การถ่ายภาพแนวย้อนยุค ด้วยระบบ Analog กำลังกลับมาเป็นที่นิยมโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาให้ความสนใจใช้กล้องฟิล์มหรือกล้องยุคโบราณอย่างกล้อง Large Format ผ่านระบบ Manual ที่ทำให้ได้โทนภาพสีสุดคลาสสิกไว้เป็นของขวัญบันทึกความทรงจำสุดประทับใจ เช่นเดียวกับร้าน Red Light Lab หนึ่งในสตูดิโอถ่ายภาพ (เพียงไม่กี่แห่ง) ในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการช่างชุ่ย ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มีโมเมนต์ดี ๆ บันทึกภาพถ่ายสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ด้วยกัน ส่วนเบื้องหลังการทำงานของสตูดิโอแห่งนี้จะน่าสนใจแค่ไหน ตาม BKK ไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย
All About Red Light Lab
Red Light Lab สตูดิโอถ่ายภาพแนวย้อนยุคสุดคลาสสิกแห่งนี้เกิดจากความตั้งใจอันดีของ คุณซัน-ทัพพวุฒิ ปริญญาปริวัฒน์ ชายหนุ่มผู้รักการถ่ายภาพสไตล์ Analog เป็นชีวิตจิตใจ ต้องการถ่ายทอดเรื่องราว มนต์เสน่ห์ของภาพถ่ายที่ให้มู้ดแอนด์โทนเก่า ๆ มอบอารมณ์ความรู้สึกได้ราวกับนั่งไทม์แมชชีนกลับไปในอดีตเลยทีเดียว
คุณซัน-ทัพพวุฒิ ปริญญาปริวัฒน์ ทำงานด้านการถ่ายภาพมาโดยตลอด เรียนจบด้านศิลปะจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ แล้วเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพด้วยตัวเองมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ซึ่งร้าน Red Light Lab แห่งนี้เกิดจากไอเดียโปรเจกต์การถ่ายภาพวิทยานิพนธ์ของเขา ประจวบเหมาะกับช่วงที่โครงการช่างชุ่ยกำลังจะเปิดตัว จึงนำโปรเจกต์งานการถ่ายภาพสไตล์นี้ไปนำเสนอ คุณลิ้ม-สมชัย ส่งวัฒนา ผู้เป็นเจ้าของโครงการช่างชุ่ย ซึ่งเขาก็ให้ความสนใจในผลงานของคุณซันอย่างมาก เพราะเป็นเทคโนโลยีในยุคคลาสสิกที่มีมาตั้งแต่สมัย ค.ศ.1850 เป็นศาสตร์การถ่ายรูปที่เลือนหายไปแล้ว หาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ
Good Old Days, Great Memories
ความท้าทายหรือคอนเซ็ปต์การถ่ายภาพของที่ร้านอยู่ที่กระบวนการถ่ายภาพที่มีเพียงช็อตเดียว รูปเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้น ทั้งคนถ่ายและคนที่ถูกถ่ายจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว ต้องมีการเซ็ตทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนถ่าย เตรียมพร้อมก่อนลงมือลั่นชัตเตอร์เสมอ สิ่งนี้เองจึงนับเป็นเสน่ห์ของภาพเก่า ยากที่กล้องดิจิตอลจะเลียนแบบได้
Vintage Vibes
ไม่เพียงแต่กระบวนการถ่ายภาพเท่านั้นที่คงความคลาสสิกไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว บรรยากาศภายในร้านยังเพิ่มความเก่าเข้าไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งสไตล์วินเทจ พร้อมโชว์ผลงานภาพตัวอย่างที่เสริมความขลังให้กับ Red Light Lab ไปในตัว
The Solution
การถ่ายภาพสไตล์นี้อยู่ที่กระบวนการทางเคมี เป็นวิทยาการที่มีมาก่อนยุคฟิล์มสำเร็จรูป นักวิทยาศาสตร์สมัยนั้นสามารถคำนวณสารเคมีได้อย่างเที่ยงตรง เพียงแต่ยังไม่เสถียรนัก กระบวนการถ่ายภาพนี้ เรียกว่า Wet Plate Collodion (ล้างภาพบนกระจกสีดำ และมีลำดับขั้นตอนที่ทำทุกอย่างขณะเปียก) เวลาที่มีลูกค้ามาใช้บริการก็จะลงมือถ่ายภาพ ล้างรูปเสร็จสรรพ ณ ตอนนั้นเลย ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาได้รวดเร็วทันใจกว่าการล้างฟิล์มเสียอีก
