่นอุทิศ
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 19.00 น.
โทร. 089-465-8954
www.facebook.com/sritheshophouse
Have a Nice Stay
มาเมืองคูล ๆ แล้ว ก็ต้องไม่พลาดพักที่ชิค ๆ แนะนำให้คุณไปเช็กอินกันที่ Our Nomad โฮสเทล 4 ชั้นสไตล์มินิมัล ที่เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ และห้องพักหลากสไตล์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยทั้งหมดนี้เกิดจาก คุณพี - เจ้าของที่นี่ ที่ตั้งใจรังสรรค์พื้นที่แห่งนี้ให้ออกมาตามที่ฝันเอาไว้โดยตั้งใจให้ด้านล่างเป็นบาร์และด้านบนเป็นส่วนของห้องพัก
“ผมเป็นคนชอบไปเที่ยว และในการไปเที่ยวแต่ละครั้งผมชอบเลือกนอนที่โฮสเทล เพราะโฮสเทลทำให้เราได้เจอกับอะไรใหม่ ๆ เจอทั้งคนและบรรยากาศที่ไม่ซ้ำกัน อีกอย่างคือผมชอบเรื่องของการดีไซน์ออกแบบมากครับ เลยอยากสร้างสถานที่แบบนั้นเป็นของตัวเอง” คุณพีอธิบายให้ฟังถึงเหตุผลที่สร้าง Our Nomad
Our Nomad ถูกตั้งชื่อตามคอนเซ็ปต์ของโฮสเทล ที่พร้อมต้นรับเหล่านักเดินทาง หรือที่เรียกกันว่า “Nomad” พร้อมความสะดวกสบายทั้งเรื่องรูปแบบของห้องพักที่มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบ Dorm หรือจะเป็นห้องแบบ Private รวมทั้งหมดกว่า 9 ห้อง ในราคาน่ารัก ตั้งแต่ 340 - 1,615 บาท รวมทั้งยังมีห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งจานชาม มุมนั่งเล่นและเกมสำหรับทุกคน
“ที่นี่ผมตั้งใจให้คนที่มาอยู่สบายที่สุด เราใส่ใจกับ Facility ต่าง ๆ ทั้งที่นอนเครื่องนอนเราก็ใช้แบบคุณภาพโรงแรม ห้องใหญ่มีเครื่องทำกาแฟให้ด้วย รวมถึงมี Smart TV ให้ในห้อง เป็น Netflix TV เพราะตั้งใจให้คนได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่อย่างคุ้มค่าที่สุด” คุณพีเล่าให้ฟังถึงความตั้งใจที่อยากมอบช่วงเวลาดี ๆ ให้แขกที่มาเยือน
ความโดดเด่นของที่นี่อยู่ที่ดีไซน์ที่ต้องการนำเสนอการผสมผสานเอาเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ตอย่างการก่อสร้างสไตล์ชิโนโปรตุกีสเข้ากับ Mid Century Modern ที่สะท้อนออกมาผ่านส่วนโค้งมนของขอบประตูหน้าต่าง เน้นการเล่นกับสีสันแบบโมเดิร์นและสีทองในบางรายละเอียด รวมไปถึงไฟสวย ๆ ในส่วนต่าง ๆ ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ โดดเด่นไม่เหมือนที่ไหน
ส่วนยามเย็น เหล่านักดื่มก็ไม่ต้องเดินทางไปที่ไหนไกล เพราะช่วงเย็นคุณสามารถนั่งชิลล์ได้ที่บาร์บริเวณชั้น 1 ที่เสิร์ฟทั้งคราฟต์เบียร์และค็อกเทลซิกเนเจอร์ทั้ง 9 เมนู ส่วนยามเช้าบริเวณบาร์ส่วนนี้จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น Slow Bar บริการหลากหลายเมนูกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟจากเชียงใหม่ แถมยังมีเมล็ด Selection จากประเทศต่าง ๆ มาให้คุณเลือกชิมด้วย เมนูส่วนใหญ่จะเน้นเป็น Cold Brew และ Drip ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของวันใหม่ได้แบบสดชื่น
