All in One Place
ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำแฟชั่นยีนส์ในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ Indigoskin แบรนด์ยีนส์สัญชาติไทยที่ก่อตั้งโดย คุณก้อ-ธัชวีร์ สนธิระติ และคุณโก้-สุทธิธัช สนธิระติ สองพี่น้องผู้หลงใหลในเสน่ห์ของเดนิมหรือยีนส์จนได้รับการยอมรับจากทั้งคนไทยและต่างชาติ สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในแวดวงคนรักยีนส์มามากมาย หลังจากก่อตั้งมานานถึง 10 ปี และมีหน้าร้านในย่านสยาม สองพี่น้องก็ได้ตัดสินใจย้ายบ้านมาอยู่ในซอยศาลาแดง 2 เพื่อมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยการพ่วงคาเฟ่เล็ก ๆ เข้าไปในช็อปของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า Indigoskin Cafe โดยเน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มเบา ๆ ระหว่างที่ลูกค้ากำลังเลือกชมสินค้าภายในร้าน เพื่อสร้างความรู้สึกให้เข้าถึงตัวแบรนด์ได้ง่ายและเป็นกันเองมากขึ้น
Indigo Decoration
ย้ายมาบ้านหลังใหม่ ทั้งคู่ได้ทำการตกแต่งใหม่ทั้งหมด โดยยังคงนำของตกแต่งหลาย ๆ ชิ้นจากร้านเดิมมาเสริมแต่งเข้าไปตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่สวนหย่อมแบบ Zen ลวดลายต่าง ๆ ที่เพ้นท์และตกแต่งลงบนผนัง รวมถึงการใช้โทนสีดำ-น้ำเงิน ที่แสดงความเป็น Indigoskin ได้อย่างชัดเจน
แฟน ๆ ของ Indigoskin คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทางแบรนด์ได้เปลี่ยนดีไซน์ของโลโก้ใหม่เพื่อความร่วมสมัยมากขึ้น จากเดิมที่เป็นลายกนกบัวเพียงอย่างเดียว ก็พัฒนามาเป็นการนำเอาตัวอักษรภาษาอังกฤษเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลโก้ด้วย จะเห็นได้ว่าแม้ปลี่ยนโลโก้แล้ว แต่ทางแบรนด์ก็ยังถ่ายทอดความเป็นไทยอยู่ในทุกมุมมอง
Momotaro x Indigoskin
แน่นอนว่ายีนส์แต่ละตัว ดีไซน์การออกแบบมาจากคุณก้อและคุณโก้ที่ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ โดยเลือกใช้ผ้ายีนส์คัดพิเศษจากโรงงานที่ Okayama ประเทศญี่ปุ่น อย่างที่ทราบกันดีว่ายีนส์แบรนด์ญี่ปุ่นจะใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้ายที่ใช้ สีที่ย้อม ทำให้ได้ผ้ายีนส์ที่ทนทานเหมาะแก่การสวมใส่ นอกจากนี้ทาง Indigoskin ยังสานฝันของตัวเองด้วยการร่วมกันออกแบบกางเกงยีนส์รุ่น Limited ร่วมกับ Momotaro Jeans แบรนด์เก่าแก่ชื่อดังของญี่ปุ่น จนสร้างปรากฏการณ์การต่อคิวซื้อกางเกงยีนส์นานข้ามวันข้ามคืน ก่อนจะจำหน่ายหมด 80 ตัว ภายใน 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงเกิดการยอมรับต่อผู้ที่หลงใหลยีนส์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากยีนส์แล้ว ทางแบรนด์ก็ได้แตกไลน์ออกมาเป็นเสื้อยืดจากผ้าทอพิเศษที่หลายคนคุ้นเคย ยกตัวอย่างรุ่น Indigo Splicing ที่ตัดเย็บจากผ้าสี Indigo ออกแบบให้ไล่เฉดสีกัน พร้อมสกรีนโลโก้ Indigoskin ที่หน้าอกด้านซ้าย ทำให้เข้าถึงคนหลายกลุ่มได้มากขึ้นอีกเท่าตัว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาเลือกลองและเลือกซื้อได้ที่ช็อปหน้าร้าน หรือเข้าไปช้อปออนไลน์ที่ www.indigoskinjeans.com/onlinestore
ขณะเดียวกันบริเวณชั้นล่างก็มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลายเมนู โดยเฉพาะกาแฟ House Blend ซึ่งมีไว้เสิร์ฟดื่มที่ร้านและจำหน่ายเมล็ดกาแฟไปด้วยในตัว นอกจากนี้ยังจำหน่ายแก้วกาแฟร้อนสุดเท่ในราคาแก้วละ 1,200 บาท ให้คอกาแฟได้เลือกช้อปกันอีกด้วย
ทางร้านแนะนำซิกเนเจอร์เมนูอย่าง Latte (100 บาท) ที่ได้ร้าน Koff & Bun Specialty Coffee มาดูแลเรื่องเมล็ดกาแฟให้ สำหรับแก้วนี้ใช้เมล็ดที่คั่วเข้ม เหมาะนำมาทำกาแฟใส่นม รสชาติของเมล็ดมีรสมันคล้ายถั่ว และทุกแก้วจะไม่ใส่ไซรัป
อีกหนึ่งซิกเนเจอร์เมนู ได้แก่ Military Latte (120 บาท) มัทฉะ นม และกาแฟ แยกชั้นกันอย่างสวยงาม ก่อนดื่มคนให้เข้ากัน จะได้รสชาติหอมมัน จากชาเขียวที่เข้มข้น
สำหรับวันและเวลาเปิด-ปิดนั้น ทั้ง 2 โซนจะเปิดต่างกัน โซนคาเฟ่ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. และโซนร้านเสื้อผ้า เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น.