จะเห็นได้ว่าผลงานภาพถ่ายแต่ละภาพภายในร้านเป็นการนำแร่เงินมาติดกระจกมาเคลือบ หรืออีกนัยหนึ่งเป็นกระจกที่เคลือบด้วย Collodion (หนึ่งในวัสดุไวแสง ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฟิล์ม ก่อนที่กระบวนการ Dry Plate จะมาแทนที่) ซึ่งจะดึงตัวเงินให้มาติดกับกระจก จนเกิดเป็นภาพลักษณะขาวดำ ได้อารมณ์ภาพเก่าเหมือนคนถูกถ่ายเข้าไปอยู่ในยุค 70s-80s อย่างไรอย่างนั้น
สำหรับกล้องที่ใช้ถ่ายภาพ ทางร้านจะใช้กล้อง Large Format คือฟอร์แมตที่ขนาดใหญ่มากกว่าฟิล์ม Medium Format 35mm. บ้างก็เรียกว่ากล้องโบราณ หรือกล้อง View Camera (ซึ่งถ้าขนาดกล้องใหญ่ ภาพที่ล้างออกมาก็จะมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย) ส่วนการถ่ายภาพดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ อีกทั้งทางร้านยังมีเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย พร็อบ อุปกรณ์ ฉากต่าง ๆ ให้ Fiting ยืมใส่ถ่ายภาพอีกด้วย หากใครจะเตรียมพร้อมมาจากบ้านเองก็ทำได้เช่นกัน
การให้บริการของที่นี่มีขนาดภาพให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบขาวดำทั่วไป จนถึงแบบฟิล์มกระจกเงินพร้อมกรอบรูป (4x5 นิ้ว ช่วงโปรโมชั่น ราคา 1,500 บาท/6.5x8.5 นิ้ว ราคา 2,000 บาท/8x10 นิ้ว ราคา 2,500 บาท/10x12 นิ้ว ราคา 5,000 บาท/11x14 นิ้ว ราคา 7,000 บาท) สามารถเลือกใช้บริการได้ตามความสะดวก
ชื่อร้าน Red Light Lab มีที่มาจากกระบวนการถ่ายภาพ แล็ปกลางรูปซึ่งมีสีแดง ประกอบกับแล็ปเดิมของคุณซันนั้นตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Red Light ย่านสุขุมวิท จึงนำชื่อเรียกทั้งหมดที่สอดคล้องกันนั้นมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
One Moment in Time
เหตุที่คุณซันกลับมาสนใจงานถ่ายภาพแบบนี้ ในขณะที่หลาย ๆ คนหันไปให้ความสนใจกับรูปแบบดิจิตอลเพราะในทางศิลปะนั้นการถ่ายภาพลักษณะนี้สามารถต่อยอดเรื่องความคิด การครีเอท การวางแผนก่อนการถ่ายภาพ เพื่อให้ได้ผลงานการถ่ายภาพที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ซึ่งภาพถ่ายกระจกดำนี้มีเสน่ห์คล้าย ๆ กันกับภาพถ่ายโพลารอยด์ เพียงแต่เจ๋งกว่าตรงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นโพลารอยด์ทำมือ
สตูดิโอถ่ายภาพย้อนยุคเหมือนเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างกิจกรรมดี ๆ ให้กับคนในครอบครัว เปิดโอกาสให้ได้มารวมตัวกัน บันทึกความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน แน่นอนว่าใครได้ลองมาถ่ายภาพที่นี่สักครั้ง เท่ากับเป็นการสนับสนุนกระบวนการถ่ายภาพแบบพิเศษที่เรียกว่า Lost Art หรือห่างหายไปจากยุคปัจจุบันไปโดยปริยาย ได้ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เปิดประสบการณ์การถ่ายภาพในห้องภาพโบราณที่ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยในยุคปัจจุบัน
การใช้บริการถ่ายภาพของที่นี่จะต้องจองคิวใช้สตูดิโอถ่ายภาพก่อนล่วงหน้า (อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์) เท่านั้น