กิมมิกของบาร์คือไฟนีออนสีแดงที่ถูกครีเอทให้เป็นตัวอักษรอยู่บนผนัง สร้างความโดดเด่นให้ที่นี่ได้เป็นอย่างดี ผนังอีกด้านอบอุ่นด้วยโคมไฟทรงสูงแสนคลาสสิกที่มอบบรรยากาศแสนละมุนให้มุมนี้ด้วยไฟสีนวลเข้ากับเป็นอย่างดีกับโปสเตอร์แบบจีน ๆ บนผนังและมุมนั่งสบาย
ให้สาว ๆ เปลี่ยนลุคมาเป็นสาวมั่นสุดอินเทรนด์พร้อมดินเนอร์และนั่งชิลล์จิบค็อกเทลแก้วโปรดด้วยจั๊มพ์สูทพิมพ์ลายตัดต่อที่ผสานกันระหว่างลายหยดน้ำเพสลีย์ ลายพิมพ์เรโทร และสีโทนเข้มสีพื้น จับคู่กับกระเป๋าหนังทรงดัฟเฟิลที่ไม่ว่าจะใช้แบบสะพายข้างหรือจะใช้เป็นแบบกระเป๋าถือก็ดูดี
Our Nomad
ถนนพังงา
เปิดทุกวัน
โทร.080-905-9962
www.facebook.com/ournomad
Let's Check in at the Museum
ฮอปปิ้งที่หลากหลายคาเฟ่กันไปแล้ว ก่อนกลับพักมาเดินเล่นพร้อมเก็บภาพสวย ๆ กันที่ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ที่ปรับปรุงมาจากโรงเรียนจีนฮกเกี้ยน ถือเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของเมืองภูเก็ต ที่นี่ถือเป็นต้นแบบสถาปัตกรรมจีน - โปรตุเกส หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อของ ชิโนโปรตุกีส เอกลักษณ์ของบ้านเรือนในเขตเมืองเก่าภูเก็ต มีผังอาหารเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เปิดช่องว่าตรงกลางรับแสงธรรมชาติ ส่วนของหลังคาเป็นหลังคาแบบปั้นหยาผสมกับหลังคาจั่ว มุงด้วยกระเบื้องกาบดินเผา
ส่วนด้านในจัดแสดงภาพถ่ายเก่า ๆ ของโรงเรียนจีนฮกเกี้ยน รวมไปถึงมีห้องจำลองต่าง ๆ ให้เดินชม หรือจะอ่านประวัติบุคคลสำคัญ และความเป็นมาของเมืองภูเก็ต ตั้งแต่สมัยของชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่ เครื่องแต่งกายและอาหารประจำถิ่น งานประเพณีต่าง ๆ ของภูเก็ตก็เดินอ่านได้เพลิน ๆ เช่นกัน
พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว
28 ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น.
โทร. 076-211-224
www.museumthailand.com/th/museum/Phuket-Thaihua-Museum
Where the Sky Meet the Sea
สุดท้ายแนะนำให้ไปเดินเล่นรับลมทะเลชิลล์ ๆ อำลาเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์นี้กันที่หาดไม้ขาว ชายหาดสวย ๆ ทรายขาว ๆ แถมยังอยู่ใกล้กับสนามบิน สามารถดูเครื่องบินขึ้นลงได้ใกล้ ๆ เลย ใช้ช่วงเวลามองฟ้าตัดกับสีน้ำทะเลสวย ๆ จนเต็มอิ่มแล้วก็โบกมือลาภูเก็ตพร้อมชมวิวมุมสูงที่เผยภาพเขตทะเลกับเกาะแก่งน้อยใหญ่ผ่านหน้าต่างบนเครื่องบิน AirAsia ที่จะพาคุณเดินทางกลับสู่สนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